Country Profile ประเทศเวียดนาม

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 10, 2011 13:35 —กรมส่งเสริมการส่งออก

1. ข้อมูลพื้นฐานทั่วไป

    ชื่อประเทศ                      สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (  Socialist  Republic  of Vietnam )
    สภาพภูมิศาสตร์                    -  เป็นประเทศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้มีพื้นที่  331,051  ตารางกิโลเมตร 1 /

ความหนาแน่นของประชากรเป็น 260 ตารางกิโลเมตรต่อคน เพราะภูมิประเทศ

สามในสี่ของประเทศเป็นภูเขาและหุบเขา

  • มีพรมแดนติดประเทศกัมพูชา ลาวและจีน
  • มีพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญสองแห่งคือที่ราบลุ่มปากแม่น้ำแดง (Red River Delta)

ทางภาคเหนือ และที่ราบลุ่มปากแม่น้ำโขง ( Mekong River Delta ) ทางภาคใต้

    สภาพภูมิอากาศ                   เป็นเขตมรสุมฤดูร้อน แต่มีความแตกต่างด้านภูมิอากาศอย่างมากระหว่าง

เวียดนามภาคเหนือและภาคใต้

  • เวียดนามทางตอนใต้ มีภูมิอากาศคล้ายแถบเส้นศูนย์สูตร มีอุณหภูมิเฉลี่ย

คล้ายประเทศไทยคือประมาณ 27 — 30 c และมี 2 ฤดู คือ

ฤดูฝน ( พค. — ตค. ) และฤดูร้อน ( พย. — เมย. )

  • เวียดนามทางตอนเหนือ มีภูมิอากาศคล้ายเขตเมืองร้อน มีอุณหภูมิแตกต่างกัน

อย่างมากระหว่างช่วงร้อนที่สุดและหนาวที่สุด โดยมี 4 ฤดู คือ

ฤดูใบไม้ผลิ ( มีค. — เมย. ) อุณหภูมิระหว่าง 17- 23 c

ฤดูร้อน ( พค. — สค. ) อุณหภูมิระหว่าง 30 - 39 c

ฤดูใบไม้ร่วง ( กย. — พย. ) อุณหภูมิระหว่าง 23 - 28 c

ฤดูหนาว ( ธค. — กพ. ) อุณหภูมิระหว่าง 7 - 16 c

    การปกครอง                      - มี  59  จังหวัด และ 5  นคร ( กรุงฮานอย นครไฮฟอง นครดานัง นครโฮจิมินห์

และนครเกิ่นเทอ ) แบ่งเป็น 8 ภาค คือ

ภาคเหนือฝั่งตะวันออก มี 4 จังหวัด มีชายแดนติดลาวและจีน

ภาคเหนือฝั่งตะวันตก มี 11 จังหวัด

ที่ราบลุ่มแม่น้ำแดง มี 9 จังหวัด และ 2 นคร คือกรุงฮานอยที่เป็นเมืองหลวงและนคร

ไฮฟองที่เป็นเมืองท่า

เขตชายฝั่งทะเลภาคกลางทางตอนเหนือ มี 6 จังหวัด ซึ่งทุกจังหวัดติดลาว

เขตชายฝั่งทะเลภาคกลางทางตอนใต้ มี 5 จังหวัดและ 1 นคร คือนครดานัง

เขตที่ราบสูงภาคกลาง มี 5 จังหวัด พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ชนกลุ่มน้อย

ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตนี้

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มี 7 จังหวัด และ 1 นครคือนครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้า

ของประเทศ

ที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง มี 12 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก และ 1 นครคือ

นครเกิ่นเทอ มีชายแดนติดกัมพูชาเวียดนาม

  • แต่ละจังหวัดจะปกครองโดยสภาประชาชน ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากประชาชน

สภาประชาชนจะแต่งตั้งคณะกรรมการประชาชนเพื่อทำหน้าที่บริหารจังหวัด

จังหวัดยังคงอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลกลาง ส่วนนครจะมีอิสระในการปกครอง

