ทำเนียบรัฐบาล--27 มิ.ย.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติวิธีการจัดหาปัจจัยการผลิตเพื่อช่วยเหลือกรณีความเสียหายจากอุทกภัย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยการจัดหาปัจจัยการผลิต ดังนี้
1. พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ และพันธุ์สัตว์น้ำ ได้จัดหาจากหน่วยงานของรับ ยกเว้นกรณีรัฐผลิตไม่เพียงพอหรือไม่ตรงกับความต้องการของเกษตรกรจึงจัดหาจากแหล่งอื่น
2. ในการจัดหาปุ๋ยเคมี ให้หน่วยงานของรัฐเป็นผู้จัดหา โดยให้จัดหาจากปุ๋ยคงเหลือของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2542)
สำหรับงบกลางที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขออนุมัติเพื่อช่วยเหลือกรณีความเสียหายจากอุทกภัยให้เป็นไปตามความเห็นสำนักงบประมาณ โดยสำนักงบประมาณมีความเห็นว่า เรื่องนี้สำนักงบประมาณได้อนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการช่วยเหลือไปแล้ว จำนวน 45,474,131 บาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 และจำนวน 194,204,861 บาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2542 และการขออนุมัติงบกลางของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและซ่อมแซมทรัพย์สินของทางราชการที่เสียหายจากอุทกภัยในรอบปี พ.ศ. 2542 และบางส่วนในปี พ.ศ. 2541 เป็นการขออนุมัติภายหลังจากเกิดเหตุการณ์อุทกภัย ซึ่งนับจนถึงบัดนี้เป็นเวลาล่วงเลยมานานพอสมควรแล้ว จึงมิใช่เป็นการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องขออนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นไปดำเนินการ แต่เป็นการช่วยเหลือปัจจัยการผลิตด้านการเกษตร ประมง และปศุสัตว์ ตามหน้าที่ความรับผิดชอบโดยปกติของส่วนราชการ ซึ่งสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณ พ.ศ. 2543 ให้แล้ว ในงาน/โครงการของแผนงานดังต่อไปนี้ แผนงานส่งเสริมการกสิกรรม ในส่วนของการส่งเสริมการเกษตร จำนวน 1,645,486,800 บาท แผนงานพัฒนาการผลิตด้านการประมง จำนวน 546,917,700 บาท แผนงานพัฒนาการผลิตด้านการปศุสัตว์ จำนวน 759,804,200 บาท และแผนงานปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ที่ดินในส่วนของงานสหกรณ์นิคม จำนวน 394,326,600 บาท และแผนงานปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ที่ดินในส่วนของงานสหกรณ์นิคม จำนวน 394,326,600 บาท ดังนั้น จึงเห็นสมควรที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะให้ส่วนราชการดังกล่าวข้างต้นได้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับของส่วนราชการนั้น ๆ เพื่อการดำเนินงานดังกล่าวตามความจำเป็นเหมาะสม และลำดับความสำคัญ นอกจากกรณีได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยเร่งด่วนหลังจากเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงแล้วยังจำเป็นต้องมีการฟื้นฟูซ่อมแซมอย่างมากโดยเร่งด่วน ซึ่งต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนมาก หลังจากได้ใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อการดังกล่าวไปแล้วยังไม่เพียงพอ ก็อาจขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเป็นกรณีไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 27 มิ.ย. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีอนุมัติวิธีการจัดหาปัจจัยการผลิตเพื่อช่วยเหลือกรณีความเสียหายจากอุทกภัย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยการจัดหาปัจจัยการผลิต ดังนี้
1. พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ และพันธุ์สัตว์น้ำ ได้จัดหาจากหน่วยงานของรับ ยกเว้นกรณีรัฐผลิตไม่เพียงพอหรือไม่ตรงกับความต้องการของเกษตรกรจึงจัดหาจากแหล่งอื่น
2. ในการจัดหาปุ๋ยเคมี ให้หน่วยงานของรัฐเป็นผู้จัดหา โดยให้จัดหาจากปุ๋ยคงเหลือของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2542)
สำหรับงบกลางที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขออนุมัติเพื่อช่วยเหลือกรณีความเสียหายจากอุทกภัยให้เป็นไปตามความเห็นสำนักงบประมาณ โดยสำนักงบประมาณมีความเห็นว่า เรื่องนี้สำนักงบประมาณได้อนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการช่วยเหลือไปแล้ว จำนวน 45,474,131 บาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 และจำนวน 194,204,861 บาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2542 และการขออนุมัติงบกลางของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและซ่อมแซมทรัพย์สินของทางราชการที่เสียหายจากอุทกภัยในรอบปี พ.ศ. 2542 และบางส่วนในปี พ.ศ. 2541 เป็นการขออนุมัติภายหลังจากเกิดเหตุการณ์อุทกภัย ซึ่งนับจนถึงบัดนี้เป็นเวลาล่วงเลยมานานพอสมควรแล้ว จึงมิใช่เป็นการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องขออนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นไปดำเนินการ แต่เป็นการช่วยเหลือปัจจัยการผลิตด้านการเกษตร ประมง และปศุสัตว์ ตามหน้าที่ความรับผิดชอบโดยปกติของส่วนราชการ ซึ่งสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณ พ.ศ. 2543 ให้แล้ว ในงาน/โครงการของแผนงานดังต่อไปนี้ แผนงานส่งเสริมการกสิกรรม ในส่วนของการส่งเสริมการเกษตร จำนวน 1,645,486,800 บาท แผนงานพัฒนาการผลิตด้านการประมง จำนวน 546,917,700 บาท แผนงานพัฒนาการผลิตด้านการปศุสัตว์ จำนวน 759,804,200 บาท และแผนงานปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ที่ดินในส่วนของงานสหกรณ์นิคม จำนวน 394,326,600 บาท และแผนงานปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ที่ดินในส่วนของงานสหกรณ์นิคม จำนวน 394,326,600 บาท ดังนั้น จึงเห็นสมควรที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะให้ส่วนราชการดังกล่าวข้างต้นได้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับของส่วนราชการนั้น ๆ เพื่อการดำเนินงานดังกล่าวตามความจำเป็นเหมาะสม และลำดับความสำคัญ นอกจากกรณีได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยเร่งด่วนหลังจากเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงแล้วยังจำเป็นต้องมีการฟื้นฟูซ่อมแซมอย่างมากโดยเร่งด่วน ซึ่งต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนมาก หลังจากได้ใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อการดังกล่าวไปแล้วยังไม่เพียงพอ ก็อาจขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเป็นกรณีไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 27 มิ.ย. 2543--
-สส-