การบริโภคและการค้าข้าวเวียดนามในสหรัฐฯ
การสำรวจประชากรของสหรัฐฯในปี 2011 ประมาณการณ์จำนวนประชากรสหรัฐฯเชื้อสายเวียดนามว่าประมาณ 1.5 ล้านคน อัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการสำรวจประชากรครั้งล่าสุดในปี 2000 ประมาณร้อยละ 38 เป็นประชากรสหรัฐฯเชื้อสายเอเซียที่มีจำนวนมากเป็นอันดับที่สี่รองจากประชากรสหรัฐฯเชื้อสายจีน อินเดีย และ ฟิลิปปินส์ และเป็นประชากรสหรัฐฯเชื้อสายตะวันออกเฉียงใต้ที่มีจำนวนมากเป็นอันดับที่สองรองจากประชากรสหรัฐฯเชื้อสายฟิลิปปินส์
ประชากรสหรัฐฯเชื้อสายเวียดนามส่วนใหญ่จะพำนักอาศัยอยู่บนฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีประชากรสหรัฐฯเชื้อสายเวียดนามมากที่สุด(ประมาณ 6 แสนคน) รองลงมาคือรัฐเท๊กซัส (ประมาณ 2 แสนคน) และวอชิงตันดีซี (ประมาณ 7 หมื่นคน)เขต Orange County ในรัฐแคลิฟอร์เนียภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีประชากรสหรัฐฯเชื้อสายเอเซียอยู่อาศัยหนาแน่นที่สุดในสหรัฐฯ เมือง Midway City, Westminster, Garden Grove, Stanton และ Fountain Valley, เป็นแหล่งอยู่อาศัยหนาแน่นของประชากรสหรัฐฯเชื้อสายเวียดนาม สัดส่วนของประชากรเชื้อสายเวียดนามในเมืองดังกล่าวคือร้อยละ 41, 40, 27.7 และ 21 ตามลำดับ อย่างไรก็ดีเมืองที่ประชากรเชื้อสายเวียดนามอยู่มากที่สุดในสหรัฐฯคือเมือง San Jose ในรัฐแคลิฟอร์เนียภาคเหนือประมาณหนึ่งแสนคน
รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือน(4 คน) ต่อปีประมาณ 59,000 เหรียญฯ ต่ำกว่ารายได้เฉลี่ยของประเทศสหรัฐฯที่ 62,000 เหรียญฯ อายุเฉลี่ยประชากรประมาณ 35.4 ปี
เมื่อวันที่5 กุมภาพันธ์ 2555 สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ นครลอสแอนเจลิสได้ไปสำรวจตลาด (supermarket และ grocery stores) ของคนจีนและเวียดนามจำนวน 6 แห่งในย่านที่อยู่อาศัยหนาแน่นของคนอเมริกันเชื้อสายเอเซียในเขตเมือง South El Monte, San Gabriel, Rosemead และ Alhambra พบว่า ข้าวนำเข้าจากเวียดนามจะมีวางจำหน่ายเฉพาะในตลาดที่เป็นของนักธุรกิจชาวเวียดนามเท่านั้น และพบเพียง 3 ยี่ห้อคือ Double Dove, Diamond Elephant และ Green Elephant ทั้งหมดจะระบุว่าเป็นข้าวเวียดนาม โดย Double Dove เรียกตนเองว่าเป็น Fragrant Rice, Diamond Elephant เรียกตนเองว่าเป็น Premium Jasmine Rice และ Green Elephant เรียกตนเองว่าเป็น Jasmine Rice บางตลาดจะวางข้าวเวียดนามจะวางปนไปกับสินค้าข้าวหอมมะลิไทย บางตลาดจะแยกข้าวเวียดนามออกมาวางเด่นไม่ปนกับสินค้าไทย แต่โดยรวมแล้วข้าวเวียดนามจะมีจำนวนวางจำหน่ายที่น้อยกว่ามากและในราคาจำหน่ายปลีกที่ต่ำกว่าข้าวหอมมะลิไทย
1.Tran's Group Inc., 1635 S. San Gabriel Blvd., San Gabriel, CA 91776-3973, Tel: 626 280-9998, Fax: 626 280-5939 เป็นบริษัทสาขาของบริษัท Shun Fat Supermarket Inc ., 6930 65 th St., # 123, Sacramento, CA 95823-2342, Tel: 916 392-3888 เป็นบริษัทเอกชนของนักธุรกิจเวียดนาม ที่ประกอบธุรกิจ Supermarket 13 แห่งในรัฐแคลิฟอร์เนียภายใต้ชื่อShun Fat Supermarket, Thuan Phat Supermarket, SF Supermarket, ...ชื่อเมือง...Superstore และ 1 แห่งในรัฐเนวาด้าภายใต้ชื่อLas Vegas Superstore บริษัทฯกระจายสินค้าข้าวเวียดยามยี่ห้อ Diamond Elephant
2.New Japan International Inc., 6464 Flotilla St., Commerce, CA 90040-1712, Tel.: 323 888-1858 เป็นบริษัทเอกชนของนักธุรกิจเวียดนาม