การกำหนดมูลค่าแผนงานและโครงการพัฒนาตามมาตรา 20 (8) แห่งพระราชบัญญัติสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ข่าวการเมือง Tuesday January 26, 2021 20:47 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอแนวทางการกำหนดมูลค่าแผนงานและโครงการพัฒนาตามมาตรา 20 (8) แห่งพระราชบัญญัติสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2561 (พระราชบัญญัติสภาพัฒนาฯ พ.ศ. 2561) ตามมติสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒนาฯ) ในคราวประชุมครั้งที่ 11/2563 เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 ดังนี้

1. การลงทุนแผนงาน/โครงการพัฒนาของส่วนราชการที่มีมูลค่าตั้งแต่ 5,000 ล้านบาท และไม่ได้ใช้แหล่งเงินจากเงินงบประมาณ โดยการลงทุนจะใช้จ่ายจากแหล่งเงิน อาทิ เงินกู้ การให้เอกชนร่วมลงทุน และแหล่งเงินอื่น ๆ เห็นควรมอบหมายให้ส่วนราชการ โดยความเห็นชอบของกระทรวงเจ้าสังกัด จัดทำข้อเสนอแผนงาน/โครงการที่มีรายละเอียดครบถ้วนเพียงพอเสนอให้ สศช. พิจารณาก่อนเสนอสภาพัฒนาฯ เพื่อพิจารณาเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป

2. การลงทุนแผนงาน/โครงการพัฒนาของรัฐวิสาหกิจ เห็นควรให้รัฐวิสาหกิจโดยความเห็นชอบของกระทรวงเจ้าสังกัดต้องจัดทำงบลงทุนเต็มตามโครงการจัดส่งให้ สศช. พิจารณาตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2550 อย่างเคร่งครัด

สาระสำคัญของเรื่อง

สศช. รายงานว่า
1. ปัจจุบัน สศช. มีแนวปฏิบัติในการพิจารณาแผนงานและโครงการพัฒนาของกระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นกรม และของรัฐวิสาหกิจสรุปได้ ดังนี้

กรณี

1.1 การลงทุนของส่วนราชการ (ทั้งดำเนินการเองและให้เอกชนร่วมลงทุน)

แนวปฏิบัติ

ส่วนราชการที่คาดว่าจะใช้จ่ายจากแหล่งเงินกู้และได้จัดส่งข้อเสนอการลงทุนให้ สศช. พิจารณา สศช. จะดำเนินการจัดทำรายงานการวิเคราะห์โครงการเสนอสภาพัฒนาฯ และนำความเห็นของสภาพัฒนาฯ ประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

1.2 การลงทุนของรัฐวิสาหกิจ (ทั้งในส่วนที่รัฐวิสาหกิจดำเนินการและให้เอกชนร่วมลงทุน)

ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2550กำหนดให้รัฐวิสาหกิจต้องจัดทำงบลงทุนเต็มตามโครงการเสนอให้ สศช. พิจารณา โดย สศช. จะจัดทำรายงานการวิเคราะห์โครงการเสนอสภาพัฒนาฯ

  • ในกรณีที่เป็นการลงทุนที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป สศช. จะนำความเห็นของสภาพัฒนาฯ ประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
  • ในกรณีที่เป็นการลงทุนที่มีวงเงินต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท สศช. จะแจ้งให้กระทรวงเจ้าสังกัดพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
2. สภาพัฒนาฯ ในคราวประชุมครั้งที่ 11/2563 เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 มีมติเห็นชอบแนวทางการกำหนดมูลค่าแผนงานและโครงการพัฒนาของกระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นกรม และของรัฐวิสาหกิจ ภายใต้มาตรา 20 (8) แห่งพระราชบัญญัติสภาพัฒนาฯ พ.ศ. 2561 ตามที่ สศช. เสนอ ดังนี้

2.1 การกำหนดมูลค่าแผนงานและโครงการพัฒนาของส่วนราชการที่ไม่ได้ใช้แหล่งเงินจากเงินงบประมาณแผ่นดิน ได้แก่ เงินกู้ การให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) และแหล่งเงินอื่น ๆ เช่น เงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทางของกรมทางหลวง เป็นต้น นั้น สภาพัฒนาฯ เห็นว่า แนวนโยบายของรัฐได้มีการสนับสนุนให้ส่วนราชการพิจารณาแนวทางเลือกของแหล่งเงินที่ใช้ในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ใช่เงินงบประมาณแผ่นดินเพิ่มขึ้นเพื่อลดภาระงบประมาณ ในขณะที่กลไกการพิจารณาในปัจจุบันยังไม่ได้กำหนดให้มีหน่วยงานใดทำหน้าที่ในการพิจารณาความเหมาะสมของโครงการ ดังนั้น เพื่อให้การเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาแผนงานและโครงการพัฒนาของส่วนราชการที่ไม่ได้ใช้เงินงบประมาณของคณะรัฐมนตรีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเห็นควรกำหนดให้ส่วนราชการที่จะดำเนินการในแผนงานและโครงการพัฒนาที่มีวงเงินลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 5,000 ล้านบาทและใช้จ่ายจากแหล่งเงินที่ไม่ใช่เงินประมาณแผ่นดินจัดทำข้อเสนอแผนงานและโครงการพัฒนาให้ สศช. พิจารณาก่อนเสนอสภาพัฒนาฯ เพื่อพิจารณาเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป

2.2 การลงทุนแผนงานและโครงการพัฒนาของส่วนราชการที่ใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน ให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกลไกการพิจารณาแผนงานและโครงการพัฒนาของส่วนราชการที่ใช้เงินงบประมาณมีสำนักงบประมาณเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ดังนั้น ในกรณีที่เป็นการใช้จ่ายจากแหล่งเงินงบประมาณแผ่นดิน จึงเห็นควรให้ สศช. ทำหน้าที่ในการพิจารณาเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยไม่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์เสนอเรื่องให้สภาพัฒนาฯ พิจารณา (ยกเว้นในกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้สภาพัฒนาฯ พิจารณาเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเป็นกรณีพิเศษ)

2.3 การลงทุนแผนงานและโครงการพัฒนาของรัฐวิสาหกิจให้ดำเนินการตามแนวทางปัจจุบัน (ตามข้อ 1.2)

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 มกราคม 2564


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