หมวดที่ 8 ศาลส่วนที่ 1 บททั่วไป ร่างของสภาร่างรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญหรือกฏหมายปัจจุบัน - องค์คณะของศาลคงที่ตายตัวและห้ามผู้บริหาร - ไม่มีกฎเกณฑ์เกี่ยวกับองค์คณะของ ศาล ที่มิได้เป็นองค์คณะมาแต่ตันลงไปร่วม ผู้พิพากษาดังนั้นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล พิจารณา หรือทำคำพิพากษา หรืออธิบดีศาลอาจลงชื่อในคำพิพากษา แทน โดยไม่มีส่วนในการพิจารณาคดีนั้น ด้วยตนเองเลย - หมายจับบุคคลจะออกได้ต่อเมื่อมีหลักฐาน - หมายจับออกโดยการอนุมัติของผู้ว่า พอควรและมีเหตุเชื่อว่าจะหลบหนี รบกวน ราชการ จังหวัดหรือผู้ตรวจราชการ พยานหลักฐานหรือก่อเหตุอันตรายอื่น ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน จะต้องมีคำสั่งหรือหมายจากศาล ฝ่ายปกครอง - ผู้ต้องหาในคดีอาญามีสิทธิ์ขอให้ทนายความ - รัฐให้ความช่วยเหลือด้วยการหาทนาย เข้าฟังการสอบคำให้การของตน ให้ในคดีอาญา ในขั้นศาลเท่านั้น - เจ้าพนักงานมีอำนาจคุมขังได้เพียง 48 - เจ้าพนักงานจับกุมคุมขังได้ไม่เกิน ชั่วโมงก่อนจะนำตัวไปขอหมายขังจากศาล 72 ชั่วโมงและให้ส่งฟ้องโดยเร็ว - ผู้เสียหายหรือผู้ต้องหามีสิทธิ์ขอถ่ายสำเนา - มีสิทธิ์จะได้รับการสอบสวนหรือการ สำนวนคำให้การในการสอบสวน พิจารณาคดีโดยเร็ว - พยานในคดีอาญามีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครอง - ไม่มีระบุ และค่าตอบแทนที่จำเป็นและเหมาะสมจากรัฐ - ผู้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกายหรือจิตใจ - ไม่มีระบุ จากการกระทำผิดอาญาของผู้อื่น บุคคลนั้นหรือ ทายาทมีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยจากรัฐ - ผู้รับโทษอาญาโดยคำพิพากษาถึงที่สุดมีสิทธิ์ - ผู้รับโทษอาญาโดยคำพิพากษาถึงที่สุด ร้องขอให้รื้อฟื้นคดี หากปรากฏว่าพ้นผิดบุคคล หากมีการรื้อฟื้นคดีและปรากฎว่าพ้นผิด นั้นหรือทายาทมีสิทธิ์ได้รับค่าทดแทนจากรัฐ - ผู้เป็นจำเลยในคดีอาญา และถูกคุมขังระหว่าง - ไม่มีระบุ พิจารณาคดี หากพ้นผิดตามคำพิพากษาถึงที่สุด มิสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยจากรัฐ - การจ่ายสำนวนต้องมีกฎเกณฑ์ที่โปร่งใส และ - ไม่มีกฎเกณฑ์เป็นลายลักษณ์อักษรเป็น ห้ามเรียกคืนหรือโอนสำนวนที่จ่ายแล้วเว้นแต่ ดุลยพินิจของหัวหน้าศาลและอธิบดีศาล จะมีเหตุอันสมควรที่จะกระทบกระเทือนต่อ ที่จะจ่ายสำนวนให้ผู้ใด ความยุติธรรมในการพิจารณาอรรถคดี - การเพิกถอนอำนาจพิพากษาของผู้พิพากษา - อำนาจการโยกย้ายขึ้นกับดุลยพินิจของ และการโยกย้ายผู้พิพากษาระหว่างพิพากษา ของ ก.ต. พิจารณาคดีใดคดีหนึ่ง โดยไม่ได้รับความ ยินยอมจากผู้พิพากษาจะกระทำมิได้ - ผู้พิพากษาเป็นอิสระจากสายบังคับบัญชาและ - ไม่มีระบุ แต่ทางปฎิบัติสายบังคับบัญชา มีระบบบัญชีเงินเดือนต่างหากจากบัญชีเงิน และระบบเงินเดือนอาจมีผลกระทบต่อ เดือนของข้าราชการพลเรือน ความเป็นอิสระของผู้พิพากษา - บุคคลจะดำรงตำแหน่ง ก.ต.ของศาลมาก - ไม่มีระบุ กว่า 1 ศาลไม่ได้ หลักการที่ตัดออกจากร่างของกรรมาธิการยกร่างฯ - ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดเกี่ยวกับ - แต่ละศาลพิจารณาตามเขตอำนาจที่ ปัญหาขัดแย้งของเขตอำนาจศาลอื่นๆ กฎหมายกำหนด ส่วนที่ 2 ศาลรัฐธรรมนูญ - เป็นองค์การทางศาลที่เป็นอิสระ - คณะตุลาการรัฐธรรมนูญเป็นองค์กร ทางการเมือง - มีประธาน 1 คน และตุลาการ 14 คน - ประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภา คัดเลือกจากการสรรหาของที่ประชุมใหญ่ ประธานศาลฎีกา อัยการสูงสุดเป็นโดย ศาลฎีกาลงคะแนนลับเลือกผู้พิพากษาศาล ตำแหน่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทาง ฎีกา 5 คน ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูง กฎหมาย มาจากคัดเลือกของสภาละ 3 สุดลงคะแนนลับ เลือกตุลาการในศาล คนรวม 10 คน ปกครองสูงสุด 2 คน ประธานศาลฎีกา คณะบดีนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ในสถาบัน อุดมศึกษาของรัฐ อย่างละ 4 คน เป็น กรรมการ ร่วมเสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิสาขา