คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานสรุปความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 3) ในเรื่องการอำนวยการแก้ไขปัญหา การค้นหาและเก็บกู้ศพ จำนวนผู้เสียชีวิต ตลอดจนการฟื้นฟูบูรณะสิ่งปรักหักพังและแหล่งท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2547 จนถึงวันที่ 17 มกราคม 2548 ดังนี้
1. พื้นที่ประสบภัยและความเสียหาย (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มกราคม 2548)
1.1 พื้นที่ประสบภัยพิบัติ บริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันของจังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันตก 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล รวม 24 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 78 ตำบล 292 หมู่บ้าน โดยจังหวัดพังงาประสบภัยรุนแรงที่สุด
1.2 ราษฎรได้รับความเดือดร้อน มีจำนวน 54,672 คน 12,068 ครอบครัว
1.3 จำนวนผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหาย (ข้อมูลถึงวันที่ 17 มกราคม 2548)
— จำนวนผู้เสียชีวิต รวม 5,322 คน (แยกเป็นคนไทย 1,737 คน คนต่างประเทศ 1,765 คน ไม่สามารถระบุได้ ว่าเป็นคนไทยหรือคนต่างประเทศ 1,820 คน)
— บาดเจ็บ รวม 8,457 คน (แยกเป็นคนไทย 6,065 คน คนต่างประเทศ 2,392 คน)
— รับแจ้งสูญหาย รวม 3,144 คน (แยกเป็นคนไทย 2,113 คน คนต่างประเทศ 1,031 คน) (ได้ผ่านการตรวจสอบครั้งที่ 10 ณ วันที่ 16 มกราคม 2548 โดยตัดรายชื่อแจ้งซ้ำ/กลับภูมิลำเนาเดิม/บาดเจ็บ/เสียชีวิต/พบตัว แล้ว)
1.4 ความเสียหายต่อทรัพย์สิน
— บ้านเรือนราษฎรเสียหาย รวม 6,799 หลัง แยกเป็นเสียหายทั้งหลัง 3,605 หลัง เสียหายบางส่วน 3,194 หลัง
— พื้นที่การเกษตร 2,389 ไร่ บ่อปลา/นากุ้ง เสียหาย 1,224 แห่ง โค/กระบือ 651 ตัว แพะ/แกะ 744 ตัว สัตว์ปีก 4,044 ตัว
— ด้านเครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพ ได้แก่ เรือประมงขนาดใหญ่1,222 ลำ เรือประมงขนาดเล็ก 3,426 ลำ เรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ 241 ลำ ขนาดเล็ก 313 ลำ อวน 1,871 หลัง กระชังปลาและหอย 27,828 หลุม โป๊ะ 421 โป๊ะ ลอบ 13,690 ใบ
— มูลค่าความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการประกอบอาชีพของราษฎรทั้ง 6 จังหวัด ประเมินในขั้นต้นประมาณ 17,438.15 ล้านบาท (ไม่รวมบ้าน/ที่อยู่อาศัย)
1.5 ความเสียหายด้านสิ่งสาธารณประโยชน์
ผลการสำรวจความเสียหายด้านสิ่งสาธารณประโยชน์เบื้องต้น พบว่าจังหวัดพังงาและภูเก็ต มีมูลค่าความเสียหายใกล้เคียงกัน โดยท่าเทียบเรือและระบบไฟฟ้ามีความเสียหายเป็นมูลค่ามากที่สุด แยกเป็น
— ท่าเทียบเรือ 85 แห่ง
— สะพาน คสล. 20 แห่ง สะพานไม้ 4 แห่ง
— ท่อเหลี่ยม (คสล.) 2 แห่ง ถนน 64 แห่ง
— ทำนบ/เหมือง/ฝาย 1 แห่ง พนังกั้นน้ำ/เขื่อน 6 แห่ง
— ระบบไฟฟ้า 65 แห่ง ระบบประปา 16 แห่ง โทรศัพท์ 16 แห่ง
— อื่นๆ 25 แห่ง
— มูลค่าความเสียหายสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ประเมินในขั้นต้น ประมาณ 1,113.22 ล้านบาท
1.6 ความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม
การสำรวจความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม เป็นการประเมินเบื้องต้นที่สามารถสังเกตได้ ดังนี้
— แนวปะการัง เสียหายเล็กน้อยประมาณ 3,146 ไร่ เสียหายมากประมาณ 550 ไร่
— ชายหาด ส่วนใหญ่เสียหายมาก พื้นที่ประมาณ 6,200 ไร่
— ป่าชายเลน เสียหายมากประมาณ 555 ไร่ เสียหายเล็กน้อย 1,860 ไร่
— ป่าไม้ เสียหายประมาณ 500 ไร่
— แหล่งน้ำจืด บ่อน้ำตื้น เสียหาย 222 บ่อ บ่อบาดาล 50 บ่อ
— พื้นที่ทิ้งขยะ สถานที่ฝังกลบขยะเสียหายประมาณ 2 ไร่
— สภาพพื้นที่เสื่อมโทรม (ดินเค็ม) ประมาณ 423.5 ไร่ (อยู่ระหว่างการสำรวจ)
2. การตรวจพิสูจน์ยืนยันบุคคลผู้เสียชีวิต
2.1 เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์ (Tsunami) เป็นจำนวนมากถึง 5,322 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มกราคม 2548) ขณะนี้มีจำนวนที่สามารถยืนยันพิสูจน์ตัวบุคคลหรือญาติยืนยันแล้ว (Identified) และจำนวนศพที่ยังยืนยันไม่ได้ (Unidentified) ดังนี้
— ยืนยันได้แล้ว จำนวน 1,567 ศพ (ไทย 1,362 ศพ ต่างชาติ 205 ศพ) ญาติรับศพไปแล้ว คนไทย 1,122 คน คนต่างชาติ 193 คน)
— ยังยืนยันไม่ได้ (Unidentified) จำนวน 3,422 ศพ (ไทย 8 ศพ ต่างชาติ 1,526 ศพ ระบุ ไม่ได้ 1,888 ศพ)
2.2 การพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami)
— รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนแห่งราชอาณาจักร ได้ลงนามในคำสั่งกองอำนวยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนแห่งราชอาณาจักร แต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ และมีคณะอนุกรรมการ 4 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์และแจ้งข่าวสาร คณะอนุกรรมการปฏิบัติการชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์เอกลักษณ์ศพ คณะอนุกรรมการสนับสนุนการพิสูจน์เอกลักษณ์ศพ และคณะอนุกรรมการบริหารจัดการศพ
— ได้มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯ และคณะอนุกรรมการปฏิบัติการชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์เอกลักษณ์ศพ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2548 สรุปผลการประชุม ดังนี้
1) ให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami) มีชื่อภาษาอังกฤษ Thai Tsunami Victims Identification (TTVI) โดยประสานการปฏิบัติระหว่างกระทรวงยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทย ภายใต้การดำเนินงานที่เป็นมาตรฐานสากลเดียวกัน
