คปภ. เตือนผู้ทำประกันภัย ทำความเข้าใจขอบเขตความคุ้มครองให้ถี่ถ้วน

ข่าวทั่วไป Tuesday October 17, 2017 15:14 —คปภ.

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่าจากกรณีนางสาวสมส่วน วุฒิเกรียงไกร ข้าราชการครู โรงเรียนบ้านทุ่งโพธิ์ ตำบลชุมแสง อำเภอนางรองจังหวัดบุรีรัมย์ ประสบอุบัติเหตุจากการขับขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักตกข้างทาง จนเป็นเหตุให้ทุพพลภาพถาวร ซึ่งผู้ประสบภัยได้ทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองสินเชื่อจากการฉัน้เงินกับธนาคารออมสิน เมื่อปี 2555 และยังไม่ได้รับเงินตามสัญญาประกันภัยจนธนาคารฯ ได้มีการหักเงินจากผู้ค้ำประกันเพื่อชำระหนี้ ซึ่งเป็นข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจ

ทั้งนี้จากการติดตามและประสานงานอย่างใกล้ชิดของ สำนักงาน คปภ. ส่วนกลาง และสำนักงาน คปภ. จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่านางสาวสมส่วน วุฒิเกรียงไกร ได้เข้าร่วมโครงการฉัน้เงิน ช.พ.ค. โครงการ 6 กับธนาคารออมสิน สาขานางรอง จำนวนเงิน 1,200,000 บาท และได้มีการทำประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ “สินเชื่อปลอดภัย” ไว้กับ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) จำนวน 2 กรมธรรม์ คือ ใบรับรองประกันภัยเลขที่ 14001-269-111054400 กรมธรรม์เลขที่ PAMPX00015 ระยะเวลาคุ้มครอง วันที่ 27 พฤษภาคม 2554 สิ้นสุดวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 จำนวนเงินเอาประกันภัย 200,000 บาท และใบรับรองประกันภัยเลขที่ 14001-262-110182513 กรมธรรม์เลขที่ PAMTW000010 ระยะเวลาคุ้มครอง วันที่ 18 มกราคม 2554 สิ้นสุดวันที่ 18 มกราคม 2563 จำนวนเงินเอาประกันภัย 1,200,000 บาท ซึ่งทั้ง 2 กรมธรรม์ให้ความคุ้มครองความสูญเสียในกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตาหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงจากอุบัติเหตุ หรือการสูญเสียอวัยวะ สายตาหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงจากการเจ็บป่วย หรือการเจ็บป่วยด้วยภาวะโรคร้ายแรง

ดร.สุทธิพล กล่าวเพิ่มเติมว่าจากกรณีดังกล่าว ตนได้สั่งการไปยังสำนักงาน คปภ. จังหวัดบุรีรัมย์ให้ดำเนินการประสานบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย พร้อมกันนี้ยังได้ประสานไปยังบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่อสอบถามรายละเอียด ทราบว่าทายาทผู้ประสบภัยไม่ทราบว่ากรมธรรม์ดังกล่าวให้ความคุ้มครองการสูญเสียอวัยวะและทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงด้วย จึงไม่ได้ติดต่อขอรับค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทฯ ซึ่งภายหลังบริษัทฯ ได้รับเอกสารหลักฐานการขอรับค่าสินไหมทดแทนแล้วได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและจ่ายเงินให้กับธนาคารออมสิน สาขานางรอง เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2560 และจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ทายาทผู้เอาประกันภัยเรียบร้อยแล้ว ส่วนความล่าช้าที่เกิดขึ้นนั้น เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาแล้วถึง 5 ปี จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำหรับรายละเอียดความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับประกอบด้วย 1. กรมธรรม์เลขที่ PAMPX00015 จ่ายให้กับธนาคารออมสิน จำนวน 47,531.32 บาท และจ่ายให้กับผู้เอาประกันภัยจำนวน 152,468.68 บาท 2. กรมธรรม์เลขที่ PAMTW000010 จ่ายให้กับธนาคารออมสิน จำนวน 1,100,875.90 บาท และจ่ายให้กับผู้เอาประกันภัย จำนวน 99,124.10 บาท

“การเกิดอุบัติเหตุนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ ถึงแม้ว่าจะมีความระมัดระวังในระดับหนึ่งแล้วก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนนี้อาจมีฝนตกหนักทำให้ถนนลื่น จึงมักเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง ดังนั้นประชาชนจึงควรให้ความสำคัญในการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องใช้รถใช้ถนนแล้วควรทำประกันภัยรถภาคบังคับ และหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุอย่างสม่ำเสมอ และฝากเตือนประชาชนรวมถึงผู้เอาประกันภัยให้ศึกษารายละเอียดความคุ้มครองของกรมธรรม์ให้ถี่ถ้วน อีกทั้งยังควรอธิบายให้ทายาทได้รับทราบแบบกรมธรรม์และรายละเอียดความคุ้มครองด้วย เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับความคุ้มครองอย่างครบถ้วน ถูกต้องและเป็นธรรม หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องประกันภัยสามารถติดต่อมาที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