ตนเองมากกว่า

     เมืองหลวง                          กรุงฮานอย ประชากร ( เฉพาะที่จดทะเบียน) ประมาณ 6.5  ล้านคน ( สถิติ

เมื่อเดือนเมษายน 2552 )

     เมืองสำคัญ                          นครโฮจิมินห์ ประชากร ( เฉพาะที่จดทะเบียน) ประมาณ 7.2  ล้านคน ( สถิติ

เมื่อเดือนเมษายน 2552 ) แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว นครโฮจิมินห์มีประชากรซึ่ง

เป็นผู้ใช้แรงงานจากพื้นที่ชนบทอพยพเข้ามาเป็นจำนวนมากโดยไม่ลงทะเบียน

แจ้ง นอกจากนี้ นครโฮจิมินห์อยู่ใกล้เขตนิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญในจังหวัด

บินห์เยือง ด่องไน และลองอาน ซึ่งเชื่อว่าจังหวัดเหล่านี้ได้ช่วยรองรับแรงงาน

บางส่วนที่ทะลักออกไปจากนครโฮจิมินห์ด้วย

      ระบบการปกครอง                    ระบบสังคมนิยม  มีพรรคเดียวคือพรรคคอมมิวนิสต์ แห่งเวียดนาม

ประธานพรรคคือนาย เหวียน ฝู๊ จ่อม ( Nguyen Phu Trong ) ซึ่งทำหน้าที่

เป็นประธานสภาแห่งชาติ ( National Assembly ) ด้วย

ประธานาธิบดี ( ผู้นำประเทศ ) คือ นายเหวียน มินห์ เจี๊ยต ( Nguyen Minh

Triet)

นายกรัฐมนตรี (ผู้นำรัฐบาล) คือ นายเหวียน ตั๊น หยุม (Nguyen Tan Dung)

        ภาษาราชการ                     ภาษาเวียดนาม  ส่วนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศที่มีการใช้ควบคู่กับ

ภาษาเวียดนามในเอกสารทางกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าต่างชาติและ

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ รวมทั้งในเวบไซด์ของหน่วยงานธุรกิจ

และภาครัฐ

        สกุลเงิน                         ด่ง ( Dong)  ,  20,905 ด่ง  = US$ 1  ( ณ วันที่  4  เมษายน 2554 )
        ประชากร                         -  ประมาณ 87.3 ล้านคน ( ปี 2553 ) โดยมีสัดส่วนชาย : หญิง เป็น 50 : 60 %
  • เวียดนามมีประชากรเป็นอันดับสามในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ( รองจาก

อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ) และเป็นอันดับ 13 ของโลก

  • อัตราการเติบโตของประชากรโดยเฉลี่ยจากปี 2542 — 2553 ประมาณปีละ

1.03 ล้านคน หรือ 1.2 % ต่อปี

  • จากสถิติปี 2552 , 65 % ของประชากร ( ประมาณ 55.6 ล้านคน ) มีอายุ

มากกว่า 20 ปี 69 % ของประชากรมีอายุระหว่าง 15 — 64 ปี 24.5 % มี

อายุต่ำกว่า 15 ปี และ 6.4 % มีอายุมากกว่า 64 ปี

  • ประชากรเวียดนามมีอัตราการรู้หนังสือสูงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ใน

ภูมิภาค โดยคาดว่ามีประมาณ 94 % ( สถิติปี 2552 ) ซึ่งเป็นอัตราเดียว

กับประชากรสิงคโปร์

        เวลา                            เท่ากับเวลาในประเทศไทย

วันหยุดนักขัตฤกษ์

                                            วันที่                   จำนวนวันหยุด
 - วันขึ้นปีใหม่                              1 มกราคม                    1 วัน

 - เทศกาลเต๊ด ( Tet )             วันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ                   4 วัน
   หรือวันตรุษเวียดนาม               (Lunar New Year)

ซึ่งแต่ละปีจะไม่ตรงกัน

 - วันปฐมกษัตริย์ ( Hung             วันที่ 10 ของเดือนที่ 3                   1 วัน
    King’s Anniversary )         ทางจันทรคติ  แต่ละปีจะไม่ตรงกัน

