คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (วิธีการขังหรือจำคุก และการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่เป็นหญิงมีครรภ์) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
กระทรวงยุติธรรมรายงานว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ในการที่จะแก้ไขปัญหาเรือนจำที่มีสภาพแออัดไม่ได้สัดส่วนกับจำนวนผู้ซึ่งต้องขังหรือต้องจำคุกและมีสภาพไม่เหมาะสมกับผู้ซึ่งต้องขังหรือต้องจำคุกบางลักษณะ โดยกำหนดให้การบังคับตามหมายขังหรือหมายจำคุกของศาลสามารถกระทำได้อย่างยืดหยุ่นและเหมาะสมกับผู้ซึ่งต้องขังหรือต้องจำคุกแต่ละรายมากขึ้น และเป็นการปรับปรุงการทุเลาการบังคับโทษจำคุกและโทษประหารชีวิตแก่หญิงมีครรภ์เพื่อได้รับความสะดวกและมีโอกาสดูแลสุขภาพของตนเองก่อนคลอด รวมทั้งอยู่ใกล้ชิดกับทารก ภายหลังคลอดแล้วมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการที่ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมของไทยในเรื่องเกี่ยวกับการควบคุมและฟื้นฟูผู้กระทำผิด จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
โดยร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (วิธีการขังหรือจำคุก และการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่เป็นหญิงมีครรภ์) มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดให้ในกรณีมีเหตุจำเป็นศาลจะสั่งขังหรือจำคุกผู้ต้องหาหรือจำเลยหรือผู้ซึ่งต้องจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดที่ได้รับโทษจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของกำหนดโทษตามหมายศาลหรือไม่น้อยกว่าสิบปีในกรณีต้องโทษจำคุกเกินสามปีขึ้นไป หรือจำคุกตลอดชีวิตไว้ในสถานที่อื่นนอกจากเรือนจำก็ได้
2. กำหนดให้ศาลมีอำนาจสั่งทุเลาการบังคับให้จำคุกในกรณีจำเลยวิกลจริต จำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก จำเลยมีครรภ์ และจำเลยคลอดบุตรยังไม่ถึงหนึ่งปี
3. กำหนดให้การประหารชีวิตหญิงมีครรภ์ต้องรอให้พ้นหนึ่งปีนับแต่คลอดบุตร เว้นแต่บุตรตายก่อนพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 ธันวาคม 2549--จบ--
กระทรวงยุติธรรมรายงานว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ในการที่จะแก้ไขปัญหาเรือนจำที่มีสภาพแออัดไม่ได้สัดส่วนกับจำนวนผู้ซึ่งต้องขังหรือต้องจำคุกและมีสภาพไม่เหมาะสมกับผู้ซึ่งต้องขังหรือต้องจำคุกบางลักษณะ โดยกำหนดให้การบังคับตามหมายขังหรือหมายจำคุกของศาลสามารถกระทำได้อย่างยืดหยุ่นและเหมาะสมกับผู้ซึ่งต้องขังหรือต้องจำคุกแต่ละรายมากขึ้น และเป็นการปรับปรุงการทุเลาการบังคับโทษจำคุกและโทษประหารชีวิตแก่หญิงมีครรภ์เพื่อได้รับความสะดวกและมีโอกาสดูแลสุขภาพของตนเองก่อนคลอด รวมทั้งอยู่ใกล้ชิดกับทารก ภายหลังคลอดแล้วมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการที่ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมของไทยในเรื่องเกี่ยวกับการควบคุมและฟื้นฟูผู้กระทำผิด จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
โดยร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (วิธีการขังหรือจำคุก และการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่เป็นหญิงมีครรภ์) มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดให้ในกรณีมีเหตุจำเป็นศาลจะสั่งขังหรือจำคุกผู้ต้องหาหรือจำเลยหรือผู้ซึ่งต้องจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดที่ได้รับโทษจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของกำหนดโทษตามหมายศาลหรือไม่น้อยกว่าสิบปีในกรณีต้องโทษจำคุกเกินสามปีขึ้นไป หรือจำคุกตลอดชีวิตไว้ในสถานที่อื่นนอกจากเรือนจำก็ได้
2. กำหนดให้ศาลมีอำนาจสั่งทุเลาการบังคับให้จำคุกในกรณีจำเลยวิกลจริต จำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก จำเลยมีครรภ์ และจำเลยคลอดบุตรยังไม่ถึงหนึ่งปี
3. กำหนดให้การประหารชีวิตหญิงมีครรภ์ต้องรอให้พ้นหนึ่งปีนับแต่คลอดบุตร เว้นแต่บุตรตายก่อนพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 ธันวาคม 2549--จบ--