คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ให้องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) กู้เงินเพิ่มเติมจากธนาคารรัฐ เพื่อดำเนินงานตามโครงการแปรรูปและการตลาดลำไยอบแห้งปี 2547 อีกจำนวน 686.59 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ตามที่คณะรัฐมนตรีเคยมีมติไว้เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2547
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า
1. องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2547 และ 3 สิงหาคม 2547 โดยกู้ยืมเงินจากธนาคารของรัฐเพื่อใช้ในการดำเนินการตามโครงการ แปรรูปและการตลาดลำไย ปี 2547 วงเงิน 3,945 ล้านบาท ซึ่งเมื่อ อ.ต.ก. ได้ดำเนินการไประยะหนึ่ง ปรากฏว่า วงเงินดังกล่าวไม่พอเพียงต่อการดำเนินงานและคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) จึงได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ 7/2547 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2547 เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดย อ.ต.ก. กู้ยืมเงินเพิ่มเติมจำนวน 920.96 ล้านบาท จากธนาคารของรัฐเพื่อใช้ดำเนินโครงการจัดการตลาดลำไย ปี 2547
2. ในคราวประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีคณะที่ 2.2 (ฝ่ายการเกษตรทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ครั้งที่ 5/2547 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2547 ได้พิจารณาข้อเสนอของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะขอเพิ่มวงเงินดำเนินการแปรรูปและจัดการตลาดลำไยอบแห้ง ปี 2547 ตามข้อ 1 แล้ว มอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปตรวจสอบตัวเลขรายจ่ายที่แท้จริงที่ อ.ต.ก. ต้องขอความเห็นชอบกู้ยืมเงินเพิ่มเติมประกอบคำชี้แจงที่ชัดเจน เสนอคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
3. เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินโครงการ คณะกรรมการ อ.ต.ก. ได้อนุมัติใช้เงินงบบริหารมาดำเนินการในการนำลำไยอบแห้งบางส่วนที่อยู่กับผู้ประกอบการรับจ้างอบลำไยเข้าเก็บในคลังของ อ.ต.ก. จำนวน 500 ล้านบาทก่อน เมื่อ อ.ต.ก. ได้รับการอนุมัติการกู้เงินเพิ่มเติมจากธนาคารของรัฐแล้ว จะได้นำมาใช้คืนงบบริหารของ อ.ต.ก. ต่อไป
4. อ.ต.ก. ได้ร่วมกับสำนักงบประมาณตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงจากการดำเนินงานแล้ว ปรากฏว่าจะเป็นค่ารับซื้อลำไยสด 315,043.10 ตัน เป็นเงิน 3,461.32 ล้านบาท ค่าจ้างแปรรูป และการจัดการตลาดลำไยแห้ง 49,000 ตัน (21.13 บาท/กก.) เป็นเงิน 1,035.37 ล้านบาท และค่าบริหารจัดการร้อยละ 3 เป็นเงิน 134.90 ล้านบาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 4,631.59 ล้านบาท เมื่อหักกับวงเงินกู้ที่อนุมัติไว้เดิมจำนวน 3,945 ล้านบาท ทำให้ต้องขอกู้เงินเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนเงิน 686.59 ล้านบาท
5. คชก. ได้เห็นชอบการขอกู้เงินเพิ่มเติมดังกล่าวแล้ว ในการประชุมครั้งที่ 7/2547 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2547 โดยกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจะชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้ตามที่จ่ายจริง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 มกราคม 2548--จบ--
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า
1. องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2547 และ 3 สิงหาคม 2547 โดยกู้ยืมเงินจากธนาคารของรัฐเพื่อใช้ในการดำเนินการตามโครงการ แปรรูปและการตลาดลำไย ปี 2547 วงเงิน 3,945 ล้านบาท ซึ่งเมื่อ อ.ต.ก. ได้ดำเนินการไประยะหนึ่ง ปรากฏว่า วงเงินดังกล่าวไม่พอเพียงต่อการดำเนินงานและคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) จึงได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ 7/2547 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2547 เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดย อ.ต.ก. กู้ยืมเงินเพิ่มเติมจำนวน 920.96 ล้านบาท จากธนาคารของรัฐเพื่อใช้ดำเนินโครงการจัดการตลาดลำไย ปี 2547
2. ในคราวประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีคณะที่ 2.2 (ฝ่ายการเกษตรทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ครั้งที่ 5/2547 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2547 ได้พิจารณาข้อเสนอของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะขอเพิ่มวงเงินดำเนินการแปรรูปและจัดการตลาดลำไยอบแห้ง ปี 2547 ตามข้อ 1 แล้ว มอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปตรวจสอบตัวเลขรายจ่ายที่แท้จริงที่ อ.ต.ก. ต้องขอความเห็นชอบกู้ยืมเงินเพิ่มเติมประกอบคำชี้แจงที่ชัดเจน เสนอคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
3. เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินโครงการ คณะกรรมการ อ.ต.ก. ได้อนุมัติใช้เงินงบบริหารมาดำเนินการในการนำลำไยอบแห้งบางส่วนที่อยู่กับผู้ประกอบการรับจ้างอบลำไยเข้าเก็บในคลังของ อ.ต.ก. จำนวน 500 ล้านบาทก่อน เมื่อ อ.ต.ก. ได้รับการอนุมัติการกู้เงินเพิ่มเติมจากธนาคารของรัฐแล้ว จะได้นำมาใช้คืนงบบริหารของ อ.ต.ก. ต่อไป
4. อ.ต.ก. ได้ร่วมกับสำนักงบประมาณตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงจากการดำเนินงานแล้ว ปรากฏว่าจะเป็นค่ารับซื้อลำไยสด 315,043.10 ตัน เป็นเงิน 3,461.32 ล้านบาท ค่าจ้างแปรรูป และการจัดการตลาดลำไยแห้ง 49,000 ตัน (21.13 บาท/กก.) เป็นเงิน 1,035.37 ล้านบาท และค่าบริหารจัดการร้อยละ 3 เป็นเงิน 134.90 ล้านบาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 4,631.59 ล้านบาท เมื่อหักกับวงเงินกู้ที่อนุมัติไว้เดิมจำนวน 3,945 ล้านบาท ทำให้ต้องขอกู้เงินเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนเงิน 686.59 ล้านบาท
5. คชก. ได้เห็นชอบการขอกู้เงินเพิ่มเติมดังกล่าวแล้ว ในการประชุมครั้งที่ 7/2547 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2547 โดยกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจะชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้ตามที่จ่ายจริง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 มกราคม 2548--จบ--