คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมสัมมนาเรื่อง “การให้ความคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคและการช่วยเหลือผู้บริโภคเกี่ยวกับสินค้าประเภทรถยนต์” ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
1) ผู้ประกอบธุรกิจรับทราบสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภคในลักษณะต่างๆ และแนวทางการช่วยเหลือให้แก่ผู้บริโภคของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
2) การจัดให้มีฉลากสินค้าให้มีความเหมาะสม โดยมีข้อความที่ชัดเจนเข้าใจง่ายไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เช่น คู่มือถุงลมนิรภัย
3) การใช้ข้อความโฆษณาที่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคกรณีการลด แลก แจก แถม หรือ สิทธิประโยชน์โดยให้เปล่า
4) การปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา ให้ธุรกิจการให้บริการอู่ซ่อมรถยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงินโดย
เคร่งครัด เพื่อเป็นการให้ความเป็นธรรมต่อผู้บริโภคด้านสัญญา
5) รับทราบการดำเนินการช่วยเหลือผู้บริโภคกรณีร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าประเภทรถยนต์ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
6) ให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมศึกษาและออกกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมมาตรฐานการผลิตรถยนต์ทั้งคัน รวมถึงการตรวจสอบ วิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ ที่มีการร้องเรียนจากผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในการซื้อสินค้าดังกล่าว
7) การแสดงความรับผิดชอบของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับ
(1) การตรวจสอบมาตรฐานการผลิตก่อนการส่งมอบให้ผู้แทนจำหน่ายรับไปจำหน่ายให้กับผู้บริโภค
(2) มาตรฐานคุณภาพของรถยนต์ต่อการใช้งานที่เหมาะสมสำหรับผู้บริโภค
(3) การให้ความรู้ความเข้าใจต่อการใช้รถยนต์ให้กับผู้บริโภคก่อนซื้อสินค้า/หรือก่อนทำสัญญาซื้อขาย
(4) การให้บริการหลังการขายด้วยการให้มี Call Center เพื่อให้บริการให้คำแนะนำ คำปรึกษาแก่ผู้บริโภค การจัดให้มีช่างที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการวินิจฉัยปัญหารถยนต์
(5) การเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเมื่อมีการร้องเรียนจากผู้บริโภคในกรณีต่าง ๆ เช่น การซ่อมแซมกรณีชำรุดพร่อง การรับซื้อคืน การเปลี่ยนรถคันใหม่ รวมถึงขอบเขตการรับประกันสินค้ารถยนต์ โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจนำไปพิจารณาให้มีความเหมาะสมและแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคทราบเพื่อกำหนดให้มีความเหมาะสมต่อไป
(6) การจัดให้มีอนุญาโตตุลาการพิจารณาข้อพิพาทระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 มีนาคม 2548--จบ--
1) ผู้ประกอบธุรกิจรับทราบสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภคในลักษณะต่างๆ และแนวทางการช่วยเหลือให้แก่ผู้บริโภคของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
2) การจัดให้มีฉลากสินค้าให้มีความเหมาะสม โดยมีข้อความที่ชัดเจนเข้าใจง่ายไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เช่น คู่มือถุงลมนิรภัย
3) การใช้ข้อความโฆษณาที่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคกรณีการลด แลก แจก แถม หรือ สิทธิประโยชน์โดยให้เปล่า
4) การปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา ให้ธุรกิจการให้บริการอู่ซ่อมรถยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงินโดย
เคร่งครัด เพื่อเป็นการให้ความเป็นธรรมต่อผู้บริโภคด้านสัญญา
5) รับทราบการดำเนินการช่วยเหลือผู้บริโภคกรณีร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าประเภทรถยนต์ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
6) ให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมศึกษาและออกกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมมาตรฐานการผลิตรถยนต์ทั้งคัน รวมถึงการตรวจสอบ วิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ ที่มีการร้องเรียนจากผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในการซื้อสินค้าดังกล่าว
7) การแสดงความรับผิดชอบของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับ
(1) การตรวจสอบมาตรฐานการผลิตก่อนการส่งมอบให้ผู้แทนจำหน่ายรับไปจำหน่ายให้กับผู้บริโภค
(2) มาตรฐานคุณภาพของรถยนต์ต่อการใช้งานที่เหมาะสมสำหรับผู้บริโภค
(3) การให้ความรู้ความเข้าใจต่อการใช้รถยนต์ให้กับผู้บริโภคก่อนซื้อสินค้า/หรือก่อนทำสัญญาซื้อขาย
(4) การให้บริการหลังการขายด้วยการให้มี Call Center เพื่อให้บริการให้คำแนะนำ คำปรึกษาแก่ผู้บริโภค การจัดให้มีช่างที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการวินิจฉัยปัญหารถยนต์
(5) การเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเมื่อมีการร้องเรียนจากผู้บริโภคในกรณีต่าง ๆ เช่น การซ่อมแซมกรณีชำรุดพร่อง การรับซื้อคืน การเปลี่ยนรถคันใหม่ รวมถึงขอบเขตการรับประกันสินค้ารถยนต์ โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจนำไปพิจารณาให้มีความเหมาะสมและแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคทราบเพื่อกำหนดให้มีความเหมาะสมต่อไป
(6) การจัดให้มีอนุญาโตตุลาการพิจารณาข้อพิพาทระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 มีนาคม 2548--จบ--