30 เมษายน

 - วันฉลองเอกราช 2 /                                                  1 วัน
( Victory Day )

1 พฤษภาคม

 - วันแรงงานแห่งชาติ                                                    1 วัน

2 กันยายน

 - วันชาติ  3 /                                                        1 วัน

2. ข้อมูลทางเศรษฐกิจปี 2553

ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ ( Gross Domestic Products : GDP )

ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ในปี 2553 ของเวียดนามมีมูลค่า 104.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวจากปีที่ผ่านมา 6.78 % ภาคบริการเป็นภาคการผลิตที่มีอัตราขยายตัวสูงสุด รองลงไปคือภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง ส่วนภาคการเกษตรขยายตัวน้อยที่สุดและมีสัดส่วน 21% ของ GDP ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง และภาคบริการมีสัดส่วน 41% และ 38% ของ GDP ตามลำดับ

หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ

           ภาคการผลิต                  2551      2552      2553
 ภาคเกษตรกรรม                       19,401    18,412    20,904
 ภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง           35,207    35,858    41,746
 ภาคบริการ                           33,619    34,842    38,933

การค้าระหว่างไทยกับเวียดนาม ปี 2553

การลงทุนของไทยสะสมในเวียดนามนับตั้งแต่เวียดนามเปิดประเทศในปี 2531 จนถึงปี 2553 มีมูลค่า 5,811 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3 ของมูลค่าFDI ทั้งหมดของเวียดนาม ในปี 2553 ไทยเป็นประเทศที่เข้าไปลงทุนในเวียดนามมากเป็นอันดับที่ 10 และถือเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศในอาเซียนรองจากมาเลเซีย ( 18,344 ล้านเหรียญสหรัฐ ) และสิงคโปร์ ( 21,723 ล้านเหรียญสหรัฐ ) นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนผลิตสินค้าเคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมการเกษตร อาหารสัตว์ สี รองเท้า เครื่องสุขภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ

3. ปัจจัยสำคัญบางประการที่นักลงทุนควรรู้

ต้นทุนการจ้างแรงงาน

เงินเดือน

กฏหมายเวียดนามได้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับลูกจ้างเวียดนามตามพื้นที่การทำงาน ภายใต้กฤษฎีกา( Decree) 98 / 2009 / ND — CP ซึ่งมีผลเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2553 4/ อัตราค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับคนงาน ไร้ฝีมือที่ทำงานในบริษัทต่างชาติภายใต้เงื่อนไขปกติ มีดังนี้

          ค่าจ้างขั้นต่ำ / เดือน                              พื้นที่การทำงาน
1,340,000 ด่ง  (ประมาณ US$ 75 )      เขตในเมืองของกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์
1,190,000 ด่ง  (ประมาณ US& 66 )       - เขตชนบททุกแห่งของนครโฮจิมินห์และเขตชนบทบางแห่งใน

กรุงฮานอย

  • บางเขตในจังหวัดไฮฟอง ดานัง เกิ่นเทอ
  • เมืองฮาลองในจังหวัดกว๋างนินห์ บางเขตในจังหวัดด่องไน

บิ่นห์เยือง บาเรีย-หวุงเต่า

1,040,000 ด่ง  (ประมาณ US& 58)         - เมืองที่เหลือในจังหวัดต่าง ๆ
  • เขตชนบทที่เหลือของกรุงฮานอย
  • บางเขตในจังหวัดไฮฟอง เกิ่นเทอ บัคนินห์ บัคแยง Hung Yen ,

Hai Duong , หวินฟึ๊ก กว๋างนินห์ กว๋างนัม ลัมด่ง คั้นห์ฮัว

เตนินห์ บิ่นห์ฟึ๊ก บิ่นห์เยือง ด่องไน ลองอาน

บาเรีย - หวุงเต่า

1,000,000 ด่ง  (ประมาณ US& 56)        เขตที่เหลือทั้งหมดของประเทศเวียดนาม

4/  นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 เป็นต้นไป ค่าแรงขั้นต่ำที่แบ่งตามพื้นที่จะปรับเป็นเดือนละ 1.55 ล้านด่ง ( ประมาณ US$ 80)
1.35 ล้านด่ง (ประมาณ US$ 69 )  1.17 ล้านด่ง ( ประมาณ US$ 60 )  และ 1.1 ล้านด่ง ( ประมาณ US$ 55 )  ตามลำดับ

