คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยมาตรฐานระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินในที่ดินของรัฐ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพิ่มอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเข้าร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินในที่ดินของรัฐ (กมร.) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงมหาดไทยเสนอว่า ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญในการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินในที่ดินของรัฐให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยมีคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบฉบับนี้เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในรายละเอียด เป็นมาตรการสำคัญทางกฎหมายในการกำหนดมาตรฐานการจัดทำระวางแผนที่รูปแปลงที่ดินของแต่ละส่วนราชการที่มีความแตกต่างกันในกฎหมายเฉพาะแต่ละฉบับ และรองรับให้การจัดทำแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินมีความถูกต้องมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการตรวจสอบขอบเขตและตำแหน่งที่ดินดังกล่าว จึงได้เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยมาตรฐานระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินในที่ดินของรัฐ พ.ศ. .... มาเพื่อดำเนินการ
ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยมาตรฐานระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินในที่ดินของรัฐ พ.ศ. ..... มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดให้มีคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินในที่ดินของรัฐ เรียกโดยย่อว่า “กมร.”ประกอบด้วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่ง ให้นายช่างใหญ่ กรมที่ดิน เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด
2. กำหนดให้ส่วนราชการดำเนินการจัดทำระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินในที่ดินของรัฐให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
3. กำหนดให้การจัดทำระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินส่วนราชการต้องทำการรังวัดให้ได้มาซึ่งพิกัดตำแหน่งของทุกมุมเขตของแปลงที่ดินตามหลักเกณฑ์และวิธีการรังวัดที่ กมร. กำหนด พิกัดตำแหน่งที่ใช้ในการรังวัดต้องเป็นระบบพิกัดฉากที่สามารถปรับค่าพิกัดให้เป็นระบบพิกัดฉากที่ใช้ในราชการกรมที่ดิน และเมื่อทำการรังวัดเสร็จแล้วให้ส่วนราชการจัดทำระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินตามมาตรฐานที่กำหนด
4. กำหนดรูปแบบของระวางแผนที่ มาตราส่วน และรายละเอียดอื่น ๆ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำระวางแผนที่ที่ กมร. กำหนด
5. กำหนดให้แผนที่รูปแปลงที่ดินต้องแสดงค่าพิกัดฉาก มาตรส่วนและรายละเอียดอื่น ๆ ตามที่กำหนด โดยแผนที่รูปแปลงที่ดินต้องจัดทำเป็นข้อมูลดิจิตอล
6. กำหนดให้ที่ดินซึ่งบุคคลมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินที่ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐ ให้ถือว่าแผนที่รูปแปลงที่ดินที่กรมที่ดินจัดทำไว้เป็นแผนที่รูปแปลงที่ดินตามข้อ 14 วรรคหนึ่ง และให้นำลงมาไว้ในแผนที่รูปแปลงที่ดินรวมตามข้อ 14 วรรคสอง
7. กำหนดให้ส่วนราชการส่งสำเนาแผนที่รูปแปลงที่ดินและข้อมูลดิจิตอลของที่ดินที่ได้จัดทำขึ้นตามข้อ 14 ให้กรมที่ดินภายในระยะเวลาที่กำหนด และให้กรมที่ดินนำข้อมูลที่ได้รับมาจัดทำฐานข้อมูลแผนที่รูปแปลงที่ดินของรัฐในระบบภูมิสารสนเทศตามที่กำหนด และให้ส่วนราชการแจ้งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแผนที่รูปแปลงที่ดินและข้อมูลดิจิตอลให้กรมที่ดินภายในระยะเวลาที่กำหนด
8. กำหนดให้ส่วนราชการจัดเก็บรายการรังวัด รายการคำนวณแผนที่ระวางแผนที่ และต้นร่างแผนที่รูปแปลงที่ดินไว้เป็นหลักฐาน
9. กำหนดให้ที่ดินแปลงที่ต้องทำการรังวัดใหม่ ให้ทำการรังวัดตามมาตรฐานที่กำหนด
