คณะรัฐมนตรีรับทราบสรุปสถานการณ์ภัยแล้ง และการให้ความช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 23 มีนาคม 2552) ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น และการให้ความช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 23 มีนาคม 2552) จึงขอ สรุปสถานการณ์ภัยแล้งดังกล่าว รวมทั้งผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน นำเรียนคณะรัฐมนตรีเพื่อโปรดทราบเพิ่มเติม ดังนี้
1. สรุปสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 — 23 มีนาคม 2552)
1.1 พื้นที่ประสบภัย 49 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร ตาก น่าน พิจิตร พิษณุโลก แพร่ พะเยา ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ เชียงราย เชียงใหม่ นครสวรรค์ อุทัยธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย ศรีสะเกษ อุดรธานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ชัยนาท ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด นครนายก ระยอง สระแก้ว ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช สตูล และสุราษฎร์ธานี รวม 462 อำเภอ 2,291 ตำบล 17,526 หมู่บ้าน (คิดเป็น 30.65 % ของหมู่บ้านทั้งหมดใน 49 จังหวัดที่ประสบภัยแล้ง และคิดเป็น 23.39% ของหมู่บ้านทั้งประเทศ 74,944 หมู่ บ้าน) แยกเป็น
ที่ พื้นที่ประสบภัย ราษฎรประสบภัย ภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน รายชื่อจังหวัด คน ครัวเรือน 1 เหนือ 15 137 695 5,433 กำแพงเพชร ตาก น่าน พิจิตร 1,678,855 529,126พิษณุโลก แพร่ พะเยา ลำปาง
ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ เชียงราย
เชียงใหม่ นครสวรรค์ อุทัยธานี
2 ตะวันออก 17 234 1,136 9,721 กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม 3,688,741 961,158 เฉียงเหนือ นครราชสีมา บุรีรัมย์มหาสารคามยโสธร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร
สุรินทร์ หนองคาย ศรีสะเกษ
อุดรธานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ
3 กลาง 5 33 238 1,073 ชัยนาท ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี 507,078 129,170ราชบุรี สุพรรณบุรี
4 ตะวันออก 7 38 138 861 จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด 327,772 95,380นครนายก ระยอง สระแก้ว
5 ใต้ 5 20 84 438 ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช 117,200 38,768สตูล สุราษฎร์ธานี
รวมทั้งประเทศ 49 462 2,291 17,526 6,319,646 1,753,602ตารางข้อมูลหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งเปรียบเทียบกับจำนวนพื้นที่ประสบภัยแล้งใน 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่ ภาค จำนวนหมู่บ้าน 2 มี.ค. 2552 9 มี.ค. 2552 16 มี.ค. 2552 23 มี.ค. 2552 ทั้งหมด หมู่ + เพิ่ม หมู่ + เพิ่ม หมู่ + เพิ่ม หมู่ + เพิ่ม บ้าน - ลด บ้าน - ลด บ้าน - ลด บ้าน - ลด 1 เหนือ 16,590 3,174 0 3,727 553 4,470 743 5,433 963 2 ตะวันออก 33,099 2,538 1,666 4,015 1,477 6,322 2,307 9,721 3,399 เฉียงเหนือ 3 กลาง 11,736 306 0 483 177 483 0 1,073 590 4 ตะวันออก 4,859 1,067 0 730 -337 838 108 861 23 5 ใต้ 8,660 334 226 277 -57 404 127 438 34 รวม 74,944 7,419 1,892 9,232 1,813 12,517 3,285 17,526 5,009ตารางเปรียบเทียบข้อมูลหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งปี 2552 กับปี 2551 ในห้วงเวลาเดียวกัน
ที่ ภาค จำนวนหมู่บ้าน ข้อมูลปี 2552 ข้อมูลปี 2551 เปรียบเทียบข้อมูลภัย ทั้งประเทศ (ณ วันที่ 23 มีนาคม 2552) (ณ วันที่ 23 มีนาคม 2551) แล้ง ปี 2552 กับปี 2551 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ จำนวน คิดเป็นร้อย ที่ประสบ (ของหมู่บ้านทั้ง ที่ประสบ (ของหมู่บ้านทั้ง หมู่บ้าน ละของหมู่ ภัยแล้ง ประเทศ) ภัยแล้ง ทั้งประเทศ) + เพิ่ม/ บ้านที่ประ- ลด สบภัยแล้ง
เปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 2551 มีจังหวัดที่ประสบภัยแล้ง รวม 54 จังหวัด 431 อำเภอ 2,772 ตำบล 19,806 หมู่บ้าน (หมู่บ้านที่ประสบภัยแล้ง 19,806 หมู่บ้าน คิดเป็น 33.52 % ของหมู่บ้านทั้งหมดใน 54 จังหวัดที่ประสบภัยแล้ง และคิดเป็น 26.43 % ของ หมู่บ้านทั้งหมดของประเทศ) ปี 2552 น้อยกว่าปี 2551 จำนวน 5 จังหวัด 2,280 หมู่บ้าน
1.2 ความเสียหาย
- ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 6,319,646 คน 1,753,602 ครัวเรือน
- พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย รวม 781,443 ไร่ แยกเป็น พืชไร่ 375,250 ไร่ นาข้าว 242,526 ไร่ พืชสวน
1.3 การให้ความช่วยเหลือ