2) การดำเนินการจัดเก็บศพ กำหนดให้สุสานไม้ขาว ตำบลท่าฉัตรไชย อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เป็นแหล่งรวบรวมศพที่ไม่สามารถ Identified ได้ ของจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงาทั้งหมด โดยจะใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่บริหารจัดการและดำเนินการตรวจพิสูจน์เพิ่มเติมเกี่ยวกับศพ ยกเว้นศพคนไทยที่ยืนยันตัวบุคคล ตรวจพิสูจน์เสร็จเรียบร้อยแล้ว และญาติฝากศพไว้ ให้ยังคงเก็บไว้ที่วัดย่านยาว อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
3) ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ญาติของผู้สูญหายจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami) ตรวจพิสูจน์ DNA รวมทั้งขอความร่วมมือแจ้งข้อมูลบุคคล รูปพรรณสัณฐานผู้สูญหาย เพื่อตรวจสอบเปรียบเทียบ DNA กับผู้เสียชีวิตจากคลื่นยักษ์ (Tsunami)
ทั้งนี้ รายละเอียดผลการประชุมขั้นตอนการปฏิบัติในการตรวจพิสูจน์ยืนยันบุคคลของศูนย์อำนวยการพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami) จะได้ดำเนินงานเป็นการเฉพาะเรื่องอีกต่อไป
3. การช่วยเหลือผู้ประสบภัย
3.1 การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย (จนถึงวันที่ 16 มกราคม 2548) ได้จ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 159,482,826 บาท แยกเป็น
— ตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ (งบ 50 ล้านบาท) เป็นเงิน 71,710,326 บาท (ค่าจัดการศพ 1,592 ราย บาดเจ็บ 1,320 ราย ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ ค่าเครื่องครัว เครื่องนอน ฯลฯ)
— เงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเงิน 81,684,000 บาท (ค่าจัดการศพ 1,607 ราย บาดเจ็บ 6,924 ราย)
- เงินช่วยเหลือของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นเงิน 6,088,500 บาท (ค่าขนย้ายครอบครัว/สงเคราะห์ครอบครัว 4,040 ราย)
3.2 การจัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ประสบภัย
1) จัดบ้านพักชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบภัยรุนแรงได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ดังนี้
- จ.พังงา ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตะกั่วป่า ท้ายเหมือง และคุระบุรี รวม 1,459 หลัง 660 เต้นท์ รองรับผู้ประสบภัย 2,488 ครอบครัว ซึ่งมีบ้านพักชั่วคราว (น็อคดาวน์) ของมูลนิธิ “เพื่อนพึ่ง (ภาฯ)” จัดสร้างโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 118 หลัง และมูลนิธิ “เพื่อนพึ่ง (ภาฯ)” ได้จัดหาบ้านพักชั่วคราว (น็อคดาวน์) เพิ่มเติม จำนวน 200 หลัง เพื่อย้ายผู้ประสบภัยที่พักอาศัยเต้นท์ ให้มาอยู่ในบ้านชั่วคราวแทน
- จ..กระบี่ ที่อำเภอเกาะลันเตา เรือนแถว 35 หลัง 60 เต้นท์
- จ.ระนอง ที่กิ่งอำเภอสุขสำราญ 42 หลัง
สำหรับ จ.ภูเก็ต พักอาศัยบ้านญาติ ส่วน จ.สตูล และตรัง ไม่มีปัญหา
2) การก่อสร้างบ้านพักถาวร (หลังละ 100,000 บาท) ในพื้นที่ประสบภัย 6 จังหวัด ขณะนี้ได้สำรวจจำนวนความต้องการ มียอดรวมทั้งสิ้น 3,311 หลัง และจัดเตรียมพื้นที่ก่อสร้างได้แล้ว ดังนี้
- จ.พังงา ในพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า ท้ายเหมือง และคุระบุรี จำนวน 2,460 หลัง
- จ.ระนอง ในพื้นที่ อ.กะเปอร์ และกิ่ง อ.สุขสำราญ จำนวน 183 หลัง
- จ.ภูเก็ต ในพื้นที่ อ.เมือง กะทู้ และถลาง จำนวน 263 หลัง
- จ.กระบี่ ในพื้นที่ อ.เมือง เหนือคลองและเกาะลันตา จำนวน 370 หลัง
- จ.สตูล ในพื้นที่ อ.ละงู จำนวน 2 หลัง
- จ.ตรัง ในพื้นที่ อ.กันตังและปะเหลียน จำนวน 33 หลัง
ขณะนี้มีภาคเอกชนนำโดย ITV เสนอตัวร่วมบริจาคก่อสร้างบ้านถาวรให้ที่จังหวัดพังงา 500 หลัง และที่จังหวัดภูเก็ต 115 หลัง นอกจากนี้มีองค์กรที่เสนอให้ความช่วยเหลือจังหวัดพังงา โดยบริจาคเงินก่อสร้างบ้านพักถาวร โรงเรียน และสถานพยาบาล เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดพังงา อาทิเช่น
— ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ ร่วมบริจาคเงินก่อสร้างบ้านถาวรพร้อมระบบสาธารณูปโภค จำนวน 80 ล้านบาท และค่าก่อสร้างโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
— สโมสรโรตารีประเทศไทย บ้านพักถาวร 100 หลัง
— มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวัน บ้านพักถาวร 100 หลัง
— Korea International Cooperation Agency (KOICA) บ้านพักถาวร 5 ล้านเหรียญสหรัฐ
— หอการค้าภูเก็ต บ้านพักถาวร 100 หลัง
— กาชาดฟินแลนด์ เสนอตัวร่วมบริจาคเงินปรับปรุงโรงพยาบาลตะกั่วป่า และ
คุระบุรี สถานีอนามัย 3 แห่ง
3.3 การช่วยเหลือของภาคเอกชน องค์กร และต่างประเทศ
ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือฯ ณ จังหวัดภูเก็ต ได้รับรายงานจากจังหวัดเกี่ยวกับข้อมูลการช่วยเหลือของภาคเอกชน องค์กร และต่างประเทศ ที่ให้แก่จังหวัด ดังนี้
1) การจัดสร้างบ้านพักถาวร
จังหวัด ภาคเอกชน/องค์กร/ต่างประเทศ จำนวน งบประมาณ สถานที่ดำเนินการ
(หลัง) (บาท)
1.ภูเก็ต - สถานีโทรทัศน์ ITV 115 11,500,000 - ต.กมลา และป่าตอง
2.พังงา - ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ 800 80,000,000
- สถานีโทรทัศน์ ITV 1,000 100,000,000
- มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย 100 10,000,000 - ต.บางนายสี(บ้านพรุเดียว)
200 ไร่
- สโมสรโรตารี่แห่งประเทศไทย 100 10,000,000
- มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวัน 100 10,000,000 - ต.บางนายสี(บ้านพรุเดียว)
200 ไร่
- Korea International 5,000,000 - ต.บางม่วง 72 ไร่
Cooperation Agency (เหรียญสหรัฐ) - ต.ลำแก่น 14 ไร่
(KOICA) - ต.บางม่วง 18 ไร่
- ม.2 ต.คึกคึก 29 ไร่
- ม.6-9 ต.คึกคึก 21 ไร่
- หอการค้าไทย 100 10,000,000
