คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศหัวหน้าคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 8 เรื่อง ห้ามกักตุนสินค้าลงวันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2549 พ.ศ. ....ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอและให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า
1. ตามที่ได้มีประกาศหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 8 เรื่อง ห้ามกักตุนสินค้าลงวันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2549 นั้น คณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) ซึ่งประกอบด้วยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้มีหนังสือขอให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาปัญหาอุปสรรคในการประกอบธุรกิจที่ไม่สามารถปรับราคาได้ตามภาวะต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น เนื่องจากข้อกำหนดห้ามขึ้นราคาตามประกาศหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ฉบับที่ 8 ดังกล่าว โดยเห็นว่าขณะนี้สถานการณ์โดยทั่วไปเข้าสู่สภาวะปกติและมีพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 คุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอารัดเอาเปรียบอยู่แล้ว
2. กระทรวงพาณิชย์พิจารณาแล้วเห็นว่า ขณะนี้สถานการณ์สินค้าเริ่มคลี่คลายดีขึ้น ปริมาณสินค้ามีเพียงพอไม่ขาดแคลน และอยู่ในภาวะที่สามารถกำกับดูแลได้ ดังนั้น เพื่อสร้างความเป็นธรรมในภาคเศรษฐกิจ ลดอุปสรรคการประกอบธุรกิจเห็นควรยกเลิกประกาศหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 8 ฯ เมื่อยกเลิกประกาศดังกล่าวแล้ว หากมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือกักตุนสินค้าก็สามารถใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 กำกับดูแลและคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอารัดเอาเปรียบได้ จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 ธันวาคม 2549--จบ--
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า
1. ตามที่ได้มีประกาศหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 8 เรื่อง ห้ามกักตุนสินค้าลงวันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2549 นั้น คณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) ซึ่งประกอบด้วยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้มีหนังสือขอให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาปัญหาอุปสรรคในการประกอบธุรกิจที่ไม่สามารถปรับราคาได้ตามภาวะต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น เนื่องจากข้อกำหนดห้ามขึ้นราคาตามประกาศหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ฉบับที่ 8 ดังกล่าว โดยเห็นว่าขณะนี้สถานการณ์โดยทั่วไปเข้าสู่สภาวะปกติและมีพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 คุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอารัดเอาเปรียบอยู่แล้ว
2. กระทรวงพาณิชย์พิจารณาแล้วเห็นว่า ขณะนี้สถานการณ์สินค้าเริ่มคลี่คลายดีขึ้น ปริมาณสินค้ามีเพียงพอไม่ขาดแคลน และอยู่ในภาวะที่สามารถกำกับดูแลได้ ดังนั้น เพื่อสร้างความเป็นธรรมในภาคเศรษฐกิจ ลดอุปสรรคการประกอบธุรกิจเห็นควรยกเลิกประกาศหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 8 ฯ เมื่อยกเลิกประกาศดังกล่าวแล้ว หากมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือกักตุนสินค้าก็สามารถใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 กำกับดูแลและคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอารัดเอาเปรียบได้ จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 ธันวาคม 2549--จบ--