คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (กำหนดห้ามพาอาวุธปืนเข้าในเขตท่องเที่ยว) ซึ่งเป็นการป้องกันอาชญากรรมและสอดคล้องกับนดยบายของรัฐบาล ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณา ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แล้วนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอว่า ในการสัมมนาการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการพาอาวุธปืนเข้าไปในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวหลัก โดยให้มีได้เฉพาะในเคหสถานและเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น และให้กำหนดโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนไว้ด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 11)ได้ดำเนินการแก้ไขในกฎหมายดังกล่าวเสร็จแล้ว โดยกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเห็นชอบด้วยแล้ว
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีหลักการและสาระสำคัญคือ สมควรกำหนดเขตท่องเที่ยวบางแห่งเป็นเขตห้ามพาอาวุธปืนไปในเขตดังกล่าว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้นในแหล่งท่องเที่ยวหลัก อันจะเป็นการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และสมควรกำหนดอัตราโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนข้อห้ามดังกล่าว โดยแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ดังต่อไปนี้
1. กำหนดห้ามมิให้พาอาวุธปืนไปในเขตท่องเที่ยวตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ และตามที่จะกำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา (เพิ่มเติมมาตรา 8 ตรี)
ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นตามสมควรแก่พฤติการณ์ นายทะเบียนท้องที่อาจอนุญาตเป็นหนังสือให้เป็นการครั้งคราวสำหรับการพาไปใน การนำเข้าใน หรือการนำออกนอก เขตดังกล่าวซึ่งอาวุธปืน และจะกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ในการอนุญาตก็ได้
ผู้ใดมีอาวุธปืนและจะเดินทางเข้าไปในเขตท่องเที่ยวโดยไม่มีหนังสืออนุญาตตามที่กำหนดไว้ในวรรคสอง ให้ส่งมอบอาวุธปืนไว้แก่เจ้าพนักงาน
การออกหนังสืออนุญาต การกำหนดสถานที่ วิธีการ เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจจัดเก็บอาวุธปืน การส่งมอบอาวุธปืน และการขอรับอาวุธปืนคืน ให้เป็นไปตามระเบียบที่นายทะเบียนท้องที่กำหนดโดยความเห็นชอบจองรัฐมนตรี
2. กำหนดอัตราโทษกรณีที่มีการฝ่าฝืนมาตรา 8 ตรี วรรคหนึ่ง (เพิ่มเติมมาตรา 72 ตรี) ดังนี้
"มาตรา 72 ตรี ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 8 ตรี วรรคหนึ่ง ถ้าผู้นั้น
1) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2) เป็นผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และการกระทำนั้นเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 8 ทวิ วรรคสองด้วย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4) เป็นผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และการกระทำนั้นเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 8 ทวิ วรรคสอง ด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสองแสนบาท"
3. กำหนดบัญชีกำหนดเขตท่องเที่ยวที่ห้ามพาอาวุธปืนตามมาตรา 8 ตรี วรรคหนึ่ง ท้ายพระราชบัญญัติดังนี้
"บัญชีกำหนดเขตท่องเที่ยวที่ห้ามพาอาวุธปืนตามมาตรา 8 ตรี วรรคหนึ่งลำดับที่ จังหวัด เขตท่องเที่ยว12345 ชลบุรีเชียงใหม่ภูเก็ตสงขลาสุราษฎร์ธานี เมืองพัทยาเทศบาลนครเชียงใหม่ทุกอำเภอเทศบาลนครหาดใหญ่อำเภอเกาะสมุย
อนึ่ง คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกานำข้อสังเกตของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไปปรับปรุงเพิ่มเติมข้อความในมาตรา 8 ตรี วรรคท้าย โดยให้มีข้อยกเว้นว่า ให้พาอาวุธปืนได้โดยมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามความสมควรแก่เหตุพฤติการณ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 ต.ค. 44--
-สส-
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอว่า ในการสัมมนาการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการพาอาวุธปืนเข้าไปในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวหลัก โดยให้มีได้เฉพาะในเคหสถานและเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น และให้กำหนดโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนไว้ด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 11)ได้ดำเนินการแก้ไขในกฎหมายดังกล่าวเสร็จแล้ว โดยกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเห็นชอบด้วยแล้ว
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีหลักการและสาระสำคัญคือ สมควรกำหนดเขตท่องเที่ยวบางแห่งเป็นเขตห้ามพาอาวุธปืนไปในเขตดังกล่าว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้นในแหล่งท่องเที่ยวหลัก อันจะเป็นการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และสมควรกำหนดอัตราโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนข้อห้ามดังกล่าว โดยแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ดังต่อไปนี้
1. กำหนดห้ามมิให้พาอาวุธปืนไปในเขตท่องเที่ยวตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ และตามที่จะกำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา (เพิ่มเติมมาตรา 8 ตรี)
ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นตามสมควรแก่พฤติการณ์ นายทะเบียนท้องที่อาจอนุญาตเป็นหนังสือให้เป็นการครั้งคราวสำหรับการพาไปใน การนำเข้าใน หรือการนำออกนอก เขตดังกล่าวซึ่งอาวุธปืน และจะกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ในการอนุญาตก็ได้
ผู้ใดมีอาวุธปืนและจะเดินทางเข้าไปในเขตท่องเที่ยวโดยไม่มีหนังสืออนุญาตตามที่กำหนดไว้ในวรรคสอง ให้ส่งมอบอาวุธปืนไว้แก่เจ้าพนักงาน
การออกหนังสืออนุญาต การกำหนดสถานที่ วิธีการ เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจจัดเก็บอาวุธปืน การส่งมอบอาวุธปืน และการขอรับอาวุธปืนคืน ให้เป็นไปตามระเบียบที่นายทะเบียนท้องที่กำหนดโดยความเห็นชอบจองรัฐมนตรี
2. กำหนดอัตราโทษกรณีที่มีการฝ่าฝืนมาตรา 8 ตรี วรรคหนึ่ง (เพิ่มเติมมาตรา 72 ตรี) ดังนี้
"มาตรา 72 ตรี ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 8 ตรี วรรคหนึ่ง ถ้าผู้นั้น
1) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2) เป็นผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และการกระทำนั้นเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 8 ทวิ วรรคสองด้วย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4) เป็นผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และการกระทำนั้นเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 8 ทวิ วรรคสอง ด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสองแสนบาท"
3. กำหนดบัญชีกำหนดเขตท่องเที่ยวที่ห้ามพาอาวุธปืนตามมาตรา 8 ตรี วรรคหนึ่ง ท้ายพระราชบัญญัติดังนี้
"บัญชีกำหนดเขตท่องเที่ยวที่ห้ามพาอาวุธปืนตามมาตรา 8 ตรี วรรคหนึ่งลำดับที่ จังหวัด เขตท่องเที่ยว12345 ชลบุรีเชียงใหม่ภูเก็ตสงขลาสุราษฎร์ธานี เมืองพัทยาเทศบาลนครเชียงใหม่ทุกอำเภอเทศบาลนครหาดใหญ่อำเภอเกาะสมุย
อนึ่ง คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกานำข้อสังเกตของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไปปรับปรุงเพิ่มเติมข้อความในมาตรา 8 ตรี วรรคท้าย โดยให้มีข้อยกเว้นว่า ให้พาอาวุธปืนได้โดยมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามความสมควรแก่เหตุพฤติการณ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 ต.ค. 44--
-สส-