ขออนุมัติงบกลาง ปี 2562 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับใช้เป็นค่าใช้จ่ายในโครงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

ข่าวการเมือง Tuesday September 10, 2019 16:25 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ขออนุมัติงบกลาง ปี 2562 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับใช้เป็นค่าใช้จ่ายในโครงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเนื่องจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ

คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่อง ขออนุมัติงบกลาง ปี 2562 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับใช้เป็นค่าใช้จ่ายในโครงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเนื่องจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เสนอ แล้วมีมติอนุมัติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน 261,533,200 บาท เพื่อดำเนินโครงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเนื่องจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ของกรมชลประทาน และกรมป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย รวมจำนวน 78 โครงการ โดยให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดค่าใช้จ่ายกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพในการแก้ไขป้องกันอุทกภัยอย่างยั่งยืน ความคุ้มค่าในการดำเนินงานและประโยชน์สุงสุดของทางราชการและประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการอื่นที่ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน และสามารถก่อหนี้ผูกพันได้ภายในเดือนกันยายน 2562 และเมื่อดำเนินโครงการแล้วเสร็จ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการดำเนินโครงการต่อสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติในโอกาสแรก เพื่อรายงานถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้จ่ายงบประมาณต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

สาระสำคัญ

1. สทนช. ได้จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณากำหนดแนวทางการพิจารณาแผนงานโครงการที่จะดำเนินการในระยะเร่งด่วน ดังนี้

(1) เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์ในการป้องกันหรือแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอันเนื่องมาจากอุทกภัยในพื้นที่ และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ หากไม่ดำเนินการจะเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ

(2) เป็นโครงการที่มีความพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันที โดยให้หน่วยงานที่จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณจัดทำแบบรูปรายการ และประมาณราคาค่าก่อสร้าง (ปร.4 ปร.5) ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำนักงบประมาณกำหนด และสามารถใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันได้ภายในเดือนกันยายน 2562

(3) ให้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินการโดยพิจารณาแผนงานโครงการให้สอดคล้องกับเงื่อนไขการขอรับจัดสรร

(4) กรณีพื้นที่ดำเนินการอยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้ อปท. มีหนังสือยืนยันความจำเป็นและความต้องของประชาชนในพื้นที่ ที่ต้องการให้ส่วนราชการที่มีภารกิจหน้าที่ นั้น ๆ สนับสนุนการดำเนินงาน

2. สทนช. ได้รวบรวมแผนงานโครงการและข้อคิดเห็นจากหน่วยงานตามแนวทางข้างต้น โดยมี 2 หน่วยงานที่เสนอแผนงานโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ได้แก่ กรมชลประทาน และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมวงเงินทั้งสิ้น 261.5332 ล้านบาท ส่วนกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ไม่เสนอขอรับสนับสนุนงบประมาณ โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เสนอให้มีแผนงานโครงการเป่าล้างบ่อบาดาลที่เสียหายจากอุทกภัย ซึ่งเป็นภารกิจถ่ายโอน ซึ่งต้องรอให้ระดับน้ำที่ท่วมขังลดลงเพียงพอในระดับที่จะเคลื่อนย้ายเครื่องจักรเข้าดำเนินการในพื้นที่ได้ นอกจากนี้ เห็นควรแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำรวจบ่อบาดาลที่ถูกน้ำท่วมไหลลงสู่บ่อบาดาลในพื้นที่รับผิดชอบ และดำเนินการตามภารกิจฯ โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลยินดีให้การสนับสนุนด้านเทคนิค วิธีการและวิชาการด้านน้ำบาดาล ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินการแก้ไขปัญหา

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 กันยายน 2562


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