ด้วย สคร ณ กรุงเฮก ได้พบหารือกับผู้บริหารบริษัท BENEO - Remy ณ เมืองเลอเวน ประเทศเบลเยียม ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำเข้าสินค้าข้าวรายใหญ่ เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๔ โดยมีสาระสรุปได้ ดังนี้
๑. ผู้บริหารของบริษัทได้แก่ Mr. Marc Jacobs (Managing Director) และ Mr. Kristof Pittery (Purchase Manager)
๒. การดำเนินธุรกิจบริษัท BENEO - Remy
๒.๑ บริษัทเป็นผู้นำเข้าสินค้าข้าวหลายประเภท ได้แก่ ข้าวสารขาวเม็ดยาว (Long Grain) ข้าวเหนียว (Sticky Rice) โดยมีข้าวเมล็ดหัก (Broken rice) เป็นสินค้าหลักที่นำเข้า ทั้งนี้บริษัทจะทำการสกัดเพื่อคัดแยกน้ำตาล (Starch) และไฟเบอร์ (Fiber) เพื่อใช้ในการผลิตวัตถุดิบขั้นกลาง (Intermediate raw material) เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารขนาดใหญ่ เช่น Nestl Danone และ Kraft
๒.๒ บริษัทนำเข้าข้าวหักจากไทยสูงสุด รองลงมาคือ เวียดนาม อียิปต์ กัมพูชา ส่วนลาวและอินเดียจะเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการนำเข้าในอนาคต ส่วนพม่าก็เป็นประเทศที่บริษัทกำลังติดตามใกล้ชิด
๓. แนวทางการซื้อสินค้าของบริษัท ได้แก่ ต้องเป็นข้าวที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม (GMO FREE) ต้องเป็นข้าวประเภท Gluten Free ปราศจากสารเคมีตกค้าง ไม่ใช้แรงงานเด็ก (Child Labor) และต้องมีใบรับรองในเรื่อง Carbon Footprint โดยบริษัทจะตรวจสอบสินค้าอย่างละเอียดก่อนการขนส่ง
๔. สถานการณ์ปัญหาข้าวไทยในปัจจุบัน
๔.๑ อัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้น ในช่วงที่ผ่านมาราคาข้าวไทยผันผวนเป็นอย่างมาก มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เป็นผลจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ประกอบกับผลผลิตต่อไร่ต่ำ (Production Yield) ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยของไทยมีราคาสูงเมื่อเทียบกับสินค้าประเภทเดียวกันจากประเทศคู่แข่งอื่นๆ ในภูมิภาค เช่น เวียดนามที่มีราคาต่ำกว่ามากและคุณภาพดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลผลิตข้าวต่อหน่วยพื้นที่สูงและมีผลผลิตสม่ำเสมอ ดังนั้นในส่วนของไทยจึงเป็นเรื่องของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต้องปรับปรุงเรื่องราคาและผลผลิตโดยเร่งด่วน มิฉะนั้นในอนาคตบริษัทอาจจำเป็นต้องนำเข้าจากเวียดนามมากกว่าไทย
๔.๒ นโยบายประกันราคาข้าวของรัฐบาลไทยในปัจจุบันนี้ บริษัทเห็นว่าเป็นวิธีที่ทำให้ราคามีการเบี่ยงเบน (Price distortion) มีผลกระทบต่อราคาขายในตลาดซึ่งไม่เป็นไปตามหลักการค้าเสรี ทั้งนี้ สคร ณ กรุงเฮก ได้แจ้งว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ใช้แพร่หลายในหลายประเทศ รวมถึงเป็นระบบเดียวกับสหภาพยุโรปที่ใช้ในปัจจุบัน
๔.๓ บริษัทเห็นว่าเกษตรกรควรพิจารณารวมตัวในลักษณะสหกรณ์ (Co-Operative) ซึ่งประสบผลสำเร็จในยุโรปทั้งในเรื่องการพัฒนาคุณภาพสินค้าและการกระจายรายได้ซึ่งทำให้ผู้นำเข้าสามารถติดต่อผ่านสหกรณ์ชาวนาไทยได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านนายหน้าคนกลาง
๔.๔ วิธีการเก็บรักษาข้าวมีความสำคัญ ซึ่งเกษตรกรควรจะต้องมีพาหนะขนส่งข้าวที่มีความเหมาะสม มิฉะนั้นจะมีปัญหาด้านสุขอนามัยและคุณภาพของข้าว ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องควรหาวิธีการจัดการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าในปัจจุบัน
๔.๕ ในกรณี AFTA (ASEAN Free Trade Agreement) จะมีประโยชน์หากสินค้าข้าวเป็นสินค้าที่อยู่ในความตกลงเพื่อลดภาษี
Beneo Remy
Contact Person: Kristof Pittery (Purchase Manager)
Remylaan 4
3018 Leuven-Wijgmaal
Belgium
T: +32 16 24 85 56
F: +32 16 44 01 44
ที่มา: http://www.depthai.go.th