คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้แยกหลักการเฉพาะสาระสำคัญในเรื่องการบริหารการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์และสิทธิของนักแสดง และบทกำหนดโทษ ออกจากร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. แก้ไขปรับปรุงคำนิยามให้ชัดเจนขึ้น เช่น คำว่า “ทำซ้ำ” และคำว่า “เผยแพร่ต่อสาธารณชน” เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล (ร่างมาตรา 3และร่างมาตรา4)
2. ยกร่างเพิ่มเติมคำนิยามขึ้นใหม่ เช่น คำว่า “จำหน่าย” “ข้อมูลการบริหารสิทธิ” และ “มาตรการทางเทคโนโลยี” เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล (ร่างมาตรา 5)
3. ขยายความคุ้มครองลิขสิทธิ์และสิทธิของนักแสดงให้ทันต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยครอบคลุมถึงการเผยแพร่ต่อสาธารณชนทางสื่อดิจิตอลและอินเทอร์เน็ต รวมทั้งการจำกัดความรับผิดชอบของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider หรือ ISP) เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการสื่อสารและเผยแพร่ลิขสิทธิ์ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ร่างมาตรา 10)
4. ขยายการคุ้มครองสิทธิของนักแสดงให้กว้างขวางยิ่งขึ้น และเป็นไปมาตรฐานสากล เช่น สิทธิในการเผยแพร่การแสดงและสิ่งบันทึกเสียงการแสดงทางสื่อดิจิตอล การจำหน่ายและให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนาสิ่งบันทึกเสียงของนักแสดง (ร่างมาตรา 11-15)
5. เพิ่มบทบัญญัติ โดยกำหนดให้ความคุ้มครองแก่ข้อมูลการบริหารสิทธิ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับ ผู้สร้างสรรค์ นักแสดง และเจ้าของลิขสิทธิ์ เพื่อส่งเสริมการเผยแพร่งานลิขสิทธิ์และคุ้มครองสิทธิในข้อมูลของเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ใส่ไว้ในต้นฉบับหรือสำเนางาน ไม่ให้บุคคลอื่น ลบหรือเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีสิทธิ (ร่างมาตรา 16)
6. เพิ่มบทบัญญัติโดยขยายความคุ้มครองลิขสิทธิ์และสิทธิของนักแสดงให้ทันต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยครอบคลุมถึงการเผยแพร่ต่อสาธารณชนทางสื่อดิจิตอลและอินเทอร์เน็ต และคุ้มครองแก่มาตรการทางเทคโนโลยีที่เจ้าของลิขสิทธิ์ใช้เพื่อป้องกันการเข้าถึงหรือการละเมิดลิขสิทธิ์ เพื่อให้การคุ้มครองลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดงมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่และมาตรฐานสากล (ร่างมาตรา 16)
7. เพิ่มบทบัญญัติเกี่ยวกับการบริหารการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์และสิทธิของนักแสดง (ร่างมาตรา 17)
8. แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการลิขสิทธิ์ในพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 60 ให้ครอบคลุมถึงเรื่องการกำหนดแบบสัญญามาตรฐานเกี่ยวกับลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดง เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถใช้เป็นแม่แบบในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับงานลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดงได้ จะทำให้ลดปัญหาข้อพิพาทต่างๆ ทางธุรกิจ (ร่างมาตรา 19)
9. กำหนดให้ศาลมีอำนาจริบสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธินักแสดง เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ คือ ความตกลงว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้า (ร่างมาตรา 23)
10. กำหนดให้คดีละเมิดลิขสิทธิ์เป็นความผิดอันยอมความได้ เว้นแต่การละเมิดลิขสิทธิ์ในเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ให้เป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ (ร่างมาตรา 24)
11. ในส่วนของบทกำหนดโทษ กำหนดอัตราโทษตามความหนักเบาของพฤติการณ์ความร้ายแรงของการละเมิด โดยแบ่งฐานความผิดออกไป 3 ระดับ คือ ความผิดทั่วไป ความผิดเพื่อการค้าขนาดเล็ก และความผิดเพื่อการค้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ สำหรับโทษจำคุกจะกำหนดโทษจำคุกเฉพาะการละเมิดลิขสิทธิ์ในเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่เท่านั้น ส่วนการละเมิดลิขสิทธิ์ทั่วไป และการค้าขนาดเล็กมีเพียงโทษปรับเท่านั้น (ร่างมาตรา 26-28)
12. เพิ่มเติมบทกำหนดโทษในกรณี การกระทำความผิดในการลบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลการบริหารสิทธิ การหลีกเลี่ยงมาตรการทางเทคโนโลยี การเป็นองค์กรจัดเก็บ โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ดำเนินการบริหารการจัดเก็บค่าตอบแทนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด (ร่างมาตรา 28)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤษภาคม 2550--จบ--
