คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง แล้วมีมติเห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกลุ่มประเทศผู้บริจาคในการเพิ่มทุนครั้งที่ 7 ของกองทุนพัฒนาเอเซีย (The Seventh Replenishment of Asian Development Fund - ADF VIII) รอบที่ 3 ในระหว่างวันที่ 9 - 11 พฤษภาคม 2543 ภายหลังจากการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเซีย ครั้งที่ 33 ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยให้กระทรวงการคลังและจังหวัดเชียงใหม่เป็นหน่วยงานหลักในการจัดประชุมดังกล่าว และอนุมัติค่าใช้จ่ายในการจัดการประชุมดังกล่าวเป็นเงิน 1,084,800 บาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2543 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ทั้งนี้ ADF เป็นกองทุนที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของธนาคารพัฒนาเอเซีย จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2516 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินที่มีเงื่อนไขผ่อนปรนแก่ประเทศสมาชิกที่มีฐานะยากจนในรูปเงินกู้ไม่มีดอกเบี้ย แต่คิดค่าบริการเงินกู้ในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี ระยะเวลาการชำระหนี้คืนประมาณ 15 - 40 ปี โดยมีแหล่งเงินทุนมาจากเงินบริจาคของประเทศสมาชิกที่เป็นประเทศพัฒนาแล้ว และประเทศสมาชิกที่มีศักยภาพที่จะเป็นผู้บริจาคใหม่ ซึ่งตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกองทุนฯ มีประเทศร่วมบริจาค 24 ประเทศ แยกเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว 19 ประเทศ และประเทศกำลังพัฒนา 5 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ มาเลเซีย และไทย โดยประเทศผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดคือ ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา สำหรับประเทศไทยนั้น ได้เข้าร่วมบริจาคสมทบกองทุนฯ เป็นครั้งแรกในการเพิ่มทุนของกองทุนฯ ครั้งที่ 6 (ADF VII) เมื่อปี 2540 ในวงเงิน 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 101,024,800 บาท โดยในปัจจุบันธนาคารฯ ได้เรียกชำระไปแล้ว 9,088,000 บาท
อนึ่ง สำหรับการประชุม ADF VIII รอบที่ 3 ที่จะมีขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น จะมีการพิจารณาเรื่องที่สำคัญ คือ การจัดสรรเงิน แผนปฏิบัติการด้านธรรมรัฐ แผนการให้กู้ และกรอบการเงินสำหรับกองทุนฯ และในการประชุม ADF แต่ละครั้ง จะมีผู้บริหารระดับสูงจากประเทศผู้บริจาคเข้าร่วมประชุมประมาณ 100 - 200 คน (โดยอาจมีคู่สมรสติดตามมาด้วย) และตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา หากเป็นการประชุมต่อเนื่องจากการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเซียแล้ว ธนาคารฯ จะขอให้ประเทศที่เป็นเข้าภาพรับจัดประชุม ADF ด้วย ซึ่งรวมถึงการเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงอาหารกลางวันและอาคารค่ำให้แก่ผู้เข้าร่วมการประชุม และจัดเตรียมอำนวยความสะดวกด้านยานพาหนะและเจ้าหน้าที่สนับสนุนการประชุม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 25 เมษายน 2543--
ทั้งนี้ ADF เป็นกองทุนที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของธนาคารพัฒนาเอเซีย จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2516 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินที่มีเงื่อนไขผ่อนปรนแก่ประเทศสมาชิกที่มีฐานะยากจนในรูปเงินกู้ไม่มีดอกเบี้ย แต่คิดค่าบริการเงินกู้ในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี ระยะเวลาการชำระหนี้คืนประมาณ 15 - 40 ปี โดยมีแหล่งเงินทุนมาจากเงินบริจาคของประเทศสมาชิกที่เป็นประเทศพัฒนาแล้ว และประเทศสมาชิกที่มีศักยภาพที่จะเป็นผู้บริจาคใหม่ ซึ่งตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกองทุนฯ มีประเทศร่วมบริจาค 24 ประเทศ แยกเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว 19 ประเทศ และประเทศกำลังพัฒนา 5 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ มาเลเซีย และไทย โดยประเทศผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดคือ ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา สำหรับประเทศไทยนั้น ได้เข้าร่วมบริจาคสมทบกองทุนฯ เป็นครั้งแรกในการเพิ่มทุนของกองทุนฯ ครั้งที่ 6 (ADF VII) เมื่อปี 2540 ในวงเงิน 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 101,024,800 บาท โดยในปัจจุบันธนาคารฯ ได้เรียกชำระไปแล้ว 9,088,000 บาท
อนึ่ง สำหรับการประชุม ADF VIII รอบที่ 3 ที่จะมีขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น จะมีการพิจารณาเรื่องที่สำคัญ คือ การจัดสรรเงิน แผนปฏิบัติการด้านธรรมรัฐ แผนการให้กู้ และกรอบการเงินสำหรับกองทุนฯ และในการประชุม ADF แต่ละครั้ง จะมีผู้บริหารระดับสูงจากประเทศผู้บริจาคเข้าร่วมประชุมประมาณ 100 - 200 คน (โดยอาจมีคู่สมรสติดตามมาด้วย) และตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา หากเป็นการประชุมต่อเนื่องจากการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเซียแล้ว ธนาคารฯ จะขอให้ประเทศที่เป็นเข้าภาพรับจัดประชุม ADF ด้วย ซึ่งรวมถึงการเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงอาหารกลางวันและอาคารค่ำให้แก่ผู้เข้าร่วมการประชุม และจัดเตรียมอำนวยความสะดวกด้านยานพาหนะและเจ้าหน้าที่สนับสนุนการประชุม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 25 เมษายน 2543--