- กาชาดคูเวต 50 10,000,000
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 100 10,000,000
- ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรี- 5 500,000
อยุธยา
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 500 50,000,000
- บริษัทปูนซีเมนต์ไทย ปูน 1,000 ตัน
3.กระบี่ - ผู้มีจิตศรัทธา 33 3,300,000
หมายเหตุ จ.พังงา มีผู้เสนอบริจาคบ้านถาวร รวม 3,055 หลัง (ความต้องการ 2,460 หลัง) เกินความต้องการ
2) การก่อสร้างโรงเรียน/สถานีอนามัย
จังหวัด ภาคเอกชน ประเภท จำนวนเงิน สถานที่ดำเนินการ
(บาท)
1.ระนอง - บริษัท บางกอกไตรวิชั่น - โรงเรียน 4,643,320 ร.ร.บ้านทะเลนอก
กิ่ง อ.สุขสำราญ
2.กระบี่ - ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ - โรงเรียน 50,000,000 เกาะพีพี
- โรงพยาบาล 36,000,000
3.พังงา - มูลนิธิราชปรระชานุเคราะห์ - โรงเรียน - ร.ร.บ้านบางสัก
และอื่นๆ - ร.ร.บ้านทับละมุ
- ร.ร.บ้านน้ำเค็ม
ความต้องการของจังหวัดที่จะขอให้ภาคเอกชน/ต่างประเทศ เข้ามาสนับสนุนช่วยเหลือ
จังหวัด ประเภท จำนวน งบประมาณ หมายเหตุ
(ล้านบาท)
1. กระบี่ - บ้านพักถาวร 350 หลัง 35
- การประกอบอาชีพ เรือประมง/ 99.32
เรือท่องเที่ยว
- การฟื้นฟูสถานประกอบการ 120 แห่ง
- สิ่งแวดล้อม (ดินเค็ม/ต้นไม้ 700 ไร่ 10.28
และปะการัง)
- สิ่งสาธารณประโยชน์ 28 แห่ง 212.72
2. พังงา - การประกอบอาชีพ อยู่ระหว่างตรวจสอบ -
- โรงพยาบาลบ้านเขาหลัก 1 แห่ง 90
(ขนาด 30 เตียง)
- การฟื้นฟูกิจการ- อยู่ระหว่างตรวจสอบ -
สถานประกอบการ
- ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมดินเค็ม 5,895 ไร่ 1.42อ.ตะกั่วป่า
- ฟื้นฟูป่าชายเลน 1,850 ไร่ 17.6อ.ท้ายเหมือง
- ปรับปรุงแหล่งน้ำ 213 แห่ง 31.6อ.คุระบุรี
3. ภูเก็ต - บ้านถาวร 263 หลัง 26.3อ.เมือง
- โรงเรียน 7 แห่ง 44.49อ.ถลาง
- ฟื้นฟูสถานประกอบการ 91 แห่ง 3,252.70อ.กะทู้
- ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ปะการัง อยู่ระหว่างตรวจสอบ
หญ้าทะเล ขยะ
หมายเหตุ สำหรับจังหวัดอื่น อยู่ระหว่างการรวบรวม
4. ผลการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2548
4.1 การฟื้นฟูจัดระเบียบการก่อสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างและการจัดระเบียบชายหาด ได้ดำเนินการใน 4 ภารกิจแล้ว ดังนี้
4.1.1 การทำความสะอาดขนย้ายซากปรักหักพังขยะมูลฝอย
จังหวัด รวมพื้นที่ พื้นที่ดำเนินการแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างดำเนินการ
ทำความสะอาด
1. ภูเก็ต 28 แห่ง 26 แห่ง 2 แห่ง
2. พังงา 14 แห่ง 5 แห่ง 9 แห่ง (เนื่องจากต้องระดมค้นหาศพ
คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง)
3. ระนอง 8 แห่ง 8 แห่ง _
4. ตรัง 8 แห่ง 8 แห่ง _
5. กระบี่ 8 แห่ง 7 แห่ง 1 แห่ง (เกาะพีพี)
(คงเหลืองานซากปรักหักพังต้องใช้เวลา
อีกระยะหนึ่ง เนื่องจากต้องขนเศษวัสดุ
ทางเรือ)
6. สตูล _ ไม่มีความเสียหาย _
รวม 6 จังหวัด 66 แห่ง 54 แห่ง 12 แห่ง
4.1.2 ระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
ค่าใช้จ่ายในการบูรณะฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยที่ได้รับความเสียหาย มี 3 หน่วยงาน ได้เสนอคณะกรรมการอำนวยการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาจากธรณีพิบัติใน 6 จังหวัดภาคใต้ พิจารณาเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2548 สรุปผลได้ดังนี้
1) การประปาส่วนภูมิภาค เป็นเงิน 20.6 ล้านบาท ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณปกติของหน่วยงาน
2) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นเงิน 181.136 ล้านบาท ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณปกติของหน่วยงาน
3) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ค่าบูรณะฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายในส่วนที่ท้องถิ่นรับผิดชอบ จำนวน 60 แห่ง รวม 254 โครงการ เป็นเงิน 2,000 ล้านบาทเศษ (ข้อมูลอยู่ระหว่างรวบรวมเพิ่มเติม) ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณของสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ในวงเงิน 1,500 ล้านบาท
สำหรับงบประมาณเพื่อจัดหาเตาเผาศพและเตาเผาขยะปลอดมลพิษ ให้แก่เทศบาลเมืองกระบี่และตะกั่วป่า เพื่อใช้ประจำวัดในพื้นที่ เพื่อเผาศพคนไทยผู้เสียชีวิต ซึ่งมีเป็นจำนวนมากนั้น ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เสนอของบกลางฯ ต่อไป
4.1.3 การจัดระเบียบพื้นที่ชายหาด
ได้สั่งการให้จังหวัดจัดทำป้ายประกาศห้ามมิให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดเข้าทำประโยชน์ เช่น ปักร่ม หรือจัดวางเก้าอี้ บริเวณชายหาด ในบริเวณ 20 เมตร นับจากจุดที่น้ำขึ้นสูงสุด พร้อมกับจัด Zoning การใช้ประโยชน์พื้นที่ชายหาด โดยมอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนดจุดที่เหมาะสมและอาจจัดหาอุปกรณ์ เช่น ร่ม แผ่นปูนอนให้ ในลักษณะการให้พื้นที่สัมปทาน เพื่อสะดวกต่อการควบคุมดูแล
4.1.4 การฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว ปรับปรุงภูมิทัศน์ชายหาด (Beautify)
ได้เร่งรัดให้จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง จัดทำประมาณการของงบประมาณดำเนินงาน Beautify บริเวณชายหาดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ ให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2548
4.2 การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย
