ผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง (กปส.) ครั้งที่ 1/2563 (คณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง)

ข่าวการเมือง Tuesday October 20, 2020 17:29 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวงเสนอ ดังนี้

1. รับทราบและเห็นชอบตามมติการประชุมคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง (กปส.) ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2563

2. เห็นชอบการปรับปรุงแก้ไของค์ประกอบ กปส. ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับงานโครงการหลวง พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

3. เห็นชอบการขอสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับการก่อสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวงจากรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ผ่านสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) งบประมาณรวมทั้งสิ้น 105.70 ล้านบาท

สาระสำคัญของเรื่อง

กปส. รายงานผลการประชุม กปส. ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 สรุปได้ดังนี้

1. ที่ประชุมมีมติรับทราบ จำนวน 7 เรื่อง ดังนี้

1. การปรับแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับงานโครงการหลวง พ.ศ. 2550

คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (11 ธันวาคม 2562) เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับงานโครงการหลวง (ฉบับที่..) พ.ศ. .... และได้ประกาศราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยระเบียบดังกล่าวเป็นการปรับปรุงแก้ไของค์ประกอบของ กปส. โดยเพิ่ม 5 ตำแหน่งและปรับออก 2 ตำแหน่ง

2. การปรับองค์ประกอบคณะทำงานสนับสนุนศูนย์พัฒนาโครงการหลวง

นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการ กปส. ได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานสนับสนุนศูนย์พัฒนาโครงการหลวง ตามคำสั่งคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวงที่ 1/2562 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 เรียบร้อยแล้ว โดยปรับให้นายอำเภอในพื้นที่เป็นประธานคณะทำงานและปรับเพิ่มเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำ และเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลในพื้นที่ เป็นคณะทำงานเพิ่มเติม

3. การแก้ไขปัญหาการใช้พื้นที่ตามแนวทางการดำเนินงานของโครงการหลวง

ได้แก่ การศึกษาและทบทวนระเบียบที่เกี่ยวข้องในการขอใช้พื้นที่ป่าไม้และอุทยานแห่งชาติในส่วนของโครงการพระราชดำริ

การแต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาการใช้พื้นที่ตามแนวทางการดำเนินงานของโครงการหลวงและการดำเนินงานขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่ของสถานีเกษตรหลวงและศูนย์พัฒนาโครงการหลวง 39 แห่ง

4. การจัดประชุมวิชาการนานาชาติด้านการพัฒนาเกษตรที่สูงอย่างยั่งยืนตามพระราชปณิธานสืบสาน รักษา และต่อยอดงานโครงการหลวง

มีผลการประชุม เช่น พระราชดำรัสของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ในการเปิดงาน สรุปได้ว่า ตลอด 50 ปีที่ผ่านมาโครงการหลวงมีผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่างต่อเนื่อง นำสู่การเป็นต้นแบบแห่งข้อกำหนดพัฒนาทางเลือกเพื่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดขององค์การสหประชาชาติ พระราชดำริในการเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา สามารถนำไปปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและนานาชาติได้อย่างแท้จริง และที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบการจัดตั้งสถาบันเรียนรู้ศาสตร์พระราชาการพัฒนาทางเลือกอย่างยั่งยืน มูลนิธิโครงการหลวง เพื่อเผยแพร่พระอัจฉริยภาพและพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9

(กปส. มีมติเพิ่มเติม เห็นชอบในหลักการจัดตั้งสถาบันการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาการพัฒนาทางเลือกอย่างยั่งยืน มูลนิธิโครงการหลวง และให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือและสนับสนุนการจัดตั้งดังกล่าวต่อไป)

5. ผลการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวงและหน่วยงานสนับสนุนตามแผนแม่บทศูนย์พัฒนาโครงการหลวง และแผนแม่บทโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 และ พ.ศ. 2563 (ไตรมาส 2)

เช่น การวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้และการสร้างนวัตกรรมที่เหมาะสมต่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างมั่นคงและยั่งยืน การพัฒนาชุมชนโครงการหลวงให้สามารถพึ่งตนเองและเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมที่เหมาะสมต่อพื้นที่สูง ยุทธศาสตร์การฟื้นฟูและรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชนและป่าต้นน้ำลำธารให้มีความสมบูรณ์ และยุทธศาสตร์การบริหารจัดการการตลาดเพื่อสังคม

6. ผลการประชุมของคณะอนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่โครงการหลวง ครั้งที่ 1/2563

คณะอนุกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบ 2 เรื่อง ได้แก่ การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่เหียะน้อย ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และแผนความต้องการการปรับปรุงโครงสร้างปัจจัยพื้นฐานในพื้นที่โครงการหลวงและโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564

7. รายงานผลการศึกษาสภาวะเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกรในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวง และผลการประเมินกึ่งกลางแผนแม่บทโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2560 - 2564)

มีผลการศึกษาและประเมิน เช่น พืชอาหารได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพอาหารปลอดภัย 15,209 ครัวเรือน กระจายการพัฒนาไปยังหมู่บ้านเป้าหมายทำให้รายได้เพิ่มขึ้น 65,045.90 บาทต่อครัวเรือน ครัวเรือนเกษตรกรได้รับการพัฒนาด้านอาชีพแล้วร้อยละ 36.39 และครัวเรือนเกษตรกรมีความมั่นคงทางอาหารร้อยละ 74.51 หรือมีรายได้ที่สูงกว่าเส้นความยากจนร้อยละ 68.67

2. ที่ประชุมพิจารณา จำนวน 3 เรื่อง ดังนี้

2.1 การปรับแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับงานโครงการหลวง พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการปรับปรุงแก้ไของค์ประกอบของ กปส. ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับงานโครงการหลวง พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนระบบการบริหารงานและการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวงในปัจจุบัน รวม 6 ตำแหน่ง ประกอบด้วยที่ปรึกษา 1 ตำแหน่ง ได้แก่ ประธานกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง และกรรมการ 5 ตำแหน่ง ได้แก่

(1) เลขาธิการองคมนตรี

(2) ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย

(3) ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

(4) อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และ

(5) เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และให้ฝ่ายเลขานุการเสนอการปรับปรุงแก้ไขระเบียบฯ ตามขั้นตอนต่อไป

2.2 การขอสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับการสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง

ที่ประชุมมีมติ ดังนี้

2.2.1 รับทราบความก้าวหน้าการก่อสร้างอาคารศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง

สำนักงบประมาณ (สงป.) ได้เห็นชอบความเหมาะสมของราคาค่าก่อสร้าง ในวงเงิน 197.80 ล้านบาท ส่วนการก่อสร้างได้รับการสนับสนุนจากกองทัพบกโดยได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2563 กำหนดการแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2564

2.2.2 รับทราบการสนับสนุนการดำเนินงานและงบประมาณในการก่อสร้างอาคารศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวงที่คาดว่าจะได้รับจากหน่วยงานต่าง ๆ ในระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 - 2564 ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

2.2.3 เห็นชอบในหลักการการขอสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับการก่อสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้ตามวัตถุประสงค์ ดังนี้

(1) ให้มูลนิธิโครงการหลวงขอตั้งงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ผ่านสำนักงาน กปร. งบประมาณรวมทั้งสิ้น 104.70 ล้านบาท เนื่องจากงบประมาณที่ได้รับจัดสรรตามข้อ 2.2.1 ครอบคลุมเฉพาะการก่อสร้างตัวอาคาร จำนวน 6 อาคาร แต่ยังไม่ได้รวมครุภัณฑ์วิทยาศาสตร์และครุภัณฑ์สำนักงานที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน ตลอดจนค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโครงสร้างที่จำเป็นที่ต้องจัดหาเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ของอาคาร

(2) ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทส. ขอรับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดย สงป. สนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงภูมิทัศน์ จำนวน 7 ล้านบาท

2.3 กรอบคำของบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานต่าง ๆ ที่สนับสนุนงานโครงการหลวงและโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

ที่ประชุมมีมติ ดังนี้

2.3.1 เห็นชอบในหลักการกรอบคำขอตั้งงบประมาณสนับสนุนศูนย์พัฒนาโครงการหลวง จำนวน 39 แห่ง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ภายใต้แผนแม่บทศูนย์พัฒนาโครงการหลวง ระยะ 6 ปี (พ.ศ. 2560 - 2565) จำนวน 750.12 ล้านบาท

2.3.2 เห็นชอบในหลักการกรอบคำขอตั้งงบประมาณสนับสนุนโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง จำนวน 33 แห่ง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ภายใต้แผนแม่บทโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง ระยะ 6 ปี (พ.ศ. 2560 - 2565) จำนวน 679.66 ล้านบาท

2.3.3 มอบให้ สงป. รับไปพิจารณาให้การสนับสนุนตามมติ กปส. ต่อไป

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 ตุลาคม 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