คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป สำหรับความเห็นของกระทรวงยุติธรรมที่เห็นควรให้คงความในเรื่องการให้งดการประหารชีวิตและการเปลี่ยนการประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิต นั้น ให้กระทรวงยุติธรรมประสานงานกับคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณาดำเนินการในชั้นการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
กระทรวงยุติธรรมรายงานว่า ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 11) ตรวจพิจารณาแล้ว เห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติม ยกเว้นกรณีการรับรองว่าจะไม่มีการประหารชีวิตบุคคลที่ประเทศไทยร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามร่างมาตรา 29 ซึ่งมีสาระสำคัญที่แตกต่างจากหลักการของร่างที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตัดความในร่างเดิมมาตรา 29 ในเรื่องการให้งดประหารชีวิตและการเปลี่ยนการประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิตออก ซึ่งกระทรวงยุติธรรมเห็นควรให้คงความในเรื่องดังกล่าวไว้ เพื่อให้มีการเปลี่ยนโทษแก่บุคคลที่ถูกส่งข้ามแดนโดยผลของกฎหมาย ซึ่งจะสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญาต้นแบบว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนของสหประชาชาติ ค.ศ. 1990
ร่างพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตลอดจนกรณีที่ต้องห้ามไม่ให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน (ร่างมาตรา 9)
2. กำหนดให้ศาลใช้ดุลยพินิจให้ปล่อยตัวชั่วคราวได้ แต่ศาลจะต้องฟังคำคัดค้านของพนักงานอัยการก่อนพิจารณา (ร่างมาตรา 18)
3. กำหนดขั้นตอนการปฏิบัติในการจับกุมบุคคลที่ถูกร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน (ร่างมาตรา 15 และร่างมาตรา 16)
4. กำหนดหลักการให้มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้โดยไม่ต้องดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดนครบทุกขั้นตอนหากผู้ถูกจับยินยอมให้ส่งข้ามแดน และให้ศาลตรวจสอบว่าผู้ถูกจับกุมให้ความยินยอมโดยบริสุทธิ์ใจหรือไม่ (ร่างมาตรา 27)
5. เพิ่มเติมหลักการในกรณีที่ประเทศไทยร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนหากผู้ร้ายข้ามแดนต้องโทษประหารชีวิต ให้รัฐบาลไทยให้คำรับรองว่าจะไม่มีการประหารชีวิต (ร่างมาตรา 29)
6. กำหนดให้แบบ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขของคำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนและเอกสารประกอบ คำร้อง ให้ออกเป็นกฎกระทรวง (ร่างมาตรา 30)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤษภาคม 2550--จบ--
กระทรวงยุติธรรมรายงานว่า ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 11) ตรวจพิจารณาแล้ว เห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติม ยกเว้นกรณีการรับรองว่าจะไม่มีการประหารชีวิตบุคคลที่ประเทศไทยร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามร่างมาตรา 29 ซึ่งมีสาระสำคัญที่แตกต่างจากหลักการของร่างที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตัดความในร่างเดิมมาตรา 29 ในเรื่องการให้งดประหารชีวิตและการเปลี่ยนการประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิตออก ซึ่งกระทรวงยุติธรรมเห็นควรให้คงความในเรื่องดังกล่าวไว้ เพื่อให้มีการเปลี่ยนโทษแก่บุคคลที่ถูกส่งข้ามแดนโดยผลของกฎหมาย ซึ่งจะสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญาต้นแบบว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนของสหประชาชาติ ค.ศ. 1990
ร่างพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตลอดจนกรณีที่ต้องห้ามไม่ให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน (ร่างมาตรา 9)
2. กำหนดให้ศาลใช้ดุลยพินิจให้ปล่อยตัวชั่วคราวได้ แต่ศาลจะต้องฟังคำคัดค้านของพนักงานอัยการก่อนพิจารณา (ร่างมาตรา 18)
3. กำหนดขั้นตอนการปฏิบัติในการจับกุมบุคคลที่ถูกร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน (ร่างมาตรา 15 และร่างมาตรา 16)
4. กำหนดหลักการให้มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้โดยไม่ต้องดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดนครบทุกขั้นตอนหากผู้ถูกจับยินยอมให้ส่งข้ามแดน และให้ศาลตรวจสอบว่าผู้ถูกจับกุมให้ความยินยอมโดยบริสุทธิ์ใจหรือไม่ (ร่างมาตรา 27)
5. เพิ่มเติมหลักการในกรณีที่ประเทศไทยร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนหากผู้ร้ายข้ามแดนต้องโทษประหารชีวิต ให้รัฐบาลไทยให้คำรับรองว่าจะไม่มีการประหารชีวิต (ร่างมาตรา 29)
6. กำหนดให้แบบ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขของคำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนและเอกสารประกอบ คำร้อง ให้ออกเป็นกฎกระทรวง (ร่างมาตรา 30)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤษภาคม 2550--จบ--