คณะรัฐมนตรีอนุมัติการใช้เงินกู้ SAL เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติให้ใช้เงินกู้ SAL วงเงินรวม 240 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการด้านการบริหารจัดการ จำนวน 4 โครงการ วงเงิน 190 ล้านบาท และอนุมัติให้ใช้เงินกู้ SAL สำหรับกรอบวงเงินสำรองในวงเงิน 50 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการบริหารจัดการโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติการใช้จ่ายเงินสำรองดังกล่าวและรายงานการจัดสรรเงินให้คณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป
ข้อเท็จจริง
กระทรวงการคลังรายงานว่า เพื่อให้การดำเนินโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุวัตถุประสงค์ เกิดผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินโครงการตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้ คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ได้พิจารณาโครงการที่จะช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 จำนวน 4 โครงการ วงเงินรวม 190 ล้านบาท ดังนี้
1. โครงการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อสนับสนุนการจัดทำฐานข้อมูลโครงการ/ระบบ E-Budgeting ของสำนักงบประมาณ วงเงิน 30 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและปรับปรุงระบบ E-Budgeting ของสำนักงบประมาณเพื่อรองรับการจัดทำระบบข้อมูลโครงการของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 และมีขอบเขตการดำเนินงาน โดยจ้างที่ปรึกษาในการพัฒนาและปรับปรุงระบบ e-budget ของสำนักงบประมาณ เพื่อให้ส่วนราชการและรัฐวิสากิจสามารถรายงานข้อมูลโครงการย่อยได้ในระดับพื้นที่ และวงเงินลงทุนที่ต้องการผ่านระบบ internet /การปรับปรุงระบบเครือข่ายและระบบจัดเก็บข้อมูล เพื่อรองรับการบริหารจัดการข้อมูลโครงการที่เพิ่มขึ้น
2. โครงการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อจัดทำระบบบัญชีและการบริหารเงินสด ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ วงเงิน 20 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาระบบบัญชีสำหรับรองรับการกู้เงินและการบันทึกรายการ กู้เงินภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ที่นำเข้าฝากไว้ในระบบบัญชีเงินคงคลัง (บัญชีที่ 1) และ 2) ระบบบริหารเงินสด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการบริหารเงิน และการรายงานสถานะเงินกู้ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ในแต่ ช่วงเวลา โดยมีขอบเขตการดำเนินงาน โดยจ้างที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาระบบบัญชีและระบบการบริหารเงินสดสำหรับรองรับ การกู้เงินและการบริหารเงินสด รวมทั้ง การรายงานสถานะเงินกู้โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 รวมทั้งการให้การฝึกอบรมและให้คำแนะนำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการระบบดังกล่าว
3. โครงการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อสนับสนุนการบริหารโครงการและค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการ ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วงเงิน 40 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการบริหารจัดการโครงการ และการติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 และมีขอบเขตการดำเนินงาน โดยจ้างที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาระบบการบริหารจัดการและระบบการติดตามความก้าวหน้า ในการดำเนินการ รวมทั้งการจัดทำคู่มือในการดำเนินโครงการ และปฏิบัติงานร่วมกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะในการสนับสนุนการบริหารจัดการโครงการของหน่วยงานเจ้าของโครงการ ตั้งแต่การสำรวจ และออกแบบการจัดทำเอกสารประกวดราคา การดำเนินการประกวดราคา การเร่งรัดการดำเนินการเบิกจ่าย รวมทั้งการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
4. โครงการจัดทำระบบการกำกับติดตามโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ของสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง วงเงิน 100 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อกำกับ ดูแล เร่งรัด ติดตามความก้าวหน้า และประเมินผลโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 และมีขอบเขตการดำเนินงาน ได้แก่ 1) ปรับปรุงระบบ GFMIS หลัก GFMIS-SOE และGFMIS-TR โดยการเชื่อมโยงข้อมูลการจัดสรรงบประมาณโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ของระบบ GFMIS หลัก GFMIS-SOE และGFMIS-TR กับระบบ e-Budgeting ของสำนักงบประมาณ และปรับปรุงระบบ GFMIS เพื่อการกำหนด แผนงาน งวดเงิน และงวดงานที่ต้องการติดตามในแต่ละโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 รวมทั้งเชื่อมโยงกับรหัสงบประมาณโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 รวมถึงแหล่งที่มาของเงิน (Source of Fund) และ 2) พัฒนาระบบการบริหารจัดการโครงการ (Project Management) ระบบ Business Intelligence และระบบ Web Application เพื่อรองรับการบริหารจัดการและการประมลผลข้อมูลโครงการ และข้อมูลการเบิกจ่ายเงิน เพื่อใช้ในการติดตามความก้าวหน้าและประเมินผลโครงการ รวมทั้งฝึกอบรม helpdesk support และการประชาสัมพันธ์
5. กรอบวงเงินสำรอง
เนื่องจากจำนวนโครงการและหน่วยงานดำเนินโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 มีปริมาณมาก จึงอาจเกิดปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการโครงการที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนในอนาคต ซึ่งจำเป็นต้องมีงบประมาณส่วนหนึ่งสำรองไว้ใช้จ่าย กระทรวงการคลังจึงเห็นควรกำหนดกรอบวงเงินสำรองไว้รองรับสถานการณ์ ซึ่งจะทำให้มีความคล่องตัวที่จะดำเนินการได้อย่างทันท่วงที โดยได้เสนอขอเป็นกรอบวงเงินจำนวน 50 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินงาน 3 ปี (2553-2555) โดยให้คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 เป็นผู้พิจารณาความเหมาะสมและวงเงินที่จะใช้จ่ายแหล่งเงินสำหรับบริหารจัดการโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2
กระทรวงการคลังได้พิจารณาถึงแหล่งเงินสำหรับนำมาใช้ในการสนับสนุนการบริหารจัดการโครงการ ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 แล้วเห็นว่า มีเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ (SAL: Structural Adjustment Loan) ที่ไม่มีภาระผูกพันคงเหลือวงเงิน 1,393.77 ล้านบาท โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณาการใช้จ่ายเงิน ดังนี้
1. อำนาจการอนุมัติใช้เงินกู้ SAL ในส่วนที่เหลือ
การขออนุมัติใช้เงินกู้ SAL คณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติเป็นคราวๆ ไป โดยจะพิจารณาจัดสรรให้แก่โครงการตามความจำเป็นตามวัตถุประสงค์
2. ความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การใช้เงินกู้ SAL
หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินกู้ SAL ในส่วนที่เหลือเดิมนั้น จะสามารถนำมาใช้ดำเนินโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งโครงการที่จะนำมาสนับสนุนการบริหารจัดการ โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 มีวัตถุประสงค์สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การใช้เงินกู้ SAL เดิมที่กำหนดไว้ ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี
3. กรอบในการใช้จ่ายเงิน
การนำเงินกู้ SAL มาใช้ในการบริหารจัดการโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 จะเสนอขอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติเป็นจำนวนรวม 240 ล้านบาท ตามนัยข้อ 1 ซึ่งคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 จะทำหน้าที่พิจารณากำกับ ดูแลการใช้จ่ายเงินแต่ละโครงการที่ได้รับจัดสรรเงินกู้ SAL
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 กรกฎาคม 2552 --จบ--