กระทรวงแรงงาน ผู้ทุพพลภาพและกิจการสังคมจะพิจารณาปรับระดับค่าจ้างขั้นต่ำเป็นระยะ ๆ โดยพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ลูกจ้างที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรสั้น ๆ แล้ว เงินเดือนขั้นต่ำอย่างน้อยต้องมากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำที่กำหนดไว้ข้างต้น 17% สำหรับแรงงานไร้ฝีมือ

ช่วงทดลองงาน ( probation period ) แรงงานต้องได้รับเงินเดือนอย่างน้อย 70% ของเงินเดือนที่จะได้รับภายหลังสิ้นสุดการทดลองงานแล้ว และช่วงเวลาทดลองงานต้องไม่เกิน 60 วันสำหรับงานที่ต้องการความชำนาญพิเศษหรือทักษะทางเทคนิคขั้นสูง ( ระดับวิทยาลัยหรือสูงกว่า ) ไม่เกิน 30 วันสำหรับงานที่ต้องการทักษะระดับมัธยมศึกษาหรือทักษะของช่างเทคนิค และ 6 วันสำหรับงานอื่น ๆ

เงินประกันสังคม

ต้นทุนค่าแรงงานที่ไม่ใช่ค่าจ้างในเวียดนามค่อนข้างสูงในภูมิภาคเอเซีย นายจ้างต้องส่งเงินสมทบค่าประกันสังคมและสุขภาพให้ลูกจ้างเวียดนามทุกคนที่อยู่ภายใต้สัญญาจ้างงานตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปและนายจ้างต้องส่งเงินสมทบเข้าโครงการประกันการว่างงานเมื่อมีการจ้างคนงานตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป

เงินเดือนสูงสุดซึ่งจะนำมาใช้ฐานสำหรับเบี้ยประกัน ( ผลประโยชน์ ) จะไม่เกิน 20 เท่าของเงินเดือนขั้นต่ำที่รัฐบาลประกาศในแต่ละช่วง ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2553 เงินเดือนขั้นต่ำดังกล่าวเป็น 650,000 ด่ง ( ประมาณ US$ 36 ) ต่อเดือน

การมีส่วนร่วมของการประกันสังคม

( มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2553 )

             -1      -2      -3     รวม
  นายจ้าง     16%       3%    1%       20%
   ลูกจ้าง      6%    1.50%    1%     8.50%
    รวม      22%    4.50%    2%    28.50%

(1) เงินประกันสังคม นายจ้างต้องส่งเงินสมทบ 15% ของเงินเดือนลูกจ้างในกองทุนประกันสังคม นับตั้งแต่ปี 2553 การส่งเงินสมทบจะเพิ่มขึ้น 1% ทุก ๆ 2 ปี จนกว่าการจ่ายเงินจะเป็น 18% ส่วนลูกจ้างซึ่งเดิมที่ผ่านมา ส่งเงินสมทบ 5% ของเงินเดือนพื้นฐษนแต่ละคน แต่ในปี 2553 การส่งเงินสมทบจะเพิ่มขึ้น 1% ทุก ๆ 2 ปีจนกว่าจะถึง 8%

(2) การประกันสุขภาพ ภายใต้โครงการประกันสุขภาพซึ่งมีผลมาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2552 การส่งเงินสมทบสูงสุดจะเป็น 6% ของเงินเดือนพื้นฐาน ซึ่งนายจ้างและลูกจ้างมีส่วนร่วม 2/3 และ 1/3 ตามลำดับ โครงการนี้ใช้ทั้งกับลูกจ้างเวียดนามและลูกจ้างชาวต่างชาติ นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 นายจ้างต้องส่งเงินสมทบ 3% และลูกจ้างส่งเงินสมทบ 1.5% ของเงินเดือนพื้นฐาน

