คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานผลการปฏิบัติงานพัฒนาการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2547 ดังนี้
1. การดำเนินงาน
1.1 ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อวางยุทธศาสตร์ พัฒนาสถาบันศึกษาปอเนาะ คือ ด้านพัฒนาระบบโครงสร้างและพัฒนาทางกายภาพ ด้านพัฒนาหลักสูตร ด้านพัฒนาบุคลากร จัดตั้งศูนย์อำนวยการเพื่อเป็นหน่วยประสานงานตลอดจนจัดตั้งสถาบันศึกษาปอเนาะต้นแบบ จังหวัดละ 1 แห่ง รวม 3 แห่ง
1.2 จัดตั้งคณะกรรมการจากผู้รู้ในท้องถิ่น และผู้เกี่ยวข้อง 4 คณะ ประกอบด้วย คณะกรรมการระบบโครงสร้างและพัฒนาทางกายภาพ คณะกรรมการประมวลผลการใช้หลักสูตรในสถาบันศึกษาปอเนาะ คณะกรรมการดำเนินการแบบบูรณาการหลักสูตรอิสลามศึกษา พุทธศักราช 2546 กับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 และคณะกรรมการพัฒนาบุคลากร
1.3 จัดสรรงบอุดหนุนทางราชการให้สถาบันศึกษาปอเนาะ จำนวน 255 แห่ง รวมงบประมาณจำนวนหนึ่งร้อยล้านบาท โดยการจัดสรรงบประมาณเพื่อปรับปรุงทางด้านกายภาพของสถาบันศึกษาปอเนาะแต่ละแห่งตามความเป็นจริง และในการปรับปรุงเน้นการใช้แรงงานในท้องถิ่นเป็นหลัก
1.4 ดำเนินการจัดทำหลักสูตร โดยประมวลหลักสูตรสถาบันศึกษาปอเนาะให้เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 7 มกราคม 2548 และบูรณาการหลักสูตรอิสลามศึกษา พ.ศ. 2546 กับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 31 มีนาคม 2548 การดำเนินการจัดทำหลักสูตรดังกล่าวได้รับความเห็นชอบและความร่วมมือจากโต๊ะครู และผู้รู้ในท้องถิ่นเป็นอย่างดี
1.5 ดำเนินการจัดตั้งศูนย์อำนวยการ และติดตาม ดูแลประจำเขตตรวจราชการที่ 12 จังหวัดยะลา แต่งตั้งผู้รับผิดชอบเพื่อทำหน้าที่แทนกระทรวงศึกษาธิการ ในการประสานการดำเนินงานให้เกิดความเป็นเอกภาพ รวมทั้งมีอำนาจตัดสินใจสั่งการ และประสานการปฏิบัติงานกับองค์กรหลักในพื้นที่
1.6 การพัฒนาบุคลากรเพื่อให้มีการเทียบวุฒิและเพิ่มวุฒิ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาและสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียนร่วมกันดำเนินงานเพื่อให้ครูได้มีวุฒิทางสายสามัญระดับปริญญาตรีและประกาศนียบัตรชั้นสูง (ป.บัณฑิต)
2. สิ่งที่จะต้องดำเนินงานต่อไป
2.1 ทบทวนและกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับเงินอุดหนุนค่าเบี้ยเสี่ยงภัยของครูโรงเรียนเอกชนสอนอิสลาม และสถาบันศึกษาปอเนาะ
2.2 กำหนดกฎระเบียบและแนวปฏิบัติเพื่อพัฒนาเด็กที่เรียนอยู่ในสถาบันศึกษาปอเนาะ ซึ่งยังไม่จบการศึกษาภาคบังคับและอายุไม่ครบ 15 ปี ได้เรียนต่อสายอาชีพและสายสามัญ
2.3 สำรวจข้อมูลในด้านความต้องการของชุมชนและสถาบันศึกษาปอเนาะเกี่ยวกับประเภทของอาชีพ และดำเนินการช่วยเหลือให้มีการจัดการเรียนรู้วิชาชีพที่เหมาะสมกับชุมชนในสถาบันศึกษาปอเนาะ
2.4 กำหนดแนวปฏิบัติการช่วยเหลือด้านการประกอบอาชีพของผู้ที่จบการศึกษาจากสถานศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ยังไม่มีงานทำที่เกิดประโยชน์ โดยจะหาแหล่งทำงานหรือจัดระบบเงินลงทุนให้ เป็นต้น
