การนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในสหรัฐอเมริกา

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 9, 2012 16:19 —กรมส่งเสริมการส่งออก

โดยนางสมจินต์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก

สถิติการนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในสหรัฐอเมริกา

ในปี 2011 (มกราคม-พฤศจิกายน) สหรัฐอเมริกานำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับโดยรวม จากทั่วโลกมูลค่าประมาณ 62,767.58 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้าจากเม็กซิโก 9,003.31 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมา คือ อิสราเอล 8,704.54 ล้านเหรียญสหรัฐ และอินเดีย 7,476.10 ล้านเหรียญ สำหรับประเทศไทย เป็นลำดับที่ 11 มีมูลค่า 1,292.06 ล้านเหรียญสหรัฐ

สหรัฐอเมริกา นำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับสำเร็จรูป (HS7113 )จากอินเดีย มูลค่า 1,368.33 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 20.33 ของการนำเข้ารวม รองลงมา คือจีน มูลค่า 1,198.48 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 17.80 ของการนำเข้ารวม และไทยเป็นลำดับที่ 3 มูลค่าการนำเข้า 997.80 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 14.82 ของการนำเข้ารวม (เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 16.23)

สินค้าประเภทหินสี พลอยต่างๆ (HS71 03)ไทยถือเป็นผู้ส่งออกรายสำคัญให้กับสหรัฐอเมริกา โดยมีมูลค่า 171.95 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 18.29 ของการนำเข้ารวม (เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 20.07) รองลงมา คืออินเดีย มูลค่า 151.63 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 15.23 ของการนำเข้ารวม และโคลัมเบียเป็นลำดับที่ 3 มีมูลค่า 149.22 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 15.87 ของการนำเข้ารวม

เครื่องประดับแฟชั่น หรือ imitation jewelry (HS71 17)สหรัฐอเมริกานำเข้าจากจีนเป็นลำดับต้น มูลค่า 1,326.08 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 78.88 ของการนำเข้ารวม รองลงมา คือไทย มูลค่า 61.44 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 3.66 ของการนำเข้ารวม (เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 16.36)และไต้หวันเป็นลำดับที่ 3 มูลค่าการนำเข้า 44.38 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 2.64 ของการนำเข้ารวม

เครื่องประดับเพชร (HS71 17)สหรัฐอเมริกานำเข้าจากอิสราเอลเป็นลำดับต้น มูลค่า 8,560.23 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 41.19 ของการนำเข้ารวม รองลงมา คืออินเดีย มูลค่า 5,861.26 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 28.20 ของการนำเข้ารวม และเบลเยี่ยมเป็นลำดับที่ 3 มูลค่าการนำเข้า 3,343.83 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 16.09 ของการนำเข้ารวม สหรับประเทศไทยเป็นลำดับที่ 17 มีมูลค่า 36.49 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 0.18 ของการนำเข้ารวม (เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 58.41)

เครื่องประดับที่ทำจากมุกและรัตนชาติ (HS 7116)สหรัฐอเมริกานำเข้าจากจีนเป็นลำดับต้น มูลค่า 207.66 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 44.25 ของการนำเข้ารวม รองลงมา คือแอฟริกาใต้ มูลค่า 71.49 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 15.23 ของการนำเข้ารวม และไอล์แลนด์เป็นลำดับที่ 3 มูลค่าการนำเข้า 32.07 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 6.83 ของการนำเข้ารวม สำหรับประเทศไทยเป็นลำดับที่ 6 มีมูลค่า 18.47 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 3.94 ของการนำเข้ารวม (เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 37.15)

สินค้าที่น่าสนใจในและมีการขยายอัตราการนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าในหมวด 7112 โลหะหรือสารประกอบที่ใช้ในการขึ้นตัวเรือนที่ไม่มีค่ามาก สหรัฐนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.20 หรือประมาณ 0.99 ล้านเหรียญสหรัฐ

สินค้าในหมวด 7104 รัตนชาติแบบร้อยเป็นเส้น สหรัฐนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.20 หรือประมาณ 0.12 ล้านเหรียญสหรัฐ

สินค้าในหมวด 7108 ทองคำ สหรัฐนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.72 หรือประมาณ 0.15 ล้านเหรียญสหรัฐ

10 อันดับแนวโน้มการค้าปลีกอัญมณีและเครื่องประดับสหรัฐอเมริกาในปี 2011

สรุป 10 อันดับแนวโน้มการค้าปลีกอัญมณีและเครื่องประดับของปี 2011 ได้แก่

1.เงิน เมื่อเราถามว่าอะไรที่ขายได้ในปี 2011 จะได้คำตอบคือ "เงิน เงิน เงิน และเงินเท่านั้น" ในอดีตผู้จำหน่ายอัญมณีเครื่องประดับในระดับ Hi end (Fine jeweler) ไม่สนใจเครื่องประดับเงินแต่ปัจจุบันเงินกลายเป็นสินค้าที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในอุตสาหกรรม ส่วนหนึ่งเนื่องจากราคาทองคำที่สูงขึ้นและอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาของเงินราคาไม่สูงมาก ผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อถึงแม้เป็นช่วงเศรษฐกิจซบเซา