(3) การประกันการว่างงานและ / หรือเงินช่วยเหลือพ้นจากงาน ( severance allowances ) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 ได้มีการจัดตั้งกองทุนการว่างงานและเริ่มมีการบังคับให้นายจ้างต้องจัดทำการประกันการว่างงานในกรณีที่มีลูกจ้างเวียดนามตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปและลูกจ้างเวียดนามมีสัญญาจ้างแบบไม่มีกำหนดเวลาหรือมีกำหนดเวลาจ้างงาน 12 — 36 เดือน การประกันการว่างงานนี้ ทั้งนายจ้างและลูกจ้างจะส่งเงินสมทบคนละ 1% ของเงินเดือนพื้นฐาน

นายจ้างสามารถจ้างแรงงานต่างชาติที่เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษและแรงงานเวียดนามไม่สามารถทำงานนั้นได้ แรงงานต่างชาติต้องได้รับใบอนุญาตทำงานจากกรมแรงงานประจำแต่ละจังหวัด ซึ่งจะเรียกขอเอกสารประกอบการพิจารณาต่าง ๆ และใช้เวลาในการดำเนินการ รวมทั้งอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติมเช่น คุณสมบัติทางการศึกษาที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานและประสบการณ์พิเศษเฉพาะด้าน เป็นต้น

ภาษี

           ประภท                                 อัตราภาษี
ภาษีเงินได้นิติบุคคล                  25%  (อัตราภาษีสำหรับน้ำมันและก๊าซ  และ

ทรัพยากรธรรมชาติระหว่าง 32% - 50% )

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา              อัตราก้าวหน้าระหว่าง 5% - 35%
ภาษีเงินได้ส่วนบุคคลของ              เป็นอัตราเดียวกันคือ 20%  โดยจัดเก็บจาก
 non — resident                 non — resident ที่มีแหล่งรายได้จากเวียดนาม
 ภาษีทรัพย์สิน                      ขึ้นกับการจัดเก็บของแต่ละหน่วยงานเทศบาลแต่ละเขต
 ภาษีการขาย (VAT)                0%  ,  5%  ,  10%
 ภาษีรายได้หัก ณ ที่จ่าย              ดอกเบี้ย 10%  ค่าธรรมเนียมการจัดการ

(loyalty ) 10% เงินปันผลที่จ่ายรายบุคคล(5%)

 ภาษีซ้อน                         ไทย — เวียดนามมีความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน

สิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน

รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าจะลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 40% ของ GDP หรือประมาณ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี จากปัจจุบัน 34.5% ของ GDP

โลจิสติกส์ ความแออัดของการจราจรบนท้องถนนในเขตเมืองและความจำกัดของโครงข่ายถนนที่เชื่อมต่อเมืองต่าง ๆ ทำให้เกิดปัญหาคอขวดสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมอย่างมาก ทั้งนี้ เวียดนามยังอ่อนแออยู่มากในสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์และความสามารถในด้านโลจิสติกส์ รัฐบาลจึงมีโครงการมูลค่า 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกในท่าเรือในอีก 5 ปีข้างหน้า และโครงการก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น

  • รถไฟความเร็วสูงเชื่อมกรุงฮานอย — นครโฮจิมินห์ มูลค่า 55.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ความยาว 1,570 กิโลเมตร
  • ทางด่วน ( 100 กิโลเมตร ) ระหว่างกรุงฮานอย — นครไฮฟอง ต้องการเงินลงทุน 410 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • การก่อสร้างโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ 2,000 เมกะวัตต์ 2 โรง โดยวางแผนจะเริ่มเปิดดำเนินการปี 2563
  • ทางด่วน ( 29 กิโลเมตร ) ระหว่างกรุงฮานอย — หล่าวก๋าย ต้องการเงินลงทุน 600 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • ถนนวงแหวน ( 65 กิโลเมตร ) ในกรุงฮานอย ต้องการเงินลงทุน 600 ล้านเหรียญสหรัฐ