3. ผลการดำเนินงาน ในการดำเนินงานดังกล่าว ปัจจุบันสำคัญคือ ความร่วมมือของบรรดาโต๊ะครู ผู้ช่วยโต๊ะครู ในสถาบันศึกษาปอเนาะทั้งหมดซึ่งสมัครใจเข้ามามีส่วนร่วม ทุกคนที่มาร่วมประชุมมีความเห็นที่ตรงกันในวิธีการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่สำคัญประการหนึ่งก็คือ เรื่องการพัฒนาการเรียนการสอนในสถาบันศึกษาปอเนาะ ซึ่งเปรียบเสมือนรากฐานของวิถีชีวิตที่จะสร้างความเจริญก้าวหน้าอย่างมีคุณค่าให้กับเยาวชน โดยมีหลักศาสนาเป็นแนวนำขณะนี้ทุกคนมีบทบาทสำคัญในการทำงานที่จะกำหนดยุทธวิธีในการสร้างหลักสูตรที่เต็มรูปแบบของสถาบันศึกษาปอเนาะ ซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อนในขณะเดียวกันในหลักสูตรก็จะผนวกเรื่องการฝึกอาชีพ การเรียนรู้ภาษาไทย การเรียนรู้วิชาการที่ทันสมัย (IT) รวมเข้าเป็นภาคผนวกในหลักสูตรสถาบันศึกษาปอเนาะ
สำหรับเรื่องการพัฒนาทางกายภาพของสถาบันศึกษาปอเนาะ คณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยโต๊ะครู และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ออกไปตรวจสอบสถานที่จริงด้วยตนเอง เพื่อวางแผนดำเนินงาน ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานของการรับผิดชอบที่ต้องดำเนินงานในลำดับต่อไป ในส่วนของงบประมาณทางคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่จะต้องใช้งบประมาณด้วยความโปร่งใส โดยกำหนดให้มีบุคคลที่เกี่ยวข้องของท้องถิ่นนั้น ๆ เข้ามามีส่วนร่วมดำเนินการทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรและอาคารสถานที่ เพื่อให้สถาบันศึกษาปอเนาะสามารถดูแลตนเองได้อย่างดีต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นผลได้ตามมาในภายภาคหน้าก็คือ การติดตาม ดูแลครู และนักเรียนในสถาบันศึกษาปอเนาะ โดยทางราชการและคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นไว้ก็จะเข้าไปตรวจสอบดูแลให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 มกราคม 2548--จบ--
1. การดำเนินงาน
1.1 ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อวางยุทธศาสตร์ พัฒนาสถาบันศึกษาปอเนาะ คือ ด้านพัฒนาระบบโครงสร้างและพัฒนาทางกายภาพ ด้านพัฒนาหลักสูตร ด้านพัฒนาบุคลากร จัดตั้งศูนย์อำนวยการเพื่อเป็นหน่วยประสานงานตลอดจนจัดตั้งสถาบันศึกษาปอเนาะต้นแบบ จังหวัดละ 1 แห่ง รวม 3 แห่ง
1.2 จัดตั้งคณะกรรมการจากผู้รู้ในท้องถิ่น และผู้เกี่ยวข้อง 4 คณะ ประกอบด้วย คณะกรรมการระบบโครงสร้างและพัฒนาทางกายภาพ คณะกรรมการประมวลผลการใช้หลักสูตรในสถาบันศึกษาปอเนาะ คณะกรรมการดำเนินการแบบบูรณาการหลักสูตรอิสลามศึกษา พุทธศักราช 2546 กับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 และคณะกรรมการพัฒนาบุคลากร
1.3 จัดสรรงบอุดหนุนทางราชการให้สถาบันศึกษาปอเนาะ จำนวน 255 แห่ง รวมงบประมาณจำนวนหนึ่งร้อยล้านบาท โดยการจัดสรรงบประมาณเพื่อปรับปรุงทางด้านกายภาพของสถาบันศึกษาปอเนาะแต่ละแห่งตามความเป็นจริง และในการปรับปรุงเน้นการใช้แรงงานในท้องถิ่นเป็นหลัก
1.4 ดำเนินการจัดทำหลักสูตร โดยประมวลหลักสูตรสถาบันศึกษาปอเนาะให้เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 7 มกราคม 2548 และบูรณาการหลักสูตรอิสลามศึกษา พ.ศ. 2546 กับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 31 มีนาคม 2548 การดำเนินการจัดทำหลักสูตรดังกล่าวได้รับความเห็นชอบและความร่วมมือจากโต๊ะครู และผู้รู้ในท้องถิ่นเป็นอย่างดี
