คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานผลการดำเนินงานโครงการศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (GCC) ประจำปีงบประมาณ 2549 ของไตรมาสสุดท้าย สรุปได้ดังนี้
1. สถิติการให้บริการ
แสดงการเปรียบเทียบจำนวนการใช้บริการ มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ จำนวนการเรียกเข้าปีงบประมาณ 2549 มีจำนวนที่มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และค่าเฉลี่ยจำนวนการเรียกเข้าของปีงบประมาณ 2549 ที่มีค่าเฉลี่ยต่อเดือน 393,643 มากกว่าค่าเฉลี่ยของปีงบประมาณ 2548 ที่มีค่าเฉลี่ยต่อเดือน 236,375 โดยค่าเฉลี่ยต่อเดือนมากกว่าคิดเป็นอัตราร้อยละ 66.53 โดยจำนวนเรียกเข้าปีงบประมาณ 2549 มีจำนวนเรียกเข้าอยู่ในช่วงระหว่าง 300,000 ถึง 540,000 ทั้งนี้ จำนวนการเรียกเข้าใช้บริการจะเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่งมอบข้อมูลที่มีความทันสมัยและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ รวมถึงความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ GCC 1111 ที่เป็นศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ
2. ข้อมูลและหน่วยงานที่ประชาชนสนใจสอบถาม
1) ข้อมูลที่ประชาชนสนใจสอบถามมาก ได้แก่ การแจ้งย้ายเข้า-ออกจากทะเบียนบ้าน ผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล การทำบัตรประจำตัวประชาชน กรณีสูญหายและกรณีหมดอายุ การทำหนังสือเดินทาง ผลการออกรางวัลสลากออมทรัพย์ทวีสิน การทำบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) การพยากรณ์อากาศ และเหตุการณ์/โครงการสำคัญ ๆ ของภาครัฐ เป็นต้น
2) หน่วยงานที่ประชาชนสนใจใช้บริการมากที่สุด 5 ลำดับแรก กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
3. ความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนบูรณาการ GCC ประจำปีงบประมาณ 2549
1) การพัฒนาข้อมูลสารสนเทศเพื่อรองรับการให้บริการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้ดำเนินการปรับปรุงพัฒนาระบบงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ประชาชน
2) โครงการพัฒนาการให้บริการ GCC (Job Matching) เป็นโครงการเพื่อสนับสนุนการจัดหางาน ขณะนี้ได้ดำเนินการพัฒนาระบบและนำข้อมูลเข้าระบบฐานข้อมูล GCC เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บริการกับกลุ่มเป้าหมายคือนักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษาและผู้ว่างงาน ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบและปรับปรุงระบบ รวมถึงการฝึกอบรมการใช้งานให้พนักงานรับสาย คาดว่าจะเปิดทดลองใช้ได้ในเดือนตุลาคม 2549
3) การพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ ๆ อยู่ระหว่างการเตรียมให้บริการ ได้แก่ บริการ Short Message Service (SMS) และบริการข้อมูลเส้นทางคมนาคมโดยใช้ระบบ Geographic Information System (GIS) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในปีงบประมาณ 2550
4) ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ที่ดำเนินการสำรวจโดย บจม.ทีโอที ซึ่งสรุปผลการสำรวจ ได้ดังนี้
(ก) ความพึงพอใจจากผลสำรวจ พบว่า โทรติดง่าย ไม่ต้องรอสายนาน พนักงานรับสายให้บริการ และคำแนะนำดี
(ข) ความไม่พึงพอใจ จากผลสำรวจ พบว่า มีการประชาสัมพันธ์น้อยไป มีข้อความอัตโนมัติมากเกินไป ทำให้ไม่สามารถจำข้อความได้ไม่ครบถ้วน
(ค) ความคาดหวังต่อการบริการ จากผลสำรวจ พบว่า ประชาสัมพันธ์เรื่องกิจกรรมภาครัฐเป็นข้อมูลอัตโนมัติ มีเมนูหรือข้อความอัตโนมัติให้น้อยลง สามารถสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวกับรัฐได้ทุกเรื่อง ข้อมูลมีความถูกต้องแม่นยำ
4. บทวิเคราะห์
1) จากการสังเกตพฤติกรรมของประชาชนที่ใช้บริการกับ GCC ในไตรมาสที่สุดท้าย พบว่า การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อที่เข้าถึงประชาชนได้เป็นจำนวนมากอันได้แก่ สื่อโทรทัศน์และสื่อวิทยุ ทำให้ประชาชนรับรู้การให้บริการของ GCC และสนใจใช้บริการเพิ่มขึ้น
