รายงานผลการดำเนินการยกระดับการบริการภาครัฐในส่วนที่ขอใช้เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ (Structural Adjustment Loan: SAL)

ข่าวการเมือง Wednesday July 29, 2020 17:04 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการยกระดับการบริการภาครัฐตามแผนการยกระดับการบริการภาครัฐ ระยะที่ 2 ตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ในส่วนที่ขอใช้เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ (Structural Adjustment Loan : SAL) และการส่งเงินกู้ SAL จำนวน 800 ล้านบาท คืนคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

1. คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (20 กุมภาพันธ์ 2561) เห็นชอบในหลักการให้กันวงเงินกู้ SAL จำนวน 800 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามแผนการยกระดับการบริการภาครัฐ ระยะที่ 2 ตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกฯ เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับการบริการภาครัฐใน 3 เรื่อง ได้แก่ (1) การพัฒนาระบบการประเมินความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ (2) การพัฒนาระบบการติดตามการให้บริการ (Tracking System) และ (3) การพัฒนาระบบการจองคิวกลาง (Queue Online) ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ทั้งนี้ เงินที่สำนักงาน ก.พ.ร. ขอกันไว้และไม่มีการใช้จ่ายตามระยะเวลาและตามแผนที่กำหนด ให้ส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป

2. คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) โดยคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการ (อ.ก.พ.ร.) ได้มีการพิจารณาโครงการที่ขอรับการสนับสนุนเงินกู้ SAL (ตามข้อ 1) จำนวน 3 โครงการ แต่ละโครงการมีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลด้วย ซึ่งการพิจารณาโครงการเพื่อขอใช้เงินกู้ SAL ดังกล่าวต้องมีขั้นตอนการพิจารณาที่รอบคอบ รัดกุม และต้องใช้ข้อมูลประกอบการพิจารณาจำนวนมาก โดยที่โครงการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศมีลักษณะที่แตกต่างจากโครงการทั่วไป และเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการขับเคลื่อนการยกระดับการบริการภาครัฐเป็นนโยบายที่สำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล ดังนั้น หน่วยงานเจ้าของโครงการที่ขอรับการสนับสนุนเงินกู้ SAL ดังกล่าว จึงได้ใช้งบประมาณปกติของหน่วยงานดำเนินโครงการในระหว่างปี พ.ศ. 2561-2563 มีผลการดำเนินการ ดังนี้

โครงการและหน่วยงานที่เสนอขอสนับสนุนเงินกู้ SAL / ผลการดำเนินการ

1) โครงการประเมินความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.)

สพร. ร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาแอปพลิเคชัน CITIZENinfo เพื่อเป็นช่องทางให้ค้นหาพิกัดจุดให้บริการของภาครัฐ รวมถึงประเมินความพึงพอใจได้ในแอปพลิเคชันเดียว และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 มีการนำร่องระบบประเมินความพึงพอใจโดยการสแกน QR Code ณ จุดให้บริการ รวมทั้งมีแผนที่จะขยายการให้บริการระบบประเมินความพึงพอใจไปยังจุดให้บริการต่าง ๆ ทั่วประเทศในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564

2) โครงการพัฒนาระบบติดตามการให้บริการโดย สพร.

สำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับ สพร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาระบบบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้บริการด้านการออกหนังสือรับรอง ใบอนุญาตและเอกสารต่าง ๆ โดยดำเนินการแล้ว 96 ใบอนุญาตทั่วประเทศ และจะขยายบริการให้ครอบคลุมทุกใบอนุญาตที่สำคัญภายในปี 2565

3) โครงการพัฒนาระบบจองคิวกลางสำหรับโรงพยาบาลโดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

กระทรวงสาธารณสุขดำเนินโครงการ Smart Hospital โดยนำเทคโนโลยีด้านดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ร่วมกับระบบสารสนเทศเดิมแบบไร้รอยต่อ ลดเวลา ลดความซ้ำซ้อน และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ได้จัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขับเคลื่อนมาตรฐานสาธารณสุขด้านเทคโนโลยีดิจิทัลจากงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของแผนงานบูรณาการรัฐบาลดิจิทัล

3. อ.ก.พ.ร. พิจารณาแล้วเห็นว่า หน่วยงานที่เสนอแผนงาน/โครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนเงินกู้ SAL (ตามข้อ 2) ได้รับจัดสรรงบประมาณจากงบปกติของหน่วยงานดำเนินการและพัฒนาบริการจนเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี ดังนั้น สำนักงาน ก.พ.ร. จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินกู้ดังกล่าวแล้ว ประกอบกับกรอบระยะเวลาดำเนินโครงการฯ ตามมติคณะรัฐมนตรี (20 กุมภาพันธ์ 2561) จะสิ้นสุดในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 (ภายในวันที่ 30 กันยายน 2563) และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 (ที่บัญญัติให้หน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการใช้จ่ายเงินกู้ตามแผนงานหรือโครงการ หากไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายเงินตามแผนงานหรือโครงการนั้นอีกให้นำส่งคลัง) ซึ่ง ก.พ.ร. มีมติเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 เห็นชอบให้สำนักงาน ก.พ.ร. นำวงเงินกู้ SAL จำนวน 800 ล้านบาท ส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ทั้งนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ดำเนินการส่งเงินกู้ SAL จำนวนดังกล่าวคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดินเรียบร้อยแล้ว

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 กรกฎาคม 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