คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัยสรุปรายงานสถานการณ์ความแห้งแล้งและผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ดังนี้
1.สถานการณ์ความแห้งแล้ง มีจังหวัดประสบภัย จำนวน 61 จังหวัด 587 อำเภอ 57 กิ่งอำเภอ 4,363 ตำบล 38,703 หมู่บ้าน (ข้อมูลถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2548) แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด ภาคตะวันออก 8 จังหวัด ภาคใต้ 6 จังหวัด รวมราษฎรเดือดร้อน จำนวน 7,967,860 คน 2,189,251 ครัวเรือน
พื้นที่การเกษตรที่ประสบความแห้งแล้ง
ประเภทพืช พื้นที่การเกษตรที่ประสบ พื้นที่การเกษตรที่คาดว่า
ความเสียหายแล้ว (ไร่) จะประสบความเสียหาย (ไร่)
- นาข้าว 9,876,221 ไร่ 5,384,993 ไร่
- พืชไร่ 2,945,500 ไร่ 2,777,026 ไร่
- พืชสวน 312,261 ไร่ 794,373 ไร่
รวม 13,133,982 ไร่ 8,956,392 ไร่
มูลค่าความเสียหาย 6,514,823,634 บาท 5,707,780,761 บาท
จังหวัดที่พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายมาก (10 อันดับแรก) ได้แก่ นครราชสีมา อุบลราชธานี ชัยภูมิ บุรีรัมย์ นครสวรรค์ ขอนแก่น ศรีสะเกษ มหาสารคาม กาญจนบุรี และลพบุรี
การให้ความช่วยเหลือของจังหวัด/อำเภอ/กิ่งอำเภอ การจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร (1) ใช้เครื่องสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรจากทุกหน่วยงานและของประชาชน รวม 32,588 เครื่อง (2) ใช้รถบรรทุกน้ำ 286 คัน จำนวน 5,579 เที่ยว ปริมาณน้ำ 51,820,000 ลิตร (3) สร้างทำนบ/ฝายเก็บกักน้ำ 4,222 แห่ง ขุดลอกแหล่งน้ำ 4,210 แห่ง (4) พื้นที่การเกษตรที่ได้รับการช่วยเหลือ 5,313,000 ไร่ การแจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค (1) รถบรรทุกน้ำ จำนวน 1,494 คัน 60,811 เที่ยว (2) ปริมาณน้ำที่แจกจ่าย จำนวน 594,297,032 ลิตร
2. กระทรวงมหาดไทยได้เร่งรัดให้จังหวัดที่ประสบภัยใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาความแห้งแล้งไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 663,951,937 บาท ดังนี้ (1) งบฉุกเฉินทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) เป็นเงิน 491,529,040 บาท (2) งบฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเงิน 115,766,175 บาท (3) งบประมาณอื่น ๆ เช่น งบจังหวัด CEO เป็นเงิน 56,656,722 บาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548--จบ--
1.สถานการณ์ความแห้งแล้ง มีจังหวัดประสบภัย จำนวน 61 จังหวัด 587 อำเภอ 57 กิ่งอำเภอ 4,363 ตำบล 38,703 หมู่บ้าน (ข้อมูลถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2548) แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด ภาคตะวันออก 8 จังหวัด ภาคใต้ 6 จังหวัด รวมราษฎรเดือดร้อน จำนวน 7,967,860 คน 2,189,251 ครัวเรือน
พื้นที่การเกษตรที่ประสบความแห้งแล้ง
ประเภทพืช พื้นที่การเกษตรที่ประสบ พื้นที่การเกษตรที่คาดว่า
ความเสียหายแล้ว (ไร่) จะประสบความเสียหาย (ไร่)
- นาข้าว 9,876,221 ไร่ 5,384,993 ไร่
- พืชไร่ 2,945,500 ไร่ 2,777,026 ไร่
- พืชสวน 312,261 ไร่ 794,373 ไร่
รวม 13,133,982 ไร่ 8,956,392 ไร่
มูลค่าความเสียหาย 6,514,823,634 บาท 5,707,780,761 บาท
จังหวัดที่พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายมาก (10 อันดับแรก) ได้แก่ นครราชสีมา อุบลราชธานี ชัยภูมิ บุรีรัมย์ นครสวรรค์ ขอนแก่น ศรีสะเกษ มหาสารคาม กาญจนบุรี และลพบุรี
การให้ความช่วยเหลือของจังหวัด/อำเภอ/กิ่งอำเภอ การจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร (1) ใช้เครื่องสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรจากทุกหน่วยงานและของประชาชน รวม 32,588 เครื่อง (2) ใช้รถบรรทุกน้ำ 286 คัน จำนวน 5,579 เที่ยว ปริมาณน้ำ 51,820,000 ลิตร (3) สร้างทำนบ/ฝายเก็บกักน้ำ 4,222 แห่ง ขุดลอกแหล่งน้ำ 4,210 แห่ง (4) พื้นที่การเกษตรที่ได้รับการช่วยเหลือ 5,313,000 ไร่ การแจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค (1) รถบรรทุกน้ำ จำนวน 1,494 คัน 60,811 เที่ยว (2) ปริมาณน้ำที่แจกจ่าย จำนวน 594,297,032 ลิตร
2. กระทรวงมหาดไทยได้เร่งรัดให้จังหวัดที่ประสบภัยใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาความแห้งแล้งไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 663,951,937 บาท ดังนี้ (1) งบฉุกเฉินทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) เป็นเงิน 491,529,040 บาท (2) งบฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเงิน 115,766,175 บาท (3) งบประมาณอื่น ๆ เช่น งบจังหวัด CEO เป็นเงิน 56,656,722 บาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548--จบ--