คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่า ร่างพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... เป็นร่างพระราชบัญญัติที่มีหลักการสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มีความสำคัญและจำเป็นเร่งด่วนในด้านนโยบายเศรษฐกิจในส่วนของการพัฒนาอุตสาหกรรม การส่งออกและการปรับปรุงระเบียบด้านธุรกิจการค้า นอกจากนี้ ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีหลักการบางประการที่เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้สิทธิประโยชน์เป็นพิเศษแก่ผู้ประกอบกิจการเพื่อส่งออกที่อยู่ในเขตอุตสาหกรรมส่งออกซึ่งไม่สอดคล้องกับพันธกรณีว่าด้วยความตกลงขององค์การการค้าโลก (WTO) ในเรื่องความตกลงว่าด้วยการอุดหนุนและมาตรการตอบโต้ในส่วนที่เข้าข่ายเป็นการอุดหนุนที่ต้องห้าม เนื่องจากการให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบกิจการดังกล่าวถือเป็นการอุดหนุนที่ต้องห้าม ทั้งนี้ คณะกรรมการว่าด้วยการอุดหนุนและตอบโต้การอุดหนุนขององค์การการค้าโลก (SCM Committee) ได้มีมติให้ประเทศไทยต้องยกเลิกการอุดหนุนเพื่อส่งออกภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2548 และจะต้องดำเนินการเพื่อให้มีการประกาศใช้บังคับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ให้ทันภายในระยะเวลาดังกล่าวด้วย ซึ่งขณะนี้ได้พ้นระยะไปพอสมควรแล้ว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งรัดดำเนินการให้มีการประกาศบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัตินี้โดยเร็วต่อไป
โดยร่างพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 ดังต่อไปนี้
1. แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “เขตอุตสาหกรรมส่งออก” เป็นคำว่า “เขตประกอบการเสรี” เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีว่าด้วยความตกลงขององค์การการค้าโลกในเรื่องความตกลงว่าด้วยการอุดหนุนและมาตรการตอบโต้ และแก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามอื่นที่เกี่ยวข้อง
2. แก้ไขเพิ่มเติมให้การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมประเภทเขตประกอบการเสรีเป็นไปโดยสะดวก โดยออกเป็นประกาศคณะกรรมการ
3. แก้ไขเพิ่มเติมให้การจัดสรรที่ดินในเขตพื้นที่ที่เป็นนิคมอุตสาหกรรมต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าการหรือผู้ซึ่งผู้ว่าการมอบหมาย และแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติอื่นที่เกี่ยวข้อง
4. กำหนดให้ของที่นำเข้าไปในเขตประกอบการเสรีได้รับสิทธิประโยชน์ทางอากรเช่นเดียวกับของที่นำเข้าไปในเขตปลอดอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร
5. กำหนดให้การนำของหรือวัตถุดิบเข้าไปในเขตประกอบการเสรีได้รับความสะดวกมากขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 ธันวาคม 2549--จบ--
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่า ร่างพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... เป็นร่างพระราชบัญญัติที่มีหลักการสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มีความสำคัญและจำเป็นเร่งด่วนในด้านนโยบายเศรษฐกิจในส่วนของการพัฒนาอุตสาหกรรม การส่งออกและการปรับปรุงระเบียบด้านธุรกิจการค้า นอกจากนี้ ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีหลักการบางประการที่เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้สิทธิประโยชน์เป็นพิเศษแก่ผู้ประกอบกิจการเพื่อส่งออกที่อยู่ในเขตอุตสาหกรรมส่งออกซึ่งไม่สอดคล้องกับพันธกรณีว่าด้วยความตกลงขององค์การการค้าโลก (WTO) ในเรื่องความตกลงว่าด้วยการอุดหนุนและมาตรการตอบโต้ในส่วนที่เข้าข่ายเป็นการอุดหนุนที่ต้องห้าม เนื่องจากการให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบกิจการดังกล่าวถือเป็นการอุดหนุนที่ต้องห้าม ทั้งนี้ คณะกรรมการว่าด้วยการอุดหนุนและตอบโต้การอุดหนุนขององค์การการค้าโลก (SCM Committee) ได้มีมติให้ประเทศไทยต้องยกเลิกการอุดหนุนเพื่อส่งออกภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2548 และจะต้องดำเนินการเพื่อให้มีการประกาศใช้บังคับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ให้ทันภายในระยะเวลาดังกล่าวด้วย ซึ่งขณะนี้ได้พ้นระยะไปพอสมควรแล้ว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งรัดดำเนินการให้มีการประกาศบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัตินี้โดยเร็วต่อไป
โดยร่างพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 ดังต่อไปนี้
1. แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “เขตอุตสาหกรรมส่งออก” เป็นคำว่า “เขตประกอบการเสรี” เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีว่าด้วยความตกลงขององค์การการค้าโลกในเรื่องความตกลงว่าด้วยการอุดหนุนและมาตรการตอบโต้ และแก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามอื่นที่เกี่ยวข้อง
2. แก้ไขเพิ่มเติมให้การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมประเภทเขตประกอบการเสรีเป็นไปโดยสะดวก โดยออกเป็นประกาศคณะกรรมการ
3. แก้ไขเพิ่มเติมให้การจัดสรรที่ดินในเขตพื้นที่ที่เป็นนิคมอุตสาหกรรมต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าการหรือผู้ซึ่งผู้ว่าการมอบหมาย และแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติอื่นที่เกี่ยวข้อง
4. กำหนดให้ของที่นำเข้าไปในเขตประกอบการเสรีได้รับสิทธิประโยชน์ทางอากรเช่นเดียวกับของที่นำเข้าไปในเขตปลอดอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร
5. กำหนดให้การนำของหรือวัตถุดิบเข้าไปในเขตประกอบการเสรีได้รับความสะดวกมากขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 ธันวาคม 2549--จบ--