นิติศาสตร์ 10 คน ผู้ทรงคุณวุฒิสาขา รัฐศาสตร์ 6 คน แล้วให้ที่ประชุมวุฒิสภา คัดเลือกเหลือ 5 คนและ 3 คนตามลำดับ - ห้ามเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือดำรง - ห้ามเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ยกเว้น ตำแหน่งในพรรคการเมืองอย่างน้อย 3 ปี ประธานรัฐสภาที่เป็นโดยตำแหน่ง ก่อนดำรงตำแหน่ง - ห้ามเป็นหรือต้องลาออกจากการเป็น - ไม่ห้ามการเป็นลูกจ้างหรือมีตำแหน่งใน ข้าราชการประจำ พนักงานลูกจ้างของรัฐ บริษัทเอกชน หรือประกอบอาชีพอิสระ รัฐวิสาหกิจ ดำรงตำแหน่งหรือเป็นลูกจ้าง ในบริษัทเอกชนที่มุ่งกำไรหรือประกอบอาชีพ อิสระใดๆ - ถอดถอนโดยมติ 3 ใน 5 ของสมาชิกวุฒิสภา - ไม่มีระบุ - อายุ 45 ปีขึ้นไป วาระดำรงตำแหน่ง 9 ปี - ไม่กำหนดอายุ วาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี - ดำรงตำแหน่งได้สมัยเดียว - กลับดำรงตำแหน่งได้อีกเมื่อหมดวาระ - มีอำนาจวินิจฉัยร่าง พรบ.ที่ ส.ส. สว. 1 - มีอำนาจวินิจฉัยร่าง พรบ.ที่ ส.ส. สว. ใน 10 หรือ นายกรัฐมนตรีเห็นว่าขัดแย้งต่อ 1 ใน 5 หรือนายกรัฐมนตรีเห็นว่าขัด รัฐธรรมนูญและร่าง พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ แย้งต่อรัฐธรรมนูญ แล้วให้ข้อความที่ ที่ ส.ส.หรือ สว.20 คน หรือนายกรัฐมนตรี ขัดแย้งนั้นตกไป เห็นว่าขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ แล้วให้ข้อความ ที่ขัดแย้งนั้นตกไปหลัการที่ตัดออกจากร่างของกรรมาธิการยกร่างฯ - ให้อำนาจวินิจฉัยสั่งให้บุคคลหรือพรรคการ - ไม่มีระบุ เมืองยุติการกระทำที่เป็นปฎิปักษ์ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และรัฐธรรมนูญ และสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นตามที่อัยการสูง สุดร้องขอ หรือสั่งเพิกถอนสิทธ์ขั้นพื้นฐาน ของบุคคลนั้นตามที่เห็นควรส่วนที่ 3 ศาลยุติธรรม - ให้ศาลและหน่วยงานธุรการของศาลเป็น - ศาลและหน่วยงานธุรการของศาลขึ้นกับ หน่วยงานอิสระขึ้นกับประธานศาลฎีกา กระทรวงยุติธรรม - ให้ ก.ต.มีบุคคลภายนอกที่ไม่เคยเป็น - ก.ต. ประกอบ้วยผู้เป็นตุลาการเท่านั้น ข้าราชการตุลาการที่วุฒิสภาแต่งตั้งเป็น กรรมการ 2 คน - ให้มีแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาง - ความผิดของผู้ดำรงตำแหน่งทางการ การเมือง มีองค์คณะประกอบด้วยผู้พิพากษา เมืองใช้กระบวนยุติธรรมผ่านศาล ในศาลฎีกา 9 คนเฉพาะในแต่ละคดี มีเขต อาญาตามกระบวนการปรกติ อำนาจศาลเฉพาะกรณีทุจริตร่ำรวยผิดปรกติ ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้นและ ให้ผลการวินิจฉัยเป็นที่ยุติในชั้นเดียวหลักการที่ตัดออกจากร่างของกรรมาธิการยกร่างฯ- ให้ศาลฎีกาพิพากษาคดีเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย - ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาวินิจฉัย เท่านั้น ปัญาหาข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น และอุทธรณ์ ส่วนที่ 4 ศาลปกครอง - เป็นระบบศาลคู่ที่มีหน่วยธุรการเป็นอิสระจาก - ให้มีศาลปกครองอยู่ในระบบศาลคู่ ฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ ขึ้นตรงต่อ แต่รอกฎหมายที่ตามมาเพื่อกำหนด ประธานศาลปกครองสูงสุด สถานะหน้าที่ - มีอำนาจพิจารษข้อพิพาทระหว่างหน่วยราชการ - ยังไม่มีกฎหมายรองรับโครงสร้างและ รัฐวิสาหกิจหรือเจ้าหน้าที่รัฐกับเอกชน หรือ อำนาจหน้าที่ ระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกัน - คณะกรรมการตุลาการศาลปกครองเป็นผู้แต่งตั้ง - ศาลและหน่วยงานธุรการของศาลขึ้นกับ ถอดถอนตุลาการศาลปกครอง กระทรวงยุติธรรม - คณะกรรมการตุลาการศาลปกครองประกอบด้วย - ห้ามเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ยกเว้น ประธานศาลปกครองสูงสุดเป็นประธาน และ ประธานรัฐสภาที่เป็นโดยตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองที่คัดเลือกกันเอง 9 คน เป็นกรรมการ และกรรมการผู้ทรงวุฒิ 3 คน ที่มาจากการคัดเลือกของวุฒิสภา 2 คน จาก คณะรัฐมนตรี 1 คนส่วนที่ 5 ศาลทหาร - เป็นไปตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์