การอนุญาตให้เรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) เข้ามาในราชอาณาจักร

ข่าวการเมือง Wednesday October 28, 2020 18:37 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้

1. อนุมัติหลักการให้คนต่างด้าวที่มีคุณสมบัติ ดังนี้

1.1 เป็นบุคคลต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางมาเข้ามาท่องเที่ยวโดยเรือสำราญและกีฬาในราชอาณาจักร ในกลุ่มผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ หรือผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำหรือความเสี่ยงปานกลาง ตามการจัดกลุ่มประเทศด้านการแพทย์และสาธารณสุข สำหรับการผ่อนคลายผู้ไม่มีสัญชาติไทยเข้ามาในราชอาณาจักร ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

1.2 ยอมรับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 และยินยอมกักตัวภายในเรือ ไม่น้อยกว่า 14 วัน

1.3 มีหลักฐานการเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อท่องเที่ยวโดยเรือสำราญและกีฬา โดยแสดงการเป็นผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ หรือผู้โดยสาร

1.4 มีหลักฐานกรมธรรม์การทำประกันสุขภาพที่คุ้มครองตรวจรักษาการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) ในวงเงิน 100,000 US ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในประเทศไทย รวมถึงการทำประกันสุขภาพและอุบัติเหตุของไทยคุ้มครองตลอดระยะเวลาที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมีจำนวนเงินประกันภัยสำหรับค่ารักษาพยาบาล กรณีผู้ป่วยนอก ไม่น้อยกว่า 40,000 บาท และกรณีผู้ป่วยในไม่น้อยกว่า 400,000 บาท

1.5 มีหลักฐานการชำระเงินล่วงหน้า ในการเช่าจองสถานที่จอดเรือ

1.6 ปฏิบัติตามประกาศกรมเจ้าท่าว่าด้วยแนวปฏิบัติสำหรับเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) ที่เข้ามาในน่านน้ำไทย

2. บุคคลต่างด้าวที่มากับเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) ซึ่งได้ปฏิบัติตามข้อ 1. มีสิทธิขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว ประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) เพื่อเข้ามาในราชอาณาจักร สำหรับใช้ได้ครั้งเดียวจากสถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ โดยเสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ครั้งละ 2,000 บาท ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลา 90 วัน นับแต่วันที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร

ทั้งนี้ การตรวจลงตราตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ กำหนด

3. ให้ผ่อนผันแก่คนต่างด้าวที่มากับเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) ในกรณี ดังต่อไปนี้ เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อดำเนินการตามข้อ 1.2 ถึงข้อ 1.6 และข้อ 2. ได้

3.1 กรณีที่เดินทางออกจากประเทศต้นทางและอยู่ระหว่างการเดินทางเข้ามาในน่านน้ำไทยก่อนประกาศนี้ใช้บังคับ

3.2 กรณีเรือสำราญและกีฬา เข้ามาและจอดเรืออยู่ที่ท่าเรือในราชอาณาจักรก่อนประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 มีผลใช้บังคับ

มีสิทธิขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว ประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ภายใน 30 วันหลังจากวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ

4. ภายหลังจากที่ครบกำหนดเวลาอนุญาตตามข้อ 2 แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมีอำนาจอนุญาตให้อยู่ต่อไปได้อีกสองครั้ง ครั้งละเก้าสิบวัน โดยคนต่างด้าวต้องยื่นคำขอตามแบบและเสียค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยไม่สามารถเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตราได้ และให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนดแนวทางปฏิบัติในการพิจารณาอนุญาตให้คนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ต่อในราชอาณาจักร ในกรณีที่มีผู้ยื่นคำขออยู่ต่อก่อนวันที่ประกาศนี้สิ้นผลใช้บังคับ และอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุญาตของเจ้าหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาอนุญาตได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้

5. ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมเสนอว่า

คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ได้มีการประชุมครั้งที่ 13/2563 เมื่อวันพุธที่ 21 ตุลาคม 2563 มีมติรับทราบ ตามที่คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) เสนอ ซึ่งมอบหมายให้ กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ประสานกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ จัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมประกาศกระทรวงมหาดไทย ให้กลุ่มผู้ควบคุมยานพาหนะ เจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ และผู้โดยสารของเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) มีสิทธิขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV)

กระทรวงคมนาคม โดยกรมเจ้าท่า กำหนดแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) เพื่อนำนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้ควบคุมยานพาหนะ เจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ และผู้โดยสาร ของเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) ที่มีศักยภาพเดินทางเข้าราชอาณาจักรโดยเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) เนื่องด้วยปัจจุบันเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ทำให้นักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไป ไม่สามารถเดินทางได้ เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว แต่เนื่องจากประเทศไทยสามารถบริหารจัดการและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) จนได้รับ การจัดอันดับประเทศที่มีความปลอดภัยเป็นอันดับ 1 ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดียิ่งและในปัจจุบันประเทศไทยไม่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ภายในประเทศไทย ทำให้คนต่างด้าวที่เรียกว่ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีศักยภาพจากทุกประเทศทั่วโลกมีความต้องการเดินทางเข้ามาเพื่อท่องเที่ยว โดยเรือสำราญและกีฬา ภายในประเทศไทย

ประกอบกับในระยะเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายได้หลักจากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศไทย นำเงินตราเข้าสู่ประเทศไทยจำนวนไม่น้อยกว่า 2 ล้านล้านบาท เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศขาดรายได้และได้รับผลกระทบในทุกภาคส่วน รัฐบาลมีนโยบายที่จะเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาเพื่อท่องเที่ยวภายในประเทศไทย ในพื้นที่ปิดที่สามารถควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19)

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 ตุลาคม 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