4.2.1 กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้รับอนุมัติวงเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยเบื้องต้น จำนวน 3,000 ราย เป็นเงิน 60,060,000 บาท เพื่อดำเนินการในพื้นที่ 5 จังหวัด คือ จังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง และระนอง รวม 32 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4.2.2 ได้ดำเนินการช่วยเหลือไปแล้ว 1,728 คน เป็นเงิน 33,730,000 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 16 มกราคม 2548)
4.2.3 มีผู้ประกอบการรายย่อยที่ประสบภัย มาขอลงทะเบียนเพิ่มเติม จำนวน 1,954 คน ซึ่งได้มอบหมายให้คณะกรรมการที่แต่งตั้งไว้ ตรวจสอบคุณสมบัติ เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือต่อไป
5. การจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศ (Data base)
5.1 ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548 ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้นำข้อมูลการช่วยเหลือของคณะกรรมการอำนวยการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาจากธรณีพิบัติใน 6 จังหวัด จากหน่วยงานที่รับผิดชอบ นำมารวบรวมไว้ในระบบฐานข้อมูลที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดทำไว้แล้ว เพื่อเป็นฐานข้อมูลกลางของทุกหน่วยงาน
5.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ดำเนินการจัดทำระบบข้อมูล ซึ่งได้พัฒนาปรับปรุงและสามารถเชื่อมโยง (Network) ให้ทุกส่วนราชการสามารถแลกเปลี่ยนบูรณาการข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์รวมกันได้แล้ว ดังนี้
(1) ขณะนี้ข้อมูลที่ได้จัดเก็บและบันทึกจากทั้ง 6 จังหวัด แต่ยังมีข้อมูลบางส่วนที่ยังไม่ครบถ้วน จึงได้ประสานกับจังหวัดเพื่อขอให้ตรวจสอบ ปรับปรุง และพัฒนาการจัดเก็บและบันทึกข้อมูลเพิ่มเติม (Update) เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วน ถูกต้อง และน่าเชื่อถือ
(2) กรณีการจัดทำฐานข้อมูลการช่วยเหลือของคณะกรรมการอำนวยการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาจากธรณีพิบัติใน 6 จังหวัด ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้ว ขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ปรับปรุงพัฒนาระบบบันทึกข้อมูล (Program) ไว้เสร็จแล้ว และกำลังทยอยบันทึกข้อมูลที่ได้รับการประสานจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและจังหวัด เพื่อให้สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
(3) ได้พัฒนาระบบการนำเข้าข้อมูล (Input) แก้ไข ค้นหา และการนำเสนอผ่านทางระบบเครือข่าย INTERNET ในลักษณะ Web-Base Application เพื่อสามารถให้บริการ เผยแพร่ ข้อมูล และเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง ครอบคลุมทุกพื้นที่ สามารถเข้าดูข้อมูลได้ที่ Web Site ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ที่ www.disaster.go.th และสืบค้นข้อมูลได้ที่หัวข้อ “ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศผู้ประสบภัยฯ” อีกทั้งยังสามารถให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน (Update) ตั้งแต่ในระดับอำเภอ จังหวัด และหน่วยงานในส่วนกลาง โดยการใช้รหัสผ่าน (password) ของผู้ใช้ (User) เพื่อทำการนำเข้าข้อมูล
6. การพัฒนาศักยภาพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการภัยพิบัติ
เลขานุการเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้นำคณะผู้เชี่ยวชาญการค้นหาและช่วยชีวิตของญี่ปุ่น (Japan Disaster Relief : JDR) ซึ่งได้มาปฏิบัติการค้นหาผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ ณ จังหวัดภูเก็ต กระบี่ และพังงา ได้นำเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ (JDR) ฝึกอบรมภาคทฤษฎีและความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ รวมทั้งการดับเพลิงให้แก่ข้าราชการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และได้คัดเลือกข้าราชการที่มีความรู้ ความสามารถ จำนวน 8 คน เข้ารับการปฏิบัติการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ที่นำมาใช้ค้นหาผู้รอดชีวิต ระหว่างวันที่ 9-15 มกราคม 2548 เพื่อมอบหมายให้เป็นชุดปฏิบัติการครูฝึกการบรรเทาสาธารณภัย Disaster Relief Trainer Team และเลขานุการเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้เป็นตัวแทนรัฐบาลญี่ปุ่นมอบเครื่องมือและอุปกรณ์การกู้ภัย (Rescue Equipment) ให้กับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อใช้ในภารกิจช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยต่อไป จำนวน 23 รายการ คิดเป็นมูลค่า 8,792,000 JPY หรือประมาณ 3,335,684 บาท
7. กรมที่ดินได้ทำการตรวจสอบแนวเขตที่ดิน โดยส่งช่างรังวัดจากส่วนกลาง ทำการรังวัด ปูเขตที่ดินให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยบริเวณหมู่ที่ 2 บ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งเป็นที่ดินที่มีหลักฐานโฉนดที่ดิน เพื่อรองรับการสร้างบ้านพักถาวรให้แก่ผู้ประสบภัยเสร็จแล้ว จำนวน 70 แปลง และบริการออกใบแทนให้ราษฎรที่ประสบภัย โดยกรมที่ดินออกค่าใช้จ่ายให้
8. การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรก เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2549 ได้มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ ประกอบด้วย อาหาร 2,000 กล่อง ผ้าห่ม 1,000 ผืน เต้นท์ 500 หลัง ยาและเวชภัณฑ์ รวมน้ำหนักจำนวน 75 ตัน มูลค่า 800,000 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยส่งมอบให้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงเทพมหานคร พร้อมกับเงินช่วยเหลือ จำนวน 200,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ผ่านสภากาชาดไทย และเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2548 ได้มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์เพิ่มเติม เป็นครั้งที่สองในจำนวนที่เท่ากับครั้งแรก โดยส่งมอบให้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 มกราคม 2548--จบ--