2.การรับซื้อเพชรจากผู้บริโภค สมาคมJewelers' Circular Keystone ?ศ“คนq@๚o%;6r@>ค฿พ?r@>ค฿พ?r@มณีหลายรายได้เปลี่ยนความคิดจาก "เรารับซื้อทอง" ไปเป็น "เรารับซื้อทองและเพชร" ร้านค้าปลีกแห่งหนึ่งได้กล่าวว่า เขาจะไม่ซื้อจากผู้จำหน่าย (dealer) อีกต่อไป เขาได้เพชรทั้งหมดที่ร้านต้องการจากการรับซื้อในร้านค้าของเขาเอง นักวิเคราะห์ Mr. Ben Janowski ได้ทำนายว่า ถึงแม้ว่าแนวโน้มนี้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นแต่เมื่อผู้บริโภครู้ว่าราคาเพชรเพิ่มสูงขึ้นมากในปัจจุบัน "ต่อไปแหล่งเพชรจะอยู่ที่ผู้บริโภคเพชรในสหรัฐอเมริกา (U.S public)"

3.เพชร ผู้บริหารบริษัท De Beers กล่าวว่าเขามีความแปลกใจมากกับการเพิ่มขึ้นของยอดขายเพชรไม่ใช่ในต่างประเทศเท่านั้นแต่รวมถึงในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย เพชรสีเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ขายสินค้า อัญมณีราคาแพง (high-end jeweler)

4.มีผู้กล่าวว่าลูกค้าหลายคนกำลังมองหาแหวนหมั้นอัญมณีที่เป็นอัญมณีหินสี เป็นแนวโน้มของเครื่องประดับ

5.ลูกปัด/จี้สร้อยคอสร้อยข้อมือ (Beads/charms) ผู้ค้าอัญมณีบางรายมียอดขายที่ลดลง และไม่ได้เป็นปีที่ดีของบริษัท Pandora (และหุ้นของบริษัท) แต่ผู้ค้าอัญมณีหลายรายยังคงผลิตเครื่องประดับ ลูกปัด/จี้สร้อยคอสร้อยข้อมือเหมือนกับบริษัท Pandora โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัท Chamilia และบริษัท Trolldeads ถึงแม้สินค้าลูกปัด/จี้สร้อยคอสร้อยข้อมือเป็นแฟชั่น แต่สินค้าก็ยังคงเป็นที่นิยมอยู่

6.สินค้าเครื่องประดับที่มีลักษณะปรับเปลี่ยนอัญมณีได้ (Jewelpop) ของบริษัท Kameleon เป็นที่กล่าวถึงกันมากและมีผลให้ยอดขายสูงขึ้นและน่าจะมีการฟ้องร้องต่อบริษัทที่เลียนแบบ ซึ่งถือว่าเป็นสัญญลักษณ์ว่ารูปแบบสินค้าแบบนี้ประสบผลสำเร็จแล้ว

7.ร้านค้าอัญมณีรายงานว่าเทศกาลวันหยุดที่ผ่านมา Forevermark มียอดขายที่น่าพอใจถึงแม้จะเป็นเพียงฤดูกาลเดียว แต่ก็เป็นสัญญานที่ดีของสินค้าชนิดนี้

8.แนวโน้มสินค้าแฟชั่นใดที่จะมาแรงในอนาคตที่มีราคาจับต้องได้? เพื่อนร่วมงานของ Mr. Paul Holewa คิดว่าน่าจะเป็นไข่มุก: เขากล่าวว่า "การเลี้ยงมุกน้ำจืดทำให้ราคาของมุกดึงดูดผู้บริโภคมากขึ้น"

9.การออกแบบและผลิตเครื่องประดับตามความต้องการของลูกค้า (Custom work) ยังคงไปได้ดีในด้านของยอดขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้นทุนของวัตถุดิบมีราคาสูงขึ้น ผู้ค้าอัญมณีต้องการที่จะเก็บสินค้าในสต๊อคให้น้อยที่สุดที่จะทำได้ (ผู้ค้าอัญมณียังคงเก็บต้นแบบสินค้าไว้) และแนวโน้มนี้ยังเกิดขึ้นกับบริษัท online ด้วย ไม่ใช่เพียงบริษัท Gemvara แต่บริษัท Sterling ก็มีความสนใจด้วย

10.การจับคู่ทางธุรกิจ หลังจากที่สถานการณ์ทางเศรษกิจดีขึ้นจากปี 2008 - 2009 ผู้ค้าอัญมณีตระหนักว่าบริษัทผู้จำหน่ายรายใดที่ช่วยเหลือในเวลาที่ยากลำบาก - และบริษัทใดที่ไม่ช่วย ดังนั้นผู้ค้าอัญมณีจะมุ่งเน้นการทำธุรกิจบริษัทผู้จำหน่ายสินค้าที่เป็นบริษัทคู่ค้าที่จริงใจ

ท้ายที่สุด ข้อมูลแนวโน้มร้านค้าปลีกอัญมณีเหล่านี้อาจจะไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นทางการ แต่ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาแนวโน้มของตลาด

ผู้สังเกตการณ์แนวโน้มแฟชั่น Ms. Jennifer ทำนายว่าแนวโน้มในปีต่อไปจะเป็น "Roaring Twenties"ประยุกต์จากแฟชั่นยุคทศวรรษ 1920 ไม่ว่าจะเป็นอัญมณีที่สร้างสรรค์ (inspired jewelry) และการแต่งกายจากแฟชั่นโชว์ช่วงฤดูใบไม้ผลิ รายการโทรทัศน์ HBO Boardwalk Empire และสินค้าอัญมณีชิ้นสำคัญจาก The Great Gatsby (ที่บริษัท Tiffany & Co ได้ออกแบบให้กับภาพยนต์เรื่องนี้) Ms. Jennifer คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อการสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องประดับ รูปแบบลายดอกไม้ (Floral motifs) และ เครื่องประดับ (Accessories) สีขาวและดำ

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