2) เมื่อพิจารณาสื่อที่ใช้โฆษณาประชาสัมพันธ์แล้วพบว่า การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ สามารถเข้าถึงประชาชนได้มากกว่าการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิทยุ โดยเมื่อเปรียบเทียบปริมาณการใช้บริการในช่วงเวลาที่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์พบว่า ในช่วงเดือนสิงหาคมปริมาณการใช้บริการเมื่อมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่าน สื่อโทรทัศน์ ทำให้ปริมาณการใช้บริการเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 77.43 ในขณะที่ช่วงเดือนกันยายนปริมาณการใช้บริการเมื่อมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิทยุทำให้ปริมาณการใช้บริการเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 19.02
3) จำนวนการใช้บริการ GCC จะเพิ่มขึ้นได้อีกจากเหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เช่น การปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปการปกครอง การประกาศวันหยุดราชการของ คปค. เป็นต้น
4) เมื่อพิจารณาการรับแจ้งผลการดำเนินการเรื่องร้องเรียนจากยอดทั้งหมดตั้งแต่ GCC เปิดให้บริการ อัตราร้อยละของการแจ้งผลการดำเนินการเรื่องร้องเรียนทั้งหมดคิดเป็นอัตราร้อยละ 6.75 ซึ่งเป็นอัตราที่ค่อนข้างน้อย ดังนั้น การตอบข้อร้องเรียนของประชาชนในเบื้องต้นเพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงสถานภาพของเรื่องจะช่วยสร้างความ พึงพอใจต่อการใช้บริการของภาครัฐ และจะช่วยส่งผลให้ปริมาณการใช้บริการในเรื่องร้องเรียนกับ GCC เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การดำเนินการโครงการ GCC บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด จึงขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐดำเนินการ ดังนี้
1. ประชาสัมพันธ์โครงการศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐฯ เพื่อให้เป็นช่องทางหนึ่งสำหรับประชาชนสามารถเข้าถึงบริการข้อมูล ข่าวสาร และรับเรื่องราวร้องทุกข์ของภาครัฐ
2. แจ้งข้อมูลที่ทันสมัย และผลการดำเนินการเรื่องร้องเรียนที่ผ่านศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐฯ ของทุกหน่วยงานให้ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐฯ เพื่อใช้ในการพัฒนาปรับปรุงฐานข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และสนองตอบความต้องการใช้บริการของประชาชนได้มากยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 พฤศจิกายน 2549--จบ--
1. สถิติการให้บริการ
แสดงการเปรียบเทียบจำนวนการใช้บริการ มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ จำนวนการเรียกเข้าปีงบประมาณ 2549 มีจำนวนที่มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และค่าเฉลี่ยจำนวนการเรียกเข้าของปีงบประมาณ 2549 ที่มีค่าเฉลี่ยต่อเดือน 393,643 มากกว่าค่าเฉลี่ยของปีงบประมาณ 2548 ที่มีค่าเฉลี่ยต่อเดือน 236,375 โดยค่าเฉลี่ยต่อเดือนมากกว่าคิดเป็นอัตราร้อยละ 66.53 โดยจำนวนเรียกเข้าปีงบประมาณ 2549 มีจำนวนเรียกเข้าอยู่ในช่วงระหว่าง 300,000 ถึง 540,000 ทั้งนี้ จำนวนการเรียกเข้าใช้บริการจะเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่งมอบข้อมูลที่มีความทันสมัยและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ รวมถึงความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ GCC 1111 ที่เป็นศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ
2. ข้อมูลและหน่วยงานที่ประชาชนสนใจสอบถาม
1) ข้อมูลที่ประชาชนสนใจสอบถามมาก ได้แก่ การแจ้งย้ายเข้า-ออกจากทะเบียนบ้าน ผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล การทำบัตรประจำตัวประชาชน กรณีสูญหายและกรณีหมดอายุ การทำหนังสือเดินทาง ผลการออกรางวัลสลากออมทรัพย์ทวีสิน การทำบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) การพยากรณ์อากาศ และเหตุการณ์/โครงการสำคัญ ๆ ของภาครัฐ เป็นต้น
2) หน่วยงานที่ประชาชนสนใจใช้บริการมากที่สุด 5 ลำดับแรก กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
3. ความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนบูรณาการ GCC ประจำปีงบประมาณ 2549
1) การพัฒนาข้อมูลสารสนเทศเพื่อรองรับการให้บริการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้ดำเนินการปรับปรุงพัฒนาระบบงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ประชาชน