10. กำหนดให้ส่วนราชการทำการปรับระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินที่จัดทำขึ้นก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ และจัดส่งสำเนาแผนที่รูปแปลงที่ดิน และข้อมูลดิจิตอลให้กรมที่ดิน เพื่อจัดทำฐานข้อมูลในสารสนเทศภายในระยะเวลาที่กำหนด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 ธันวาคม 2549--จบ--
กระทรวงมหาดไทยเสนอว่า ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญในการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินในที่ดินของรัฐให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยมีคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบฉบับนี้เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในรายละเอียด เป็นมาตรการสำคัญทางกฎหมายในการกำหนดมาตรฐานการจัดทำระวางแผนที่รูปแปลงที่ดินของแต่ละส่วนราชการที่มีความแตกต่างกันในกฎหมายเฉพาะแต่ละฉบับ และรองรับให้การจัดทำแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินมีความถูกต้องมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการตรวจสอบขอบเขตและตำแหน่งที่ดินดังกล่าว จึงได้เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยมาตรฐานระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินในที่ดินของรัฐ พ.ศ. .... มาเพื่อดำเนินการ
ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยมาตรฐานระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินในที่ดินของรัฐ พ.ศ. ..... มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดให้มีคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินในที่ดินของรัฐ เรียกโดยย่อว่า “กมร.”ประกอบด้วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่ง ให้นายช่างใหญ่ กรมที่ดิน เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด
2. กำหนดให้ส่วนราชการดำเนินการจัดทำระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินในที่ดินของรัฐให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
3. กำหนดให้การจัดทำระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินส่วนราชการต้องทำการรังวัดให้ได้มาซึ่งพิกัดตำแหน่งของทุกมุมเขตของแปลงที่ดินตามหลักเกณฑ์และวิธีการรังวัดที่ กมร. กำหนด พิกัดตำแหน่งที่ใช้ในการรังวัดต้องเป็นระบบพิกัดฉากที่สามารถปรับค่าพิกัดให้เป็นระบบพิกัดฉากที่ใช้ในราชการกรมที่ดิน และเมื่อทำการรังวัดเสร็จแล้วให้ส่วนราชการจัดทำระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินตามมาตรฐานที่กำหนด
4. กำหนดรูปแบบของระวางแผนที่ มาตราส่วน และรายละเอียดอื่น ๆ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำระวางแผนที่ที่ กมร. กำหนด
5. กำหนดให้แผนที่รูปแปลงที่ดินต้องแสดงค่าพิกัดฉาก มาตรส่วนและรายละเอียดอื่น ๆ ตามที่กำหนด โดยแผนที่รูปแปลงที่ดินต้องจัดทำเป็นข้อมูลดิจิตอล
6. กำหนดให้ที่ดินซึ่งบุคคลมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินที่ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐ ให้ถือว่าแผนที่รูปแปลงที่ดินที่กรมที่ดินจัดทำไว้เป็นแผนที่รูปแปลงที่ดินตามข้อ 14 วรรคหนึ่ง และให้นำลงมาไว้ในแผนที่รูปแปลงที่ดินรวมตามข้อ 14 วรรคสอง
7. กำหนดให้ส่วนราชการส่งสำเนาแผนที่รูปแปลงที่ดินและข้อมูลดิจิตอลของที่ดินที่ได้จัดทำขึ้นตามข้อ 14 ให้กรมที่ดินภายในระยะเวลาที่กำหนด และให้กรมที่ดินนำข้อมูลที่ได้รับมาจัดทำฐานข้อมูลแผนที่รูปแปลงที่ดินของรัฐในระบบภูมิสารสนเทศตามที่กำหนด และให้ส่วนราชการแจ้งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแผนที่รูปแปลงที่ดินและข้อมูลดิจิตอลให้กรมที่ดินภายในระยะเวลาที่กำหนด
8. กำหนดให้ส่วนราชการจัดเก็บรายการรังวัด รายการคำนวณแผนที่ระวางแผนที่ และต้นร่างแผนที่รูปแปลงที่ดินไว้เป็นหลักฐาน
9. กำหนดให้ที่ดินแปลงที่ต้องทำการรังวัดใหม่ ให้ทำการรังวัดตามมาตรฐานที่กำหนด
10. กำหนดให้ส่วนราชการทำการปรับระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินที่จัดทำขึ้นก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ และจัดส่งสำเนาแผนที่รูปแปลงที่ดิน และข้อมูลดิจิตอลให้กรมที่ดิน เพื่อจัดทำฐานข้อมูลในสารสนเทศภายในระยะเวลาที่กำหนด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 ธันวาคม 2549--จบ--