ไฟฟ้า ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากกว่าการเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิตไฟฟ้า จนบางครั้งจำเป็นต้องมีการจัดสรรเวลาการใช้ รัฐบาลเวียดนามได้มีแผนแม่บทฉบับที่ 4 เกี่ยวกับการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้นจาก 53 พันล้านกิโลวัตต์ เป็น 190 พันล้านกิโลวัตต์ ในสถานการณ์ปกติและเป็น 198 พันล้านกิโลวัตต์ ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

4. การทำธุรกิจในเวียดนาม

จากการสำรวจของธนาคารโลกเมื่อปี 2553 เกี่ยวกับการทำธุรกิจในประเทศต่าง ๆ โดยเปรียบเทียบ พบว่าโดยภาพรวม เวียดนามเป็นอันดับที่ 93 จากจำนวน 183 ประเทศที่สะดวกต่อการเข้ามาทำธุรกิจในประเทศ โดยในภูมิภาคเอเชีย เวียดนามตามหลัง จีน มาเลเซียและไทย แต่อยู่อันดับก่อนอินโดนีเชียและฟิลิปปินส์

ผลจากการสำรวจดังกล่าว เวียดนามมีความสามารถในการแข่งขันในแง่ของการได้รับเครดิต การจดทะเบียนทรัพย์สิน และสัญญาที่บังคับใช้ แต่มีข้อด้อยในการคุ้มครองนักลงทุน ภาษีที่ต้องจ่าย และการปิดธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม จาก World Governance Index ของธนาคารโลกได้ชี้ว่าเวียดนามจำเป็นต้องปรับปรุงด้านการบริหารสั่งการที่มีสายงานมากเกินไป นโยบายขาดความโปร่งใสและความสอดคล้อง และการคอรับชั่นที่ยังมีอยู่ทุกระดับ

5. หน่วยงานราชการไทยในประเทศเวียดนาม

(1) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย

63 — 65 Hoan Dieu Street , Hanoi

Tel. ( 84 — 8 ) 3823 — 5092 - 94

Fax. (84 — 8) 3823 - 5008

E-mail : thaihan@mfa.go.th

WebSite : http : // www.thaibizvietnam.com/

(2) สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์

77 Tran Quoc Thao Street , District 3 , Ho Chi Minh City

Tel. (84 — 8) 3932 — 7637 -8

Fax (84 — 8) 3932 - 6002

E — mail : thaihom@mfa.go.th

WebSite : http : // www.thaiconsulatehochiminh.com/

(3) สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงฮานอย

Suit 801 , 8 th Floor , HCO Building ,

44 B Ly Thuong Kiet Street , Hanoi

Tel. : (84 — 4) 3936 - 5226-7

Fax. : (84 — 4 ) 3936 - 5228

E — mail : thaichanoi@depthai.go.th

(4) สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์

8 th Floor , Unit 4 , Saigon Center Building ,

65 Le Loi Boulevard , District 1 , Ho Chi Minh City

Tel. : (84 — 8) 3914 - 1838

Fax. : (84 — 8 ) 3914 - 1864

E — mail : thaitradecenter@hcm.fpt.vn

(5) สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ณ นครโฮจิมินห์

Floor 5, The Empire Tower, 26-28 Ham Nghi Street,

District 1, Hochiminh City

Tel : ( 84 - 8) 62913 885-6

Fax : ( 84 — 8 ) 62913 887

Email : info@tourismthailand.org.vn

6. Web Resources

หน่วนงานภาครัฐบาลที่สำคัญ

Ministry of Foreign Affairs ( MoFA) : www.mofa.gov.vn

Ministry of Industry and Trade ( MoIT) : www.moit.gov.vn

Ministry of Planning and Investment (MPI) : www.mpi.gov.vn

Ministry of Finance ( MoF) : http : // www.mof.gov.vn

General Statistics Office of Vietnam ( GSO) : www.gso.gov.vn

Vietnam Chamber of Commerce and industry (VCCI) : www.vcci.com.vn

State Bank of Vietnam (SBV) : www.sbv.gov.vn

Vietcombank Bank of Foreign Trade of Vietnam : www. Vietcombank.com.vn/en

สคร.นครโฮจิมินห์

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