คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนมกราคม ปี 2549 ดังนี้
1. การส่งออก การส่งออกเดือนมกราคม 2549 มีมูลค่า 8,946 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 การส่งออกยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนธันวาคม 2548 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6) โดยเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นของสินค้าเกษตรกรรม/อุตสาหกรรมการเกษตร ร้อยละ 4.4 และ สินค้าอุตสาหกรรมร้อยละ 13.4
สินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมการเกษตร สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยางพารา มันสำปะหลัง และ สินค้าอาหาร (กุ้งแช่แข็งและแปรรูป อาหารกระป๋องและแปรรูป ผัก ผลไม้สด กระป๋องและแปรรูป ไก่แปรรูป) ที่ขยายตัวร้อยละ 24.7 , 48.3 และ 4.5 ตามลำดับ สินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ ข้าว ปริมาณและมูลค่าส่งออกลดลงร้อยละ 23.4 และ 18.9 ตามลำดับ เนื่องจากราคาข้าวในประเทศสูงและต้องแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งสำคัญคือเวียดนามและอินเดีย น้ำตาลปริมาณและมูลค่าส่งออกลดลงร้อยละ 72.6 และ 62.0 ตามลำดับ เนื่องจากผลผลิตในประเทศลดลง
สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่มขึ้นในอัตราสูง ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ อัญมณี ผลิตภัณฑ์ยาง และ ผลิตภัณฑ์เภสัช ขณะที่สินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ พลาสติก วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และ เครื่องใช้เดินทาง ซึ่งลดลงเล็กน้อยร้อยละ 3.2, 3.6, 4.8 และ 2.5 ตามลำดับ เนื่องจากประสบกับปัญหาหลายประการทั้งปัญหาภายในประเทศ ปัญหาการแข่งขันกับประเทศคู่แข่งและต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น
ตลาดส่งออกสำคัญ
การส่งออกไปตลาดต่าง ๆ ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งตลาดหลักและตลาดใหม่ร้อยละ 7.8 และ 22.8 ตามลำดับ
ตลาดใหม่ที่ขยายตัวในอัตราสูง ได้แก่ ยุโรปตะวันออก (ร้อยละ 70.2) จีน (ร้อยละ 44.5) ลาตินอเมริกา (ร้อยละ 34.9) ตะวันออกกลาง (ร้อยละ 28.1) อินโดจีนและพม่า (ร้อยละ 27.7) ออสเตรเลีย(ร้อยละ 27.3) เกาหลีใต้ (ร้อยละ 20.7) และ ฮ่องกง (ร้อยละ 20.6)
ตลาดหลักขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกันคือ อาเซียน(5) ร้อยละ 9.6 สหรัฐฯร้อยละ 8.4 สหภาพยุโรปร้อยละ 6.5 และญี่ปุ่นร้อยละ 6.2
2. การนำเข้า
การนำเข้าในเดือนมกราคม 2549 มีมูลค่า 9,388 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ซึ่งเป็นอัตราเพิ่มที่ต่ำสุดในรอบ 43 เดือน (ตั้งแต่ พ.ค.45)
สินค้าที่มีมูลค่าการนำเข้าสูง ในเดือนมกราคม 2549 ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง และสินค้าทุน โดยการนำเข้าเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 และ 10.5 ตามลำดับ ส่วนวัตถุดิบ/กึ่งสำเร็จรูป ลดลงร้อยละ 8.0 สินค้านำเข้าที่สำคัญมีดังนี้
- สินค้าเชื้อเพลิง นำเข้ามูลค่า 1,716 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 18.3 ของมูลค่านำเข้ารวมในเดือนมกราคม 2549 โดยเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบมูลค่า 1,451 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 (สัดส่วนร้อยละ 15.5 ของมูลค่านำเข้ารวม) และเป็นการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปมูลค่า 181 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 (สัดส่วนร้อยละ 1.9 ของมูลค่านำเข้ารวม)
จากการบริหารการนำเข้าน้ำมันดิบ ผู้นำเข้าวางแผนการนำเข้าปี 2549 ลดลงจากปี 2548 ร้อยละ 10 หรือไม่เกิน 0.765 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยในเดือนมกราคม 2549 นำเข้า 0.78 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงกว่าแผนนำเข้าเพียง 0.015 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือร้อยละ 1.9
- เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ นำเข้ามูลค่า 904 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 5.9 (สัดส่วนร้อยละ 9.6 ของมูลค่านำเข้ารวม)
- เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ นำเข้ามูลค่า 839 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.4 (สัดส่วนร้อยละ 8.9 ของมูลค่านำเข้ารวม)
- เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ นำเข้ามูลค่า 587 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 (สัดส่วนร้อยละ 6.2 ของมูลค่านำเข้ารวม)
- เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ นำเข้ามูลค่า 547 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 30.4 (สัดส่วนร้อยละ 5.8 ของมูลค่านำเข้ารวม)
- ทองคำ นำเข้ามูลค่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนเดียวของปีก่อนลดลง ร้อยละ 80.8 (สัดส่วนร้อยละ 0.6 ของมูลค่านำเข้ารวม)
- เครื่องบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นำเข้าเครื่องบินจำนวน 1 ลำ มูลค่า 131.47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
3. ดุลการค้า
ดุลการค้าในเดือนมกราคม 2549 ไทยขาดดุลการค้า 442.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนมกราคม 2548 การขาดดุลลดลงมากกว่าครึ่ง คือ ลดลงร้อยละ 66.7 (เดือน ม.ค.48 ขาดดุล 1,328.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
4. แนวโน้มการส่งออกและนำเข้าของปี 2549
แนวโน้มการส่งออกปี 2549 คาดว่าการส่งออกในปี 2549 จะยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2548 โดยคาดว่าจะสามารถส่งออกมีมูลค่าประมาณ 130,288 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ร้อยละ 17.5 ตามการขยายตัวของการค้าโลกและการดำเนินนโยบายการค้าเชิงรุกของรัฐบาล ด้านการส่งออกสินค้าเกษตร คาดว่าการส่งออกสินค้าเกษตรจะได้ประโยชน์จากการลดลงของผลผลิตเกษตรโลก ซึ่งคาดว่าจะลดลงร้อยละ 4-5 เนื่องจากปัญหาภัยธรรมชาติ โดยสินค้าเกษตรที่คาดว่าจะมีแนวโน้มการส่งออกที่ดี เช่น มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพด เป็นต้น
ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม คาดว่าการส่งออกสินค้าอิเลคทรอนิกส์และชิ้นส่วน จะเป็นสินค้าสำคัญในการขับเคลื่อนการส่งออกของไทย ตามภาวะการขยายตัวของอุตสาหกรรมสาขานี้ในตลาดโลก
แนวโน้มการนำเข้าปี 2549 จากการประชุมกับผู้นำเข้าและหน่วยงานของรัฐ รวม 7 กลุ่มสินค้า ในเบื้องต้นคาดการณ์สถานการณ์การนำเข้าในเดือนกุมภาพันธ์ และปี 2549 ดังนี้
- น้ำมันดิบ คาดว่าในช่วงต้นปี 2549 ราคานำมันดิบจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปตามการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนและประเทศอุตสาหกรรมหลัก โดยคาดว่า การนำเข้าน้ำมันดิบของไทย จะลดลงร้อยละ 10 จากปี 2548 เป็นนำเข้าไม่เกิน 765,000 บาร์เรลต่อวัน ตามแผนการนำเข้าที่ผู้นำเข้าแจ้งไว้
- เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ คาดว่าราคาเหล็กตลาดโลกปี 2549 มีแนวโน้มปรับลดลง เนื่องจากจีนมีการผลิตเหล็กเกินความต้องการ ส่วนการนำเข้าเหล็กของไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 คาดว่าอยูที 1.1 ล้านตัน ตามแผนการนำเข้าที่แจ้งไว้
- ทองคำ ผู้นำเข้าทองคำได้แจ้งแผนการนำเข้าในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ปริมาณ 12.41 ตัน
- คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ คาดว่าการนำเข้าจะขยายตัวตามความต้องการใช้ในภาคอุตสาหกรรมที่มีการผลิตเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2549 จะมีการนำเข้ามูลค่า 576.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.4 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
- เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ มีแนวโน้มนำเข้าเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองการขยายกำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรม คาดว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 จะมีการนำเข้ามูลค่า 968.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.04 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
- เคมีภัณฑ์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมต่อเนื่อง คาดว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 จะมีการนำเข้า 770 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
5. เป้าหมายการส่งออก นำเข้า และดุลการค้า ปี 2549
การส่งออก คาดว่าการส่งออกในปี 2549 จะยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2548 โดยจะสามารถส่งออกมีมูลค่าประมาณ 130.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ร้อยละ 17.5
การนำเข้าและดุลการค้า คาดว่าการนำเข้าปี 2549 จะมีมูลค่า 136.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ร้อยละ 15.2 ซึ่งจะส่งผลให้ดุลการค้าทั้งปีขาดดุลประมาณ 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลต่อการส่งออกไทยยังคงเป็นปัจจัยด้านราคาน้ำมัน การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และจีนที่อาจชะลอตัวลง และการระบาดของโรคไข้หวัดนก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549--จบ--