1. พื้นที่ประสบภัยและความเสียหาย (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มกราคม 2548)
1.1 พื้นที่ประสบภัยพิบัติ บริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันของจังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันตก 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล รวม 24 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 78 ตำบล 292 หมู่บ้าน โดยจังหวัดพังงาประสบภัยรุนแรงที่สุด
1.2 ราษฎรได้รับความเดือดร้อน มีจำนวน 54,672 คน 12,068 ครอบครัว
1.3 จำนวนผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหาย (ข้อมูลถึงวันที่ 17 มกราคม 2548)
— จำนวนผู้เสียชีวิต รวม 5,322 คน (แยกเป็นคนไทย 1,737 คน คนต่างประเทศ 1,765 คน ไม่สามารถระบุได้ ว่าเป็นคนไทยหรือคนต่างประเทศ 1,820 คน)
— บาดเจ็บ รวม 8,457 คน (แยกเป็นคนไทย 6,065 คน คนต่างประเทศ 2,392 คน)
— รับแจ้งสูญหาย รวม 3,144 คน (แยกเป็นคนไทย 2,113 คน คนต่างประเทศ 1,031 คน) (ได้ผ่านการตรวจสอบครั้งที่ 10 ณ วันที่ 16 มกราคม 2548 โดยตัดรายชื่อแจ้งซ้ำ/กลับภูมิลำเนาเดิม/บาดเจ็บ/เสียชีวิต/พบตัว แล้ว)
1.4 ความเสียหายต่อทรัพย์สิน
— บ้านเรือนราษฎรเสียหาย รวม 6,799 หลัง แยกเป็นเสียหายทั้งหลัง 3,605 หลัง เสียหายบางส่วน 3,194 หลัง
— พื้นที่การเกษตร 2,389 ไร่ บ่อปลา/นากุ้ง เสียหาย 1,224 แห่ง โค/กระบือ 651 ตัว แพะ/แกะ 744 ตัว สัตว์ปีก 4,044 ตัว
— ด้านเครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพ ได้แก่ เรือประมงขนาดใหญ่1,222 ลำ เรือประมงขนาดเล็ก 3,426 ลำ เรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ 241 ลำ ขนาดเล็ก 313 ลำ อวน 1,871 หลัง กระชังปลาและหอย 27,828 หลุม โป๊ะ 421 โป๊ะ ลอบ 13,690 ใบ
— มูลค่าความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการประกอบอาชีพของราษฎรทั้ง 6 จังหวัด ประเมินในขั้นต้นประมาณ 17,438.15 ล้านบาท (ไม่รวมบ้าน/ที่อยู่อาศัย)
1.5 ความเสียหายด้านสิ่งสาธารณประโยชน์
ผลการสำรวจความเสียหายด้านสิ่งสาธารณประโยชน์เบื้องต้น พบว่าจังหวัดพังงาและภูเก็ต มีมูลค่าความเสียหายใกล้เคียงกัน โดยท่าเทียบเรือและระบบไฟฟ้ามีความเสียหายเป็นมูลค่ามากที่สุด แยกเป็น
— ท่าเทียบเรือ 85 แห่ง
— สะพาน คสล. 20 แห่ง สะพานไม้ 4 แห่ง
— ท่อเหลี่ยม (คสล.) 2 แห่ง ถนน 64 แห่ง
— ทำนบ/เหมือง/ฝาย 1 แห่ง พนังกั้นน้ำ/เขื่อน 6 แห่ง
— ระบบไฟฟ้า 65 แห่ง ระบบประปา 16 แห่ง โทรศัพท์ 16 แห่ง
— อื่นๆ 25 แห่ง
— มูลค่าความเสียหายสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ประเมินในขั้นต้น ประมาณ 1,113.22 ล้านบาท
1.6 ความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม
การสำรวจความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม เป็นการประเมินเบื้องต้นที่สามารถสังเกตได้ ดังนี้
— แนวปะการัง เสียหายเล็กน้อยประมาณ 3,146 ไร่ เสียหายมากประมาณ 550 ไร่
— ชายหาด ส่วนใหญ่เสียหายมาก พื้นที่ประมาณ 6,200 ไร่
— ป่าชายเลน เสียหายมากประมาณ 555 ไร่ เสียหายเล็กน้อย 1,860 ไร่
— ป่าไม้ เสียหายประมาณ 500 ไร่
— แหล่งน้ำจืด บ่อน้ำตื้น เสียหาย 222 บ่อ บ่อบาดาล 50 บ่อ
— พื้นที่ทิ้งขยะ สถานที่ฝังกลบขยะเสียหายประมาณ 2 ไร่
— สภาพพื้นที่เสื่อมโทรม (ดินเค็ม) ประมาณ 423.5 ไร่ (อยู่ระหว่างการสำรวจ)
2. การตรวจพิสูจน์ยืนยันบุคคลผู้เสียชีวิต
2.1 เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์ (Tsunami) เป็นจำนวนมากถึง 5,322 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มกราคม 2548) ขณะนี้มีจำนวนที่สามารถยืนยันพิสูจน์ตัวบุคคลหรือญาติยืนยันแล้ว (Identified) และจำนวนศพที่ยังยืนยันไม่ได้ (Unidentified) ดังนี้
— ยืนยันได้แล้ว จำนวน 1,567 ศพ (ไทย 1,362 ศพ ต่างชาติ 205 ศพ) ญาติรับศพไปแล้ว คนไทย 1,122 คน คนต่างชาติ 193 คน)
— ยังยืนยันไม่ได้ (Unidentified) จำนวน 3,422 ศพ (ไทย 8 ศพ ต่างชาติ 1,526 ศพ ระบุ ไม่ได้ 1,888 ศพ)
2.2 การพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami)
— รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนแห่งราชอาณาจักร ได้ลงนามในคำสั่งกองอำนวยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนแห่งราชอาณาจักร แต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ และมีคณะอนุกรรมการ 4 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์และแจ้งข่าวสาร คณะอนุกรรมการปฏิบัติการชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์เอกลักษณ์ศพ คณะอนุกรรมการสนับสนุนการพิสูจน์เอกลักษณ์ศพ และคณะอนุกรรมการบริหารจัดการศพ
— ได้มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯ และคณะอนุกรรมการปฏิบัติการชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์เอกลักษณ์ศพ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2548 สรุปผลการประชุม ดังนี้
1) ให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami) มีชื่อภาษาอังกฤษ Thai Tsunami Victims Identification (TTVI) โดยประสานการปฏิบัติระหว่างกระทรวงยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทย ภายใต้การดำเนินงานที่เป็นมาตรฐานสากลเดียวกัน
