ราคาที่ดินในจีนปลายปี ๒๕๕๔ มีอัตราการขยายตัว ๐ %

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 2, 2012 14:08 —กรมส่งเสริมการส่งออก

กระทรวงทรัพยากรที่ดินจีนเปิดเผยว่า ในปี ๒๕๕๔ ราคาเฉลี่ยที่ดินในจีน มีการชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี ซึ่งอัตราการเติบโตของราคาที่ดินในเชิงพาณิชย์ ที่อยู่อาศัยและอุตสาหกรรมได้ชะลอตัวติดต่อกันในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะราคาที่ดินสำหรับปลูกสร้างที่อยู่อาศัย มีอัตราการขยายตัวเป็นศูนย์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี

ในปัจจุบัน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนอยู่ในภาวะที่ตกลงราคากันไม่ได้ หรือ มีการซื้อขายที่ดินในราคาต่ำเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นสภาพการเงินที่ค่อนข้างรัดตัวของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และราคาที่ดินที่ลดลงอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้นโยบายเศรษฐกิจมหภาคของรัฐบาล รวมทั้งสภาวะตลาดในปัจจุบันที่ดัชนีการค้า การลงทุนชะลอตัวลง ทำให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คาดการณ์ว่า การจำหน่ายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่างๆจะยากขึ้น เนื่องจากแรงจูงใจในการซื้อที่ดินค่อนข้างต่ำและการซื้อที่ดินในช่วงนี้นับมีความเสี่ยงอย่างมาก

ในช่วงที่ผ่านมา ราคาที่ดิน เคยเป็นปัจจัยผลักดันราคาบ้านให้สูงขึ้น แต่ในขณะนี้ เมื่ออัตราการขยายตัวของราคาที่ดินชะลอตัวลง ส่งผลให้อุปสงค์และอุปทานของตลาดการค้าที่ดินเปลี่ยนไป และส่งผลโดยตรงต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง) ในทางกลับกัน หากตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่ในช่วงขาขึ้น ตลาดที่ดินก็จะได้รับผลกระทบในเชิงบวก ในภาพรวมทั้งสองตลาดจะมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน แต่จะแตกต่างกันในเรื่องของเวลาเพราะราคาในตลาดที่ดินจะมีการปรับตัวช้ากว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์

นักเศรษฐศาสตร์ต่างคาดการณ์ว่า อัตราการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะลดลงถึงร้อยละ ๑๕ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นับได้ว่า ปีนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ในระดับที่ซบเซาอย่างมากเมื่อพิจารณาถึงทิศทางตลาด ปริมาณการซื้อขายจะอยู่ในระดับที่คงที่หรืออาจจะต่ำกว่าเดิม และราคาบ้านมี แนวโน้วที่จะลดลงอย่างชัดเจน

ในส่วนของปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ แม้ว่ารัฐบาลจีนจะดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงเห็นได้จากการปรับลดอัตราเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งส่งผลในทางบวกต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจมีทุนหมุนเวียนมากขึ้นและสามารถกระตุ้นการลงทุนได้มากขึ้น แต่การประกาศของรัฐบาลว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของนโยบายควบคุมราคาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งหมายถึง ราคาของอสังหาริมทรัพย์จะคงที่หรือลดลง อาจทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซบเซาลงเรื่อยๆ และอาจส่งผลในแง่ลบต่อธุรกิจอื่นๆและระบบเศรษฐกิจโดยรวม เช่น ในส่วนของธุรกิจธนาคาร อัตราสินเชื่อที่ไม่ก่อไห้เกิดรายได้หรือ Non-Performing Loan (NPL) จะเพิ่มขึ้น และอาจส่งผลต่อเนื่องต่อระบบ Supply chain ของธุรกิจก่อสร้างและอาจจะส่งผลต่อมูลค่า GDP ของประเทศในที่สุด

อย่างไรก็ตาม หากมองในทางกลับกัน ราคาที่ดินที่ปรับตัวลดลงอาจทำให้ต้นทุนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในโครงการใหม่ๆ ลดลงตามมาด้วย และหากบริษัทสามารถลดต้นทุนในการบริหาร จัดการลง อาจทำให้มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดมากขึ้น และทำกำไรได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา

แหล่งข่าว:People’s Daily

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