1. การส่งออก การส่งออกเดือนมกราคม 2549 มีมูลค่า 8,946 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 การส่งออกยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนธันวาคม 2548 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6) โดยเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นของสินค้าเกษตรกรรม/อุตสาหกรรมการเกษตร ร้อยละ 4.4 และ สินค้าอุตสาหกรรมร้อยละ 13.4
สินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมการเกษตร สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยางพารา มันสำปะหลัง และ สินค้าอาหาร (กุ้งแช่แข็งและแปรรูป อาหารกระป๋องและแปรรูป ผัก ผลไม้สด กระป๋องและแปรรูป ไก่แปรรูป) ที่ขยายตัวร้อยละ 24.7 , 48.3 และ 4.5 ตามลำดับ สินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ ข้าว ปริมาณและมูลค่าส่งออกลดลงร้อยละ 23.4 และ 18.9 ตามลำดับ เนื่องจากราคาข้าวในประเทศสูงและต้องแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งสำคัญคือเวียดนามและอินเดีย น้ำตาลปริมาณและมูลค่าส่งออกลดลงร้อยละ 72.6 และ 62.0 ตามลำดับ เนื่องจากผลผลิตในประเทศลดลง
สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่มขึ้นในอัตราสูง ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ อัญมณี ผลิตภัณฑ์ยาง และ ผลิตภัณฑ์เภสัช ขณะที่สินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ พลาสติก วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และ เครื่องใช้เดินทาง ซึ่งลดลงเล็กน้อยร้อยละ 3.2, 3.6, 4.8 และ 2.5 ตามลำดับ เนื่องจากประสบกับปัญหาหลายประการทั้งปัญหาภายในประเทศ ปัญหาการแข่งขันกับประเทศคู่แข่งและต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น
ตลาดส่งออกสำคัญ
การส่งออกไปตลาดต่าง ๆ ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งตลาดหลักและตลาดใหม่ร้อยละ 7.8 และ 22.8 ตามลำดับ
ตลาดใหม่ที่ขยายตัวในอัตราสูง ได้แก่ ยุโรปตะวันออก (ร้อยละ 70.2) จีน (ร้อยละ 44.5) ลาตินอเมริกา (ร้อยละ 34.9) ตะวันออกกลาง (ร้อยละ 28.1) อินโดจีนและพม่า (ร้อยละ 27.7) ออสเตรเลีย(ร้อยละ 27.3) เกาหลีใต้ (ร้อยละ 20.7) และ ฮ่องกง (ร้อยละ 20.6)
ตลาดหลักขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกันคือ อาเซียน(5) ร้อยละ 9.6 สหรัฐฯร้อยละ 8.4 สหภาพยุโรปร้อยละ 6.5 และญี่ปุ่นร้อยละ 6.2
2. การนำเข้า
การนำเข้าในเดือนมกราคม 2549 มีมูลค่า 9,388 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ซึ่งเป็นอัตราเพิ่มที่ต่ำสุดในรอบ 43 เดือน (ตั้งแต่ พ.ค.45)
สินค้าที่มีมูลค่าการนำเข้าสูง ในเดือนมกราคม 2549 ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง และสินค้าทุน โดยการนำเข้าเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 และ 10.5 ตามลำดับ ส่วนวัตถุดิบ/กึ่งสำเร็จรูป ลดลงร้อยละ 8.0 สินค้านำเข้าที่สำคัญมีดังนี้
- สินค้าเชื้อเพลิง นำเข้ามูลค่า 1,716 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 18.3 ของมูลค่านำเข้ารวมในเดือนมกราคม 2549 โดยเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบมูลค่า 1,451 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 (สัดส่วนร้อยละ 15.5 ของมูลค่านำเข้ารวม) และเป็นการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปมูลค่า 181 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 (สัดส่วนร้อยละ 1.9 ของมูลค่านำเข้ารวม)
จากการบริหารการนำเข้าน้ำมันดิบ ผู้นำเข้าวางแผนการนำเข้าปี 2549 ลดลงจากปี 2548 ร้อยละ 10 หรือไม่เกิน 0.765 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยในเดือนมกราคม 2549 นำเข้า 0.78 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงกว่าแผนนำเข้าเพียง 0.015 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือร้อยละ 1.9
- เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ นำเข้ามูลค่า 904 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 5.9 (สัดส่วนร้อยละ 9.6 ของมูลค่านำเข้ารวม)
- เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ นำเข้ามูลค่า 839 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.4 (สัดส่วนร้อยละ 8.9 ของมูลค่านำเข้ารวม)
- เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ นำเข้ามูลค่า 587 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 (สัดส่วนร้อยละ 6.2 ของมูลค่านำเข้ารวม)
- เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ นำเข้ามูลค่า 547 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 30.4 (สัดส่วนร้อยละ 5.8 ของมูลค่านำเข้ารวม)
- ทองคำ นำเข้ามูลค่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนเดียวของปีก่อนลดลง ร้อยละ 80.8 (สัดส่วนร้อยละ 0.6 ของมูลค่านำเข้ารวม)
- เครื่องบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นำเข้าเครื่องบินจำนวน 1 ลำ มูลค่า 131.47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
3. ดุลการค้า
ดุลการค้าในเดือนมกราคม 2549 ไทยขาดดุลการค้า 442.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนมกราคม 2548 การขาดดุลลดลงมากกว่าครึ่ง คือ ลดลงร้อยละ 66.7 (เดือน ม.ค.48 ขาดดุล 1,328.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
4. แนวโน้มการส่งออกและนำเข้าของปี 2549
แนวโน้มการส่งออกปี 2549 คาดว่าการส่งออกในปี 2549 จะยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2548 โดยคาดว่าจะสามารถส่งออกมีมูลค่าประมาณ 130,288 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ร้อยละ 17.5 ตามการขยายตัวของการค้าโลกและการดำเนินนโยบายการค้าเชิงรุกของรัฐบาล ด้านการส่งออกสินค้าเกษตร คาดว่าการส่งออกสินค้าเกษตรจะได้ประโยชน์จากการลดลงของผลผลิตเกษตรโลก ซึ่งคาดว่าจะลดลงร้อยละ 4-5 เนื่องจากปัญหาภัยธรรมชาติ โดยสินค้าเกษตรที่คาดว่าจะมีแนวโน้มการส่งออกที่ดี เช่น มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพด เป็นต้น
ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม คาดว่าการส่งออกสินค้าอิเลคทรอนิกส์และชิ้นส่วน จะเป็นสินค้าสำคัญในการขับเคลื่อนการส่งออกของไทย ตามภาวะการขยายตัวของอุตสาหกรรมสาขานี้ในตลาดโลก
แนวโน้มการนำเข้าปี 2549 จากการประชุมกับผู้นำเข้าและหน่วยงานของรัฐ รวม 7 กลุ่มสินค้า ในเบื้องต้นคาดการณ์สถานการณ์การนำเข้าในเดือนกุมภาพันธ์ และปี 2549 ดังนี้
- น้ำมันดิบ คาดว่าในช่วงต้นปี 2549 ราคานำมันดิบจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปตามการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนและประเทศอุตสาหกรรมหลัก โดยคาดว่า การนำเข้าน้ำมันดิบของไทย จะลดลงร้อยละ 10 จากปี 2548 เป็นนำเข้าไม่เกิน 765,000 บาร์เรลต่อวัน ตามแผนการนำเข้าที่ผู้นำเข้าแจ้งไว้
- เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ คาดว่าราคาเหล็กตลาดโลกปี 2549 มีแนวโน้มปรับลดลง เนื่องจากจีนมีการผลิตเหล็กเกินความต้องการ ส่วนการนำเข้าเหล็กของไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 คาดว่าอยูที 1.1 ล้านตัน ตามแผนการนำเข้าที่แจ้งไว้
- ทองคำ ผู้นำเข้าทองคำได้แจ้งแผนการนำเข้าในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ปริมาณ 12.41 ตัน
- คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ คาดว่าการนำเข้าจะขยายตัวตามความต้องการใช้ในภาคอุตสาหกรรมที่มีการผลิตเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2549 จะมีการนำเข้ามูลค่า 576.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.4 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
- เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ มีแนวโน้มนำเข้าเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองการขยายกำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรม คาดว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 จะมีการนำเข้ามูลค่า 968.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.04 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
- เคมีภัณฑ์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมต่อเนื่อง คาดว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 จะมีการนำเข้า 770 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
5. เป้าหมายการส่งออก นำเข้า และดุลการค้า ปี 2549
การส่งออก คาดว่าการส่งออกในปี 2549 จะยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2548 โดยจะสามารถส่งออกมีมูลค่าประมาณ 130.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ร้อยละ 17.5
การนำเข้าและดุลการค้า คาดว่าการนำเข้าปี 2549 จะมีมูลค่า 136.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ร้อยละ 15.2 ซึ่งจะส่งผลให้ดุลการค้าทั้งปีขาดดุลประมาณ 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลต่อการส่งออกไทยยังคงเป็นปัจจัยด้านราคาน้ำมัน การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และจีนที่อาจชะลอตัวลง และการระบาดของโรคไข้หวัดนก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549--จบ--