ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2564

ข่าวการเมือง Tuesday January 19, 2021 20:20 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564 ที่ได้พิจารณาจัดทำข้อเสนอแนวทางการดำเนินการตามมาตรา 6 วรรคสาม พิจารณากลั่นกรองข้อเสนอแผนงาน/โครงการเพื่อขอใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (พระราชกำหนดฯ) พิจารณาความเหมาะสมของการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ และพิจารณาความเหมาะสมของการขอยกเลิกการดำเนินโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ รวมถึงรายงานผลการพิจารณาข้อเสนอโครงการองค์กรภาคประชาชนผ่านหน่วยงานของรัฐของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนของพระราชกำหนดฯ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ และมติคณะรัฐมนตรี ดังนี้

1. อนุมัติให้นำวงเงินกู้เพื่อการตามมาตรา 5 (3) มาใช้เพื่อการตามมาตรา 5 (2) เพิ่มเติมจำนวน 10,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ระลอกใหม่ในประเทศ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติคณะกรรมการฯ ต่อไป

2. อนุมัติโครงการเราชนะ ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลังกรอบวงเงินไม่เกิน 210,200 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานหรือโครงการที่ 2.1 โดยเห็นควรกำหนดเงื่อนไขการดำเนินโครงการฯ ดังนี้

2.1 กรอบวงเงินให้ความช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ภายใต้โครงการฯ เมื่อรวมกับเงินที่ภาครัฐให้ความช่วยเหลือตามสิทธิผ่านช่องทางต่างๆ แล้วจะได้รับเงินช่วยเหลือจาก โครงการฯ รวมเป็นไม่เกิน 3,500 บาทต่อเดือน

2.2 การใช้จ่ายเงินที่ได้รับสนับสนุนจากภาครัฐ จะไม่สามารถเบิกเงินสดได้ โดยต้องนำไปใช้ผ่านระบบ เพื่อชำระค่าสินค้า เครื่องดื่ม และอาหาร โดยครอบคลุมการใช้ชำระค่าบริการในส่วนของค่าโดยสารรถจักรยานยนต์สาธารณะ รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI - METER) และรถตู้โดยสารประจำทางที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งบริการต่าง ๆ แต่ไม่รวมถึงสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ หรือยาสูบที่มีชื่อเรียกอย่างอื่น

2.3 ผู้ประกอบการ/ร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการฯ ต้องไม่เป็นผู้ประกอบการ/ร้านค้า ที่เป็นนิติบุคคล โดยเป็นผู้ประกอบการ/ร้านค้า/บริการรายย่อยที่มีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งและตรวจสอบได้ หรือเป็นร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2547 หรือวิสาหกิจชุมชนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

2.4 ระยะเวลาที่ประชาชนสามารถใช้จ่ายเงินสนับสนุนได้ ตั้งแต่กุมภาพันธ์ ? พฤษภาคม 2564 และควรกำหนดกรอบวงเงินการใช้จ่ายในรูปแบบรายสัปดาห์ เพื่อให้เกิดการกระจายการใช้จ่ายแต่ละช่วงเวลา

2.5 การใช้สิทธิ์ของโครงการฯ ควรสนับสนุนให้อยู่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับสถานที่ทำงานหรือที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมพื้นที่ของรัฐบาล

ทั้งนี้ เห็นควรมอบหมายให้หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ ประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจกับบุคลากรในสังกัดให้ปฏิบัติตามแนวทางหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด

3. อนุมัติการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานที่ 3.3 ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ ภายใต้กรอบวงเงินของโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2

4. มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการตามข้อ 2 และข้อ 3 และดำเนินการ ดังนี้

4.1 รับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

4.2 จัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายสัปดาห์/รายวัน (แล้วแต่กรณี) เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สามารถจัดหาเงินกู้เพื่อใช้จ่ายโครงการตามแผนการใช้จ่ายเงินที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการเงินของภาครัฐ

4.3 รายงานความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการ และการใช้จ่ายเงินกู้ รวมถึงปัญหา อุปสรรคในระบบ eMENSCR และจัดส่งให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป

4.4 ประสานกับกระทรวงการคลังในการรายงานขีดความสามารถในการชำระคืนหนี้เงินกู้ประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ตามมาตรา 6 แห่งพระราชกำหนดฯ ด้วย

5. อนุมัติการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ โดยเห็นควรปรับลดกรอบวงเงินของโครงการจากเดิมที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 วงเงิน 9,805.7075 ล้านบาท เป็น 3,550.9175 ล้านบาท และขยายระยะเวลาดำเนินโครงการ จากเดิมสิ้นสุดเดือนกันยายน 2564 เป็นธันวาคม 2564 พร้อมทั้งเห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำกับดูแลหน่วยงานรับผิดชอบ ดำเนินการตามมติคณะกรรมการฯ อย่างเคร่งครัด

6. อนุมัติให้มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ยกเลิกการดำเนินโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และส่งเสริมการขายในรูปแบบตลาดออนไลน์ของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปปลา บ้านท่าดินแดง จังหวัดนครสวรรค์ วงเงิน 1.6370 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมเสนอ พร้อมทั้งเห็นควรมอบหมายให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กำกับสถาบันการศึกษาให้พิจารณาตรวจสอบความซ้ำซ้อนของโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อให้การลงทุนของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพในภาพรวมต่อไป

7. รับทราบผลการพิจารณาข้อเสนอโครงการขององค์กรภาคประชาชนผ่านหน่วยงานของรัฐ เพื่อขอใช้เงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดฯ ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และมอบหมายให้หัวหน้าหน่วยงานที่รับผิดชอบตามข้อเสนอโครงการขององค์กรภาคประชาชน พิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ต่อไป

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 มกราคม 2564


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