1.5 ดำเนินการจัดตั้งศูนย์อำนวยการ และติดตาม ดูแลประจำเขตตรวจราชการที่ 12 จังหวัดยะลา แต่งตั้งผู้รับผิดชอบเพื่อทำหน้าที่แทนกระทรวงศึกษาธิการ ในการประสานการดำเนินงานให้เกิดความเป็นเอกภาพ รวมทั้งมีอำนาจตัดสินใจสั่งการ และประสานการปฏิบัติงานกับองค์กรหลักในพื้นที่
1.6 การพัฒนาบุคลากรเพื่อให้มีการเทียบวุฒิและเพิ่มวุฒิ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาและสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียนร่วมกันดำเนินงานเพื่อให้ครูได้มีวุฒิทางสายสามัญระดับปริญญาตรีและประกาศนียบัตรชั้นสูง (ป.บัณฑิต)
2. สิ่งที่จะต้องดำเนินงานต่อไป
2.1 ทบทวนและกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับเงินอุดหนุนค่าเบี้ยเสี่ยงภัยของครูโรงเรียนเอกชนสอนอิสลาม และสถาบันศึกษาปอเนาะ
2.2 กำหนดกฎระเบียบและแนวปฏิบัติเพื่อพัฒนาเด็กที่เรียนอยู่ในสถาบันศึกษาปอเนาะ ซึ่งยังไม่จบการศึกษาภาคบังคับและอายุไม่ครบ 15 ปี ได้เรียนต่อสายอาชีพและสายสามัญ
2.3 สำรวจข้อมูลในด้านความต้องการของชุมชนและสถาบันศึกษาปอเนาะเกี่ยวกับประเภทของอาชีพ และดำเนินการช่วยเหลือให้มีการจัดการเรียนรู้วิชาชีพที่เหมาะสมกับชุมชนในสถาบันศึกษาปอเนาะ
2.4 กำหนดแนวปฏิบัติการช่วยเหลือด้านการประกอบอาชีพของผู้ที่จบการศึกษาจากสถานศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ยังไม่มีงานทำที่เกิดประโยชน์ โดยจะหาแหล่งทำงานหรือจัดระบบเงินลงทุนให้ เป็นต้น
3. ผลการดำเนินงาน ในการดำเนินงานดังกล่าว ปัจจุบันสำคัญคือ ความร่วมมือของบรรดาโต๊ะครู ผู้ช่วยโต๊ะครู ในสถาบันศึกษาปอเนาะทั้งหมดซึ่งสมัครใจเข้ามามีส่วนร่วม ทุกคนที่มาร่วมประชุมมีความเห็นที่ตรงกันในวิธีการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่สำคัญประการหนึ่งก็คือ เรื่องการพัฒนาการเรียนการสอนในสถาบันศึกษาปอเนาะ ซึ่งเปรียบเสมือนรากฐานของวิถีชีวิตที่จะสร้างความเจริญก้าวหน้าอย่างมีคุณค่าให้กับเยาวชน โดยมีหลักศาสนาเป็นแนวนำขณะนี้ทุกคนมีบทบาทสำคัญในการทำงานที่จะกำหนดยุทธวิธีในการสร้างหลักสูตรที่เต็มรูปแบบของสถาบันศึกษาปอเนาะ ซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อนในขณะเดียวกันในหลักสูตรก็จะผนวกเรื่องการฝึกอาชีพ การเรียนรู้ภาษาไทย การเรียนรู้วิชาการที่ทันสมัย (IT) รวมเข้าเป็นภาคผนวกในหลักสูตรสถาบันศึกษาปอเนาะ
สำหรับเรื่องการพัฒนาทางกายภาพของสถาบันศึกษาปอเนาะ คณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยโต๊ะครู และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ออกไปตรวจสอบสถานที่จริงด้วยตนเอง เพื่อวางแผนดำเนินงาน ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานของการรับผิดชอบที่ต้องดำเนินงานในลำดับต่อไป ในส่วนของงบประมาณทางคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่จะต้องใช้งบประมาณด้วยความโปร่งใส โดยกำหนดให้มีบุคคลที่เกี่ยวข้องของท้องถิ่นนั้น ๆ เข้ามามีส่วนร่วมดำเนินการทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรและอาคารสถานที่ เพื่อให้สถาบันศึกษาปอเนาะสามารถดูแลตนเองได้อย่างดีต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นผลได้ตามมาในภายภาคหน้าก็คือ การติดตาม ดูแลครู และนักเรียนในสถาบันศึกษาปอเนาะ โดยทางราชการและคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นไว้ก็จะเข้าไปตรวจสอบดูแลให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 มกราคม 2548--จบ--