2) โครงการพัฒนาการให้บริการ GCC (Job Matching) เป็นโครงการเพื่อสนับสนุนการจัดหางาน ขณะนี้ได้ดำเนินการพัฒนาระบบและนำข้อมูลเข้าระบบฐานข้อมูล GCC เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บริการกับกลุ่มเป้าหมายคือนักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษาและผู้ว่างงาน ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบและปรับปรุงระบบ รวมถึงการฝึกอบรมการใช้งานให้พนักงานรับสาย คาดว่าจะเปิดทดลองใช้ได้ในเดือนตุลาคม 2549
3) การพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ ๆ อยู่ระหว่างการเตรียมให้บริการ ได้แก่ บริการ Short Message Service (SMS) และบริการข้อมูลเส้นทางคมนาคมโดยใช้ระบบ Geographic Information System (GIS) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในปีงบประมาณ 2550
4) ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ที่ดำเนินการสำรวจโดย บจม.ทีโอที ซึ่งสรุปผลการสำรวจ ได้ดังนี้
(ก) ความพึงพอใจจากผลสำรวจ พบว่า โทรติดง่าย ไม่ต้องรอสายนาน พนักงานรับสายให้บริการ และคำแนะนำดี
(ข) ความไม่พึงพอใจ จากผลสำรวจ พบว่า มีการประชาสัมพันธ์น้อยไป มีข้อความอัตโนมัติมากเกินไป ทำให้ไม่สามารถจำข้อความได้ไม่ครบถ้วน
(ค) ความคาดหวังต่อการบริการ จากผลสำรวจ พบว่า ประชาสัมพันธ์เรื่องกิจกรรมภาครัฐเป็นข้อมูลอัตโนมัติ มีเมนูหรือข้อความอัตโนมัติให้น้อยลง สามารถสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวกับรัฐได้ทุกเรื่อง ข้อมูลมีความถูกต้องแม่นยำ
4. บทวิเคราะห์
1) จากการสังเกตพฤติกรรมของประชาชนที่ใช้บริการกับ GCC ในไตรมาสที่สุดท้าย พบว่า การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อที่เข้าถึงประชาชนได้เป็นจำนวนมากอันได้แก่ สื่อโทรทัศน์และสื่อวิทยุ ทำให้ประชาชนรับรู้การให้บริการของ GCC และสนใจใช้บริการเพิ่มขึ้น
2) เมื่อพิจารณาสื่อที่ใช้โฆษณาประชาสัมพันธ์แล้วพบว่า การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ สามารถเข้าถึงประชาชนได้มากกว่าการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิทยุ โดยเมื่อเปรียบเทียบปริมาณการใช้บริการในช่วงเวลาที่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์พบว่า ในช่วงเดือนสิงหาคมปริมาณการใช้บริการเมื่อมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่าน สื่อโทรทัศน์ ทำให้ปริมาณการใช้บริการเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 77.43 ในขณะที่ช่วงเดือนกันยายนปริมาณการใช้บริการเมื่อมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิทยุทำให้ปริมาณการใช้บริการเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 19.02
3) จำนวนการใช้บริการ GCC จะเพิ่มขึ้นได้อีกจากเหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เช่น การปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปการปกครอง การประกาศวันหยุดราชการของ คปค. เป็นต้น
4) เมื่อพิจารณาการรับแจ้งผลการดำเนินการเรื่องร้องเรียนจากยอดทั้งหมดตั้งแต่ GCC เปิดให้บริการ อัตราร้อยละของการแจ้งผลการดำเนินการเรื่องร้องเรียนทั้งหมดคิดเป็นอัตราร้อยละ 6.75 ซึ่งเป็นอัตราที่ค่อนข้างน้อย ดังนั้น การตอบข้อร้องเรียนของประชาชนในเบื้องต้นเพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงสถานภาพของเรื่องจะช่วยสร้างความ พึงพอใจต่อการใช้บริการของภาครัฐ และจะช่วยส่งผลให้ปริมาณการใช้บริการในเรื่องร้องเรียนกับ GCC เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การดำเนินการโครงการ GCC บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด จึงขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐดำเนินการ ดังนี้
1. ประชาสัมพันธ์โครงการศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐฯ เพื่อให้เป็นช่องทางหนึ่งสำหรับประชาชนสามารถเข้าถึงบริการข้อมูล ข่าวสาร และรับเรื่องราวร้องทุกข์ของภาครัฐ
2. แจ้งข้อมูลที่ทันสมัย และผลการดำเนินการเรื่องร้องเรียนที่ผ่านศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐฯ ของทุกหน่วยงานให้ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐฯ เพื่อใช้ในการพัฒนาปรับปรุงฐานข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และสนองตอบความต้องการใช้บริการของประชาชนได้มากยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 พฤศจิกายน 2549--จบ--