สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)ได้หารือกับสมาคมประกันวินาศภัย ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง คปภ. และตัวแทนจากบริษัทประกันภัย ศึกษาปรับปรุงอัตราเบี้ยประกันภัยและความคุ้มครองการประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 รวมถึงปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อลดรายจ่าย เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการของบริษัทประกันภัย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แจ้งให้ทราบถึงความร่วมมือระหว่าง คปภ. และสมาคมประกันวินาศภัย ในการดำเนินการปรับลดอัตราเบี้ยประกันภัยและจำนวนเงินความคุ้มครองที่ผู้ประสบภัยจากรถจะได้รับการชดใช้จากการประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ทั้งนี้ การปรับปรุงอัตราเบี้ยประกันภัยและความคุ้มครอง คปภ.(กรมการประกันภัยเดิม)ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตลอดทุกๆ 3 ปี โดยครั้งสุดท้ายดำเนินการเมื่อประมาณปลายปี 2547
“ตลอดปีที่ผ่านมา คปภ. ได้ดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาระบบต่างๆของการประกันภัยรถตาม พ.ร.บ.ฯที่เป็นประโยชน์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและให้เกิดความรวดเร็วในการบริการประชาชน อาทิเช่น การพัฒนาระบบการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นสำหรับการประกันภัยรถตาม พ.ร.บ. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือเรียกว่า “ระบบสินไหมทดแทนอัตโนมัติ (E-Claim System)” โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการขอรับค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยและการขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย การสร้างระบบการรับส่งข้อมูลการรับประกันภัยรถตาม พ.ร.บ.ฯ ในรูปแบบ Real Time คือให้บริษัทประกันภัยส่งข้อมูลการประกันภัยรถตาม พ.ร.บ.ฯ ทันทีหลังจากที่มีการรับประกันภัย ซึ่งการนำส่งข้อมูลการรับประกันภัยระบบนี้เป็นการนำส่งข้อมูลผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเมื่อระบบนี้ได้พัฒนาเต็มรูปแบบจะทำให้ประชาชนและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้รับประโยชน์อย่างมาก สามารถตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัยรถ ระยะเวลาการประกันภัยสิ้นสุด ทั้งนี้ ระบบนี้ยังสามารถพัฒนาให้สามารถช่วยการดำเนินงานรับประกันภัยรถของบริษัทประกันภัยมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เป็นต้น
นอกจากนั้น เพื่อให้การปรับปรุงเพื่อลดอัตราเบี้ยประกันภัยและความคุ้มครองการประกันภัยรถครั้งนี้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงได้มอบนโยบายให้คณะทำงานศึกษาผลกระทบต่างๆที่จะเกิดขึ้นด้วย”
ที่มา: http://www.oic.or.th