คณะรัฐมนตรีพิจารณาการกู้เงินของธนาคารอาคารสงเคราะห์ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์กู้เงินในประเทศ จำนวน 38,138 ล้านบาท
2. ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้อนุมัติการกู้เงินในส่วนที่เป็นการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (Securitization) จำนวน 10,000 ล้านบาท หากในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ธนาคารอาคารสงเคราะห์สามารถเสนอแผนที่จะดำเนินการได้อย่างเหมาะสม
3. อนุมัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินและการค้ำประกันใน แต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีเป้าหมายว่าจะปล่อยสินเชื่อ จำนวน 106,500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีแหล่งเงินทุนมาจากการรับชำระเงินกู้ การกู้เงิน การระดมเงินฝาก และมีแผนที่จะทำ Securitization โดยจะเสนอขายให้กับนักลงทุนทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งการระดมเงินทุนเพื่อการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวที่ผ่านมาแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่ของธนาคารอาคารสงเคราะห์เป็นแหล่งเงินทุนระยะสั้น ในขณะที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ปล่อยสินเชื่อระยะยาว จึงทำให้เกิดการไม่สอดคล้องกันระหว่างแหล่งที่มาของเงินและแหล่งที่ใช้ไปของเงิน (Mismatch Fund) ดังนั้นเพื่อให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์สามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามแผนการดำเนินงานและสามารถบริหารสินทรัพย์และหนี้สินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเห็นควรให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์กู้เงินจากแหล่งเงินกู้ระยะยาว ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะการให้สินเชื่อระยะยาว จึงเห็นควรให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์กู้เงินในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและ อื่น ๆ จำนวนทั้งสิ้น 38,138 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินกู้เพื่อชำระหนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย จำนวน 7,800 ล้านบาท เงินกู้เพื่อชำระหนี้เงินกู้ต่างประเทศ จำนวน 8,338 ล้านบาท เงินกู้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 22,000 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 ธันวาคม 2549--จบ--
1. อนุมัติให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์กู้เงินในประเทศ จำนวน 38,138 ล้านบาท
2. ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้อนุมัติการกู้เงินในส่วนที่เป็นการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (Securitization) จำนวน 10,000 ล้านบาท หากในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ธนาคารอาคารสงเคราะห์สามารถเสนอแผนที่จะดำเนินการได้อย่างเหมาะสม
3. อนุมัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินและการค้ำประกันใน แต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีเป้าหมายว่าจะปล่อยสินเชื่อ จำนวน 106,500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีแหล่งเงินทุนมาจากการรับชำระเงินกู้ การกู้เงิน การระดมเงินฝาก และมีแผนที่จะทำ Securitization โดยจะเสนอขายให้กับนักลงทุนทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งการระดมเงินทุนเพื่อการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวที่ผ่านมาแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่ของธนาคารอาคารสงเคราะห์เป็นแหล่งเงินทุนระยะสั้น ในขณะที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ปล่อยสินเชื่อระยะยาว จึงทำให้เกิดการไม่สอดคล้องกันระหว่างแหล่งที่มาของเงินและแหล่งที่ใช้ไปของเงิน (Mismatch Fund) ดังนั้นเพื่อให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์สามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามแผนการดำเนินงานและสามารถบริหารสินทรัพย์และหนี้สินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเห็นควรให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์กู้เงินจากแหล่งเงินกู้ระยะยาว ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะการให้สินเชื่อระยะยาว จึงเห็นควรให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์กู้เงินในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและ อื่น ๆ จำนวนทั้งสิ้น 38,138 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินกู้เพื่อชำระหนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย จำนวน 7,800 ล้านบาท เงินกู้เพื่อชำระหนี้เงินกู้ต่างประเทศ จำนวน 8,338 ล้านบาท เงินกู้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 22,000 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 ธันวาคม 2549--จบ--