2) การดำเนินการจัดเก็บศพ กำหนดให้สุสานไม้ขาว ตำบลท่าฉัตรไชย อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เป็นแหล่งรวบรวมศพที่ไม่สามารถ Identified ได้ ของจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงาทั้งหมด โดยจะใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่บริหารจัดการและดำเนินการตรวจพิสูจน์เพิ่มเติมเกี่ยวกับศพ ยกเว้นศพคนไทยที่ยืนยันตัวบุคคล ตรวจพิสูจน์เสร็จเรียบร้อยแล้ว และญาติฝากศพไว้ ให้ยังคงเก็บไว้ที่วัดย่านยาว อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
3) ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ญาติของผู้สูญหายจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami) ตรวจพิสูจน์ DNA รวมทั้งขอความร่วมมือแจ้งข้อมูลบุคคล รูปพรรณสัณฐานผู้สูญหาย เพื่อตรวจสอบเปรียบเทียบ DNA กับผู้เสียชีวิตจากคลื่นยักษ์ (Tsunami)
ทั้งนี้ รายละเอียดผลการประชุมขั้นตอนการปฏิบัติในการตรวจพิสูจน์ยืนยันบุคคลของศูนย์อำนวยการพิสูจน์ยืนยันบุคคลที่เสียชีวิตจากภัยคลื่นยักษ์ (Tsunami) จะได้ดำเนินงานเป็นการเฉพาะเรื่องอีกต่อไป
3. การช่วยเหลือผู้ประสบภัย
3.1 การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย (จนถึงวันที่ 16 มกราคม 2548) ได้จ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 159,482,826 บาท แยกเป็น
— ตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ (งบ 50 ล้านบาท) เป็นเงิน 71,710,326 บาท (ค่าจัดการศพ 1,592 ราย บาดเจ็บ 1,320 ราย ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ ค่าเครื่องครัว เครื่องนอน ฯลฯ)
— เงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเงิน 81,684,000 บาท (ค่าจัดการศพ 1,607 ราย บาดเจ็บ 6,924 ราย)
- เงินช่วยเหลือของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นเงิน 6,088,500 บาท (ค่าขนย้ายครอบครัว/สงเคราะห์ครอบครัว 4,040 ราย)
3.2 การจัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ประสบภัย
1) จัดบ้านพักชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบภัยรุนแรงได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ดังนี้
- จ.พังงา ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตะกั่วป่า ท้ายเหมือง และคุระบุรี รวม 1,459 หลัง 660 เต้นท์ รองรับผู้ประสบภัย 2,488 ครอบครัว ซึ่งมีบ้านพักชั่วคราว (น็อคดาวน์) ของมูลนิธิ “เพื่อนพึ่ง (ภาฯ)” จัดสร้างโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 118 หลัง และมูลนิธิ “เพื่อนพึ่ง (ภาฯ)” ได้จัดหาบ้านพักชั่วคราว (น็อคดาวน์) เพิ่มเติม จำนวน 200 หลัง เพื่อย้ายผู้ประสบภัยที่พักอาศัยเต้นท์ ให้มาอยู่ในบ้านชั่วคราวแทน
- จ..กระบี่ ที่อำเภอเกาะลันเตา เรือนแถว 35 หลัง 60 เต้นท์
- จ.ระนอง ที่กิ่งอำเภอสุขสำราญ 42 หลัง
สำหรับ จ.ภูเก็ต พักอาศัยบ้านญาติ ส่วน จ.สตูล และตรัง ไม่มีปัญหา
2) การก่อสร้างบ้านพักถาวร (หลังละ 100,000 บาท) ในพื้นที่ประสบภัย 6 จังหวัด ขณะนี้ได้สำรวจจำนวนความต้องการ มียอดรวมทั้งสิ้น 3,311 หลัง และจัดเตรียมพื้นที่ก่อสร้างได้แล้ว ดังนี้
- จ.พังงา ในพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า ท้ายเหมือง และคุระบุรี จำนวน 2,460 หลัง
- จ.ระนอง ในพื้นที่ อ.กะเปอร์ และกิ่ง อ.สุขสำราญ จำนวน 183 หลัง
- จ.ภูเก็ต ในพื้นที่ อ.เมือง กะทู้ และถลาง จำนวน 263 หลัง
- จ.กระบี่ ในพื้นที่ อ.เมือง เหนือคลองและเกาะลันตา จำนวน 370 หลัง
- จ.สตูล ในพื้นที่ อ.ละงู จำนวน 2 หลัง
- จ.ตรัง ในพื้นที่ อ.กันตังและปะเหลียน จำนวน 33 หลัง
ขณะนี้มีภาคเอกชนนำโดย ITV เสนอตัวร่วมบริจาคก่อสร้างบ้านถาวรให้ที่จังหวัดพังงา 500 หลัง และที่จังหวัดภูเก็ต 115 หลัง นอกจากนี้มีองค์กรที่เสนอให้ความช่วยเหลือจังหวัดพังงา โดยบริจาคเงินก่อสร้างบ้านพักถาวร โรงเรียน และสถานพยาบาล เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดพังงา อาทิเช่น
— ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ ร่วมบริจาคเงินก่อสร้างบ้านถาวรพร้อมระบบสาธารณูปโภค จำนวน 80 ล้านบาท และค่าก่อสร้างโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
— สโมสรโรตารีประเทศไทย บ้านพักถาวร 100 หลัง
— มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวัน บ้านพักถาวร 100 หลัง
— Korea International Cooperation Agency (KOICA) บ้านพักถาวร 5 ล้านเหรียญสหรัฐ
— หอการค้าภูเก็ต บ้านพักถาวร 100 หลัง
— กาชาดฟินแลนด์ เสนอตัวร่วมบริจาคเงินปรับปรุงโรงพยาบาลตะกั่วป่า และ
คุระบุรี สถานีอนามัย 3 แห่ง
3.3 การช่วยเหลือของภาคเอกชน องค์กร และต่างประเทศ
ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือฯ ณ จังหวัดภูเก็ต ได้รับรายงานจากจังหวัดเกี่ยวกับข้อมูลการช่วยเหลือของภาคเอกชน องค์กร และต่างประเทศ ที่ให้แก่จังหวัด ดังนี้
1) การจัดสร้างบ้านพักถาวร
จังหวัด ภาคเอกชน/องค์กร/ต่างประเทศ จำนวน งบประมาณ สถานที่ดำเนินการ
(หลัง) (บาท)
1.ภูเก็ต - สถานีโทรทัศน์ ITV 115 11,500,000 - ต.กมลา และป่าตอง
2.พังงา - ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ 800 80,000,000
- สถานีโทรทัศน์ ITV 1,000 100,000,000
- มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย 100 10,000,000 - ต.บางนายสี(บ้านพรุเดียว)
200 ไร่
- สโมสรโรตารี่แห่งประเทศไทย 100 10,000,000
- มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวัน 100 10,000,000 - ต.บางนายสี(บ้านพรุเดียว)
200 ไร่
- Korea International 5,000,000 - ต.บางม่วง 72 ไร่
Cooperation Agency (เหรียญสหรัฐ) - ต.ลำแก่น 14 ไร่
(KOICA) - ต.บางม่วง 18 ไร่
- ม.2 ต.คึกคึก 29 ไร่
- ม.6-9 ต.คึกคึก 21 ไร่
- หอการค้าไทย 100 10,000,000
- กาชาดคูเวต 50 10,000,000
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 100 10,000,000
- ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรี- 5 500,000
อยุธยา
