คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานขององค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศ พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ และให้นำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานขององค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศ พ.ศ. ... มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดนิยามคำว่า “องค์การ” หมายความว่า องค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นตามอนุสัญญาว่าด้วยองค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศ ซึ่งทำเมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2519
2. ให้ยอมรับนับถือว่าองค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นตามอนุสัญญาฯ เป็นนิติบุคคลและมีภูมิลำเนาในประเทศไทย
3. กำหนดให้องค์การ ทรัพย์สิน สินทรัพย์ และบรรณสารขององค์การ บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ผู้แทนของรัฐภาคี และผู้เชี่ยวชาญขององค์การและสมาชิกของครอบครัวได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามที่ระบุไว้ในพิธีสารฯ ในระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย หรือเข้ามาในประเทศเพื่อปฏิบัติหน้าที่ หรือในการปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับองค์การ ทั้งนี้ ในกรณีที่บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่หรือผู้เชี่ยวชาญขององค์การเป็นบุคคลผู้มีสัญชาติไทยหรือผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรในประเทศไทยให้ได้รับเอกสารสิทธิ์และความคุ้มกันเฉพาะที่เป็นการกระทำตามหน้าที่อย่างเป็นทางการภายในขอบเขตแห่งหน้าที่
ทั้งนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานว่า ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อให้การคุ้มครองการดำเนินการขององค์การฯ ในประเทศไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นการอนุวัติการให้เป็นไปตามข้อผูกพันในพิธีสารว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันขององค์การฯ ตลอดจนเพื่อให้องค์การมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 พฤศจิกายน 2549--จบ--
1. กำหนดนิยามคำว่า “องค์การ” หมายความว่า องค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นตามอนุสัญญาว่าด้วยองค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศ ซึ่งทำเมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2519
2. ให้ยอมรับนับถือว่าองค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นตามอนุสัญญาฯ เป็นนิติบุคคลและมีภูมิลำเนาในประเทศไทย
3. กำหนดให้องค์การ ทรัพย์สิน สินทรัพย์ และบรรณสารขององค์การ บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ผู้แทนของรัฐภาคี และผู้เชี่ยวชาญขององค์การและสมาชิกของครอบครัวได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามที่ระบุไว้ในพิธีสารฯ ในระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย หรือเข้ามาในประเทศเพื่อปฏิบัติหน้าที่ หรือในการปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับองค์การ ทั้งนี้ ในกรณีที่บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่หรือผู้เชี่ยวชาญขององค์การเป็นบุคคลผู้มีสัญชาติไทยหรือผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรในประเทศไทยให้ได้รับเอกสารสิทธิ์และความคุ้มกันเฉพาะที่เป็นการกระทำตามหน้าที่อย่างเป็นทางการภายในขอบเขตแห่งหน้าที่
ทั้งนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานว่า ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อให้การคุ้มครองการดำเนินการขององค์การฯ ในประเทศไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นการอนุวัติการให้เป็นไปตามข้อผูกพันในพิธีสารว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันขององค์การฯ ตลอดจนเพื่อให้องค์การมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 พฤศจิกายน 2549--จบ--