ร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. แก้ไขปรับปรุงคำนิยามให้ชัดเจนขึ้น เช่น คำว่า “ทำซ้ำ” และคำว่า “เผยแพร่ต่อสาธารณชน” เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล (ร่างมาตรา 3และร่างมาตรา4)
2. ยกร่างเพิ่มเติมคำนิยามขึ้นใหม่ เช่น คำว่า “จำหน่าย” “ข้อมูลการบริหารสิทธิ” และ “มาตรการทางเทคโนโลยี” เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล (ร่างมาตรา 5)
3. ขยายความคุ้มครองลิขสิทธิ์และสิทธิของนักแสดงให้ทันต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยครอบคลุมถึงการเผยแพร่ต่อสาธารณชนทางสื่อดิจิตอลและอินเทอร์เน็ต รวมทั้งการจำกัดความรับผิดชอบของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider หรือ ISP) เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการสื่อสารและเผยแพร่ลิขสิทธิ์ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ร่างมาตรา 10)
4. ขยายการคุ้มครองสิทธิของนักแสดงให้กว้างขวางยิ่งขึ้น และเป็นไปมาตรฐานสากล เช่น สิทธิในการเผยแพร่การแสดงและสิ่งบันทึกเสียงการแสดงทางสื่อดิจิตอล การจำหน่ายและให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนาสิ่งบันทึกเสียงของนักแสดง (ร่างมาตรา 11-15)
5. เพิ่มบทบัญญัติ โดยกำหนดให้ความคุ้มครองแก่ข้อมูลการบริหารสิทธิ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับ ผู้สร้างสรรค์ นักแสดง และเจ้าของลิขสิทธิ์ เพื่อส่งเสริมการเผยแพร่งานลิขสิทธิ์และคุ้มครองสิทธิในข้อมูลของเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ใส่ไว้ในต้นฉบับหรือสำเนางาน ไม่ให้บุคคลอื่น ลบหรือเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีสิทธิ (ร่างมาตรา 16)
6. เพิ่มบทบัญญัติโดยขยายความคุ้มครองลิขสิทธิ์และสิทธิของนักแสดงให้ทันต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยครอบคลุมถึงการเผยแพร่ต่อสาธารณชนทางสื่อดิจิตอลและอินเทอร์เน็ต และคุ้มครองแก่มาตรการทางเทคโนโลยีที่เจ้าของลิขสิทธิ์ใช้เพื่อป้องกันการเข้าถึงหรือการละเมิดลิขสิทธิ์ เพื่อให้การคุ้มครองลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดงมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่และมาตรฐานสากล (ร่างมาตรา 16)
7. เพิ่มบทบัญญัติเกี่ยวกับการบริหารการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์และสิทธิของนักแสดง (ร่างมาตรา 17)
8. แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการลิขสิทธิ์ในพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 60 ให้ครอบคลุมถึงเรื่องการกำหนดแบบสัญญามาตรฐานเกี่ยวกับลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดง เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถใช้เป็นแม่แบบในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับงานลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดงได้ จะทำให้ลดปัญหาข้อพิพาทต่างๆ ทางธุรกิจ (ร่างมาตรา 19)
9. กำหนดให้ศาลมีอำนาจริบสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธินักแสดง เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ คือ ความตกลงว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้า (ร่างมาตรา 23)
10. กำหนดให้คดีละเมิดลิขสิทธิ์เป็นความผิดอันยอมความได้ เว้นแต่การละเมิดลิขสิทธิ์ในเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ให้เป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ (ร่างมาตรา 24)
11. ในส่วนของบทกำหนดโทษ กำหนดอัตราโทษตามความหนักเบาของพฤติการณ์ความร้ายแรงของการละเมิด โดยแบ่งฐานความผิดออกไป 3 ระดับ คือ ความผิดทั่วไป ความผิดเพื่อการค้าขนาดเล็ก และความผิดเพื่อการค้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ สำหรับโทษจำคุกจะกำหนดโทษจำคุกเฉพาะการละเมิดลิขสิทธิ์ในเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่เท่านั้น ส่วนการละเมิดลิขสิทธิ์ทั่วไป และการค้าขนาดเล็กมีเพียงโทษปรับเท่านั้น (ร่างมาตรา 26-28)
12. เพิ่มเติมบทกำหนดโทษในกรณี การกระทำความผิดในการลบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลการบริหารสิทธิ การหลีกเลี่ยงมาตรการทางเทคโนโลยี การเป็นองค์กรจัดเก็บ โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ดำเนินการบริหารการจัดเก็บค่าตอบแทนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด (ร่างมาตรา 28)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤษภาคม 2550--จบ--