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 500 50,000,000
- บริษัทปูนซีเมนต์ไทย ปูน 1,000 ตัน
3.กระบี่ - ผู้มีจิตศรัทธา 33 3,300,000
หมายเหตุ จ.พังงา มีผู้เสนอบริจาคบ้านถาวร รวม 3,055 หลัง (ความต้องการ 2,460 หลัง) เกินความต้องการ
2) การก่อสร้างโรงเรียน/สถานีอนามัย
จังหวัด ภาคเอกชน ประเภท จำนวนเงิน สถานที่ดำเนินการ
(บาท)
1.ระนอง - บริษัท บางกอกไตรวิชั่น - โรงเรียน 4,643,320 ร.ร.บ้านทะเลนอก
กิ่ง อ.สุขสำราญ
2.กระบี่ - ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ - โรงเรียน 50,000,000 เกาะพีพี
- โรงพยาบาล 36,000,000
3.พังงา - มูลนิธิราชปรระชานุเคราะห์ - โรงเรียน - ร.ร.บ้านบางสัก
และอื่นๆ - ร.ร.บ้านทับละมุ
- ร.ร.บ้านน้ำเค็ม
ความต้องการของจังหวัดที่จะขอให้ภาคเอกชน/ต่างประเทศ เข้ามาสนับสนุนช่วยเหลือ
จังหวัด ประเภท จำนวน งบประมาณ หมายเหตุ
(ล้านบาท)
1. กระบี่ - บ้านพักถาวร 350 หลัง 35
- การประกอบอาชีพ เรือประมง/ 99.32
เรือท่องเที่ยว
- การฟื้นฟูสถานประกอบการ 120 แห่ง
- สิ่งแวดล้อม (ดินเค็ม/ต้นไม้ 700 ไร่ 10.28
และปะการัง)
- สิ่งสาธารณประโยชน์ 28 แห่ง 212.72
2. พังงา - การประกอบอาชีพ อยู่ระหว่างตรวจสอบ -
- โรงพยาบาลบ้านเขาหลัก 1 แห่ง 90
(ขนาด 30 เตียง)
- การฟื้นฟูกิจการ- อยู่ระหว่างตรวจสอบ -
สถานประกอบการ
- ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมดินเค็ม 5,895 ไร่ 1.42อ.ตะกั่วป่า
- ฟื้นฟูป่าชายเลน 1,850 ไร่ 17.6อ.ท้ายเหมือง
- ปรับปรุงแหล่งน้ำ 213 แห่ง 31.6อ.คุระบุรี
3. ภูเก็ต - บ้านถาวร 263 หลัง 26.3อ.เมือง
- โรงเรียน 7 แห่ง 44.49อ.ถลาง
- ฟื้นฟูสถานประกอบการ 91 แห่ง 3,252.70อ.กะทู้
- ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ปะการัง อยู่ระหว่างตรวจสอบ
หญ้าทะเล ขยะ
หมายเหตุ สำหรับจังหวัดอื่น อยู่ระหว่างการรวบรวม
4. ผลการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2548
4.1 การฟื้นฟูจัดระเบียบการก่อสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างและการจัดระเบียบชายหาด ได้ดำเนินการใน 4 ภารกิจแล้ว ดังนี้
4.1.1 การทำความสะอาดขนย้ายซากปรักหักพังขยะมูลฝอย
จังหวัด รวมพื้นที่ พื้นที่ดำเนินการแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างดำเนินการ
ทำความสะอาด
1. ภูเก็ต 28 แห่ง 26 แห่ง 2 แห่ง
2. พังงา 14 แห่ง 5 แห่ง 9 แห่ง (เนื่องจากต้องระดมค้นหาศพ
คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง)
3. ระนอง 8 แห่ง 8 แห่ง _
4. ตรัง 8 แห่ง 8 แห่ง _
5. กระบี่ 8 แห่ง 7 แห่ง 1 แห่ง (เกาะพีพี)
(คงเหลืองานซากปรักหักพังต้องใช้เวลา
อีกระยะหนึ่ง เนื่องจากต้องขนเศษวัสดุ
ทางเรือ)
6. สตูล _ ไม่มีความเสียหาย _
รวม 6 จังหวัด 66 แห่ง 54 แห่ง 12 แห่ง
4.1.2 ระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
ค่าใช้จ่ายในการบูรณะฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยที่ได้รับความเสียหาย มี 3 หน่วยงาน ได้เสนอคณะกรรมการอำนวยการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาจากธรณีพิบัติใน 6 จังหวัดภาคใต้ พิจารณาเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2548 สรุปผลได้ดังนี้
1) การประปาส่วนภูมิภาค เป็นเงิน 20.6 ล้านบาท ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณปกติของหน่วยงาน
2) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นเงิน 181.136 ล้านบาท ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณปกติของหน่วยงาน
3) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ค่าบูรณะฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายในส่วนที่ท้องถิ่นรับผิดชอบ จำนวน 60 แห่ง รวม 254 โครงการ เป็นเงิน 2,000 ล้านบาทเศษ (ข้อมูลอยู่ระหว่างรวบรวมเพิ่มเติม) ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณของสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ในวงเงิน 1,500 ล้านบาท
สำหรับงบประมาณเพื่อจัดหาเตาเผาศพและเตาเผาขยะปลอดมลพิษ ให้แก่เทศบาลเมืองกระบี่และตะกั่วป่า เพื่อใช้ประจำวัดในพื้นที่ เพื่อเผาศพคนไทยผู้เสียชีวิต ซึ่งมีเป็นจำนวนมากนั้น ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เสนอของบกลางฯ ต่อไป
4.1.3 การจัดระเบียบพื้นที่ชายหาด
ได้สั่งการให้จังหวัดจัดทำป้ายประกาศห้ามมิให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดเข้าทำประโยชน์ เช่น ปักร่ม หรือจัดวางเก้าอี้ บริเวณชายหาด ในบริเวณ 20 เมตร นับจากจุดที่น้ำขึ้นสูงสุด พร้อมกับจัด Zoning การใช้ประโยชน์พื้นที่ชายหาด โดยมอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนดจุดที่เหมาะสมและอาจจัดหาอุปกรณ์ เช่น ร่ม แผ่นปูนอนให้ ในลักษณะการให้พื้นที่สัมปทาน เพื่อสะดวกต่อการควบคุมดูแล
4.1.4 การฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว ปรับปรุงภูมิทัศน์ชายหาด (Beautify)
ได้เร่งรัดให้จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง จัดทำประมาณการของงบประมาณดำเนินงาน Beautify บริเวณชายหาดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ ให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2548
4.2 การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย
4.2.1 กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้รับอนุมัติวงเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยเบื้องต้น จำนวน 3,000 ราย เป็นเงิน 60,060,000 บาท เพื่อดำเนินการในพื้นที่ 5 จังหวัด คือ จังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง และระนอง รวม 32 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4.2.2 ได้ดำเนินการช่วยเหลือไปแล้ว 1,728 คน เป็นเงิน 33,730,000 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 16 มกราคม 2548)