1) ใช้รถบรรทุกน้ำ 1,467 คัน แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคแล้ว จำนวน 282,905,730 ลิตร
2) ซ่อมสร้างทำนบ/ฝายชั่วคราวปิดกั้นลำน้ำ 3,880 แห่ง
3) ขุดลอกแหล่งน้ำ 1,308 แห่ง
4) งบประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้ว 354,459,391 บาท แยกเป็น
- งบทดรองราชการของจังหวัด (50 ล้านบาท) 163,284,523 บาท
- งบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 144,541,581 บาท
- งบอื่น ๆ 46,633,287 บาท
5) กรมชลประทาน ได้จัดส่งเครื่องสูบน้ำ 773 เครื่อง ไปให้ความช่วยเหลือ โดยแยกเป็นรายภาค ดังนี้ ภาคเหนือ 212 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 310 เครื่อง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคกลาง 207 เครื่อง และภาคใต้ 44 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ จำนวน 295 คัน
6) การประปาส่วนภูมิภาค สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค 228 แห่ง สนับสนุนน้ำฟรีให้แก่รถบรรทุกน้ำของทางราชการที่นำ ไปช่วยเหลือประชาชน โดยหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนจะต้องมีหนังสือแจ้งพร้อมระบุหมายเลขทะเบียนรถบรรทุกน้ำให้แก่สำนักงานการประปาด้วย ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม 2552 ได้สนับสนุนจ่ายน้ำช่วยเหลือภัยแล้งไปแล้ว จำนวน 137 ล้านลิตร เป็นจำนวนเงิน 2,193,708 บาท
2. พายุฤดูร้อน เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2552 ได้เกิดพายุฤดูร้อนลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ ทำให้ได้รับความเสียหายใน 2 จังหวัด 3 อำเภอ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 655 ครัวเรือน ดังนี้
2.1 จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2552 เวลาประมาณ 15.00 น. ได้เกิดเหตุพายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรง ในพื้นที่อำเภอ โคกสำโรง จำนวน 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลสะแกราบ (หมู่ที่ 1,2,5,8,9,11,13) ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 80 ครัวเรือน และตำบลดงมะรุม (หมู่ที่ 1) ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 3 ครัวเรือน
2.2 จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2552 เวลาประมาณ 20.00 น. ได้เกิดเหตุพายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรง ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสารภี 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลดอนแก้ว ตำบลขัวมุง ตำบลหนองแฝก และตำบลท่ากว้าง (ความเสียหายอยู่ระหว่างสำรวจ) และ อำเภอหางดง 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลน้ำแพร่ (หมู่ที่ 1,2,3,9) ตำบลสบแม่ข่า (หมู่ที่ 1,2,3) ตำบลบ้านแหวน (หมู่ที่ 3,5,9,10) ตำบลหาง ดง (หมู่ที่ 1-6,8,9) และตำบลสันผักหวาน (หมู่ที่ 2) ราษฎรเดือดร้อน 572 ครัวเรือน 1,638 คน
อนึ่ง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2552 เวลาประมาณ 16.10 น. ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากบริเวณน้ำตกไพรวัลย์ ตำบลคลองเฉลิม อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง มีนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง จำนวน 11 คน ติดอยู่ด้านบนของน้ำตกไพรวัลย์ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุงได้ประสานกับกองพันทหารช่างที่ 401 โรงพยาบาลกงหรา อบต.คลองเฉลิม นำหน่วยกู้ชีพกู้ภัย และสมาชิก อปพร.คลองเฉลิม เข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวดังกล่าว มายังบริเวณพื้นที่ปลอดภัย โดยไม่มีผู้เสียชีวิตและผู้รับบาด เจ็บ
3. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 22-28 มีนาคม 2552
3.1 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศว่า ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้จะพัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุม ประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองได้ในบางพื้นที่ในตอนบ่ายและค่ำ ส่วนในช่วงวันที่ 24 - 28 มีนาคม 2552 บริเวณความ กดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ประกอบกับ จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้าสู่ภาค เหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
3.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้ง เตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์เมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 มีนาคม 2552 --จบ--