ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. ....

ข่าวการเมือง Tuesday December 8, 2020 17:47 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยแนวทางพิจารณา ในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของสำนักข่าวกรองแห่งชาติและ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รวมทั้งข้อเสนอแนะของสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทยตามที่ วธ. เสนอ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้ วธ. รับความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

ทั้งนี้ ร่างระเบียบที่ วธ. เสนอ เป็นการกำหนดแนวทางการพิจารณาจัดตั้งวัดคาทอลิก ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยลักษณ ฐานะ ของวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิกในกรุงสยาม ตามกฎหมาย ร.ศ. 128 ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการยื่นคำขอจัดตั้งวัดและคำขอให้รับรองวัดจากมิซซัง โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำขอจัดตั้งวัดหรือรับรองวัด เพื่อเป็นกลไกในการพิจารณาจัดตั้งวัดของมิซซัง ขึ้นใหม่และรับรองวัดคาทอลิกที่ได้จัดตั้งขึ้นโดยที่ไม่ได้มีสถานะเป็นวัดคาทอลิกที่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้ง การพิจารณากำหนดคำขอจัดตั้งวัดและคำขอให้รับรองวัดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี

สาระสำคัญของร่างระเบียบ
1. กำหนดให้มี ?คณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิก? ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวน 6 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่เกิน 3 คน และอธิบดีกรมการศาสนา เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการเสนอความเห็น เพื่อประกอบการพิจารณาคำขอจัดตั้งวัดต่อรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี โดยให้กรมการศาสนาทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการ
2. กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการพิจารณาคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิกจากมิซซัง ดังนี้

(1) เป็นสถานที่ที่สมควรเป็นที่พำนักของบาทหลวงและเพื่อการประกอบศาสนกิจ อย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ

(2) ตั้งอยู่ห่างจากวัดคาทอลิกอื่นโดยรอบ ไม่น้อยกว่า 20 กิโลเมตร

(3) มีบาทหลวงพำนักอยู่เป็นประจำอย่างน้อย 2 คน

(4) เป็นประโยชน์แก่ประชาชนในท้องถิ่น โดยตั้งอยู่ในเขตชุมชนที่มีคริสต์ศาสนิกชนอาศัยอยู่ไม่น้อยกว่า 200 คน

(5) มีเหตุผลที่จะสนับสนุนได้ว่า เมื่อตั้งวัดคาทอลิกแล้วจะได้รับการทำนุบำรุง ส่งเสริมและอุปถัมภ์จากประชาชนในพื้นที่ โดยอาจดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่อาศัยอยู่โดยรอบบริเวณที่ตั้งวัดคาทอลิก และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง 3. กำหนดรายละเอียดเอกสารในการขอจัดตั้งวัดคาทอลิก เช่น แผนที่แสดงเขตที่ตั้งวัดคาทอลิก วัดคาทอลิกและสถานที่ใกล้เคียงโดยรอบ และเส้นทางคมนาคมโดยสังเขป หนังสือรับรองให้จัดตั้งวัดคาทอลิกจากสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย เป็นต้น โดยให้มิซซังยื่นคำขอจัดตั้ง ณ กรมการศาสนา เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาคำขอ และตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของคำขอและเอกสารประกอบคำขอแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป 4. กำหนดให้เมื่อคณะกรรมการพิจารณาคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิกแล้ว ให้เสนอคำขอพร้อม ความเห็นประกอบไปยังรัฐมนตรีเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป และเมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้จัดตั้งวัดคาทอลิกแล้ว ให้รัฐมนตรีประกาศการจัดตั้งวัดคาทอลิกในราชกิจจานุเบกษา 5. กำหนดให้รวบรวมข้อมูลวัดคาทอลิกเพื่อจัดทำเป็นทะเบียน และให้กรมการศาสนารวบรวมข้อมูลจัดส่งให้กระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี 6. กำหนดให้วัดที่ได้จัดตั้งอยู่ก่อนวันที่ระเบียบฉบับนี้ใช้บังคับ หากมิซซังร้องขอให้ รับรองวัดคาทอลิก ให้เสนอคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิก รัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาต่อไป ในกรณีที่มีเหตุผลและความจำเป็นคณะกรรมการอาจเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณายกเว้นหลักเกณฑ์หรือเอกสารบางประเภทได้ตามเหตุผลและความจำเป็น

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 ธันวาคม 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