4.2.3 มีผู้ประกอบการรายย่อยที่ประสบภัย มาขอลงทะเบียนเพิ่มเติม จำนวน 1,954 คน ซึ่งได้มอบหมายให้คณะกรรมการที่แต่งตั้งไว้ ตรวจสอบคุณสมบัติ เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือต่อไป
5. การจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศ (Data base)
5.1 ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548 ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้นำข้อมูลการช่วยเหลือของคณะกรรมการอำนวยการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาจากธรณีพิบัติใน 6 จังหวัด จากหน่วยงานที่รับผิดชอบ นำมารวบรวมไว้ในระบบฐานข้อมูลที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดทำไว้แล้ว เพื่อเป็นฐานข้อมูลกลางของทุกหน่วยงาน
5.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ดำเนินการจัดทำระบบข้อมูล ซึ่งได้พัฒนาปรับปรุงและสามารถเชื่อมโยง (Network) ให้ทุกส่วนราชการสามารถแลกเปลี่ยนบูรณาการข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์รวมกันได้แล้ว ดังนี้
(1) ขณะนี้ข้อมูลที่ได้จัดเก็บและบันทึกจากทั้ง 6 จังหวัด แต่ยังมีข้อมูลบางส่วนที่ยังไม่ครบถ้วน จึงได้ประสานกับจังหวัดเพื่อขอให้ตรวจสอบ ปรับปรุง และพัฒนาการจัดเก็บและบันทึกข้อมูลเพิ่มเติม (Update) เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วน ถูกต้อง และน่าเชื่อถือ
(2) กรณีการจัดทำฐานข้อมูลการช่วยเหลือของคณะกรรมการอำนวยการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาจากธรณีพิบัติใน 6 จังหวัด ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้ว ขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ปรับปรุงพัฒนาระบบบันทึกข้อมูล (Program) ไว้เสร็จแล้ว และกำลังทยอยบันทึกข้อมูลที่ได้รับการประสานจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและจังหวัด เพื่อให้สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
(3) ได้พัฒนาระบบการนำเข้าข้อมูล (Input) แก้ไข ค้นหา และการนำเสนอผ่านทางระบบเครือข่าย INTERNET ในลักษณะ Web-Base Application เพื่อสามารถให้บริการ เผยแพร่ ข้อมูล และเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง ครอบคลุมทุกพื้นที่ สามารถเข้าดูข้อมูลได้ที่ Web Site ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ที่ www.disaster.go.th และสืบค้นข้อมูลได้ที่หัวข้อ “ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศผู้ประสบภัยฯ” อีกทั้งยังสามารถให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน (Update) ตั้งแต่ในระดับอำเภอ จังหวัด และหน่วยงานในส่วนกลาง โดยการใช้รหัสผ่าน (password) ของผู้ใช้ (User) เพื่อทำการนำเข้าข้อมูล
6. การพัฒนาศักยภาพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการภัยพิบัติ
เลขานุการเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้นำคณะผู้เชี่ยวชาญการค้นหาและช่วยชีวิตของญี่ปุ่น (Japan Disaster Relief : JDR) ซึ่งได้มาปฏิบัติการค้นหาผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ ณ จังหวัดภูเก็ต กระบี่ และพังงา ได้นำเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ (JDR) ฝึกอบรมภาคทฤษฎีและความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ รวมทั้งการดับเพลิงให้แก่ข้าราชการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และได้คัดเลือกข้าราชการที่มีความรู้ ความสามารถ จำนวน 8 คน เข้ารับการปฏิบัติการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ที่นำมาใช้ค้นหาผู้รอดชีวิต ระหว่างวันที่ 9-15 มกราคม 2548 เพื่อมอบหมายให้เป็นชุดปฏิบัติการครูฝึกการบรรเทาสาธารณภัย Disaster Relief Trainer Team และเลขานุการเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้เป็นตัวแทนรัฐบาลญี่ปุ่นมอบเครื่องมือและอุปกรณ์การกู้ภัย (Rescue Equipment) ให้กับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อใช้ในภารกิจช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยต่อไป จำนวน 23 รายการ คิดเป็นมูลค่า 8,792,000 JPY หรือประมาณ 3,335,684 บาท
7. กรมที่ดินได้ทำการตรวจสอบแนวเขตที่ดิน โดยส่งช่างรังวัดจากส่วนกลาง ทำการรังวัด ปูเขตที่ดินให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยบริเวณหมู่ที่ 2 บ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งเป็นที่ดินที่มีหลักฐานโฉนดที่ดิน เพื่อรองรับการสร้างบ้านพักถาวรให้แก่ผู้ประสบภัยเสร็จแล้ว จำนวน 70 แปลง และบริการออกใบแทนให้ราษฎรที่ประสบภัย โดยกรมที่ดินออกค่าใช้จ่ายให้
8. การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรก เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2549 ได้มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ ประกอบด้วย อาหาร 2,000 กล่อง ผ้าห่ม 1,000 ผืน เต้นท์ 500 หลัง ยาและเวชภัณฑ์ รวมน้ำหนักจำนวน 75 ตัน มูลค่า 800,000 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยส่งมอบให้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงเทพมหานคร พร้อมกับเงินช่วยเหลือ จำนวน 200,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ผ่านสภากาชาดไทย และเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2548 ได้มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์เพิ่มเติม เป็นครั้งที่สองในจำนวนที่เท่ากับครั้งแรก โดยส่งมอบให้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 มกราคม 2548--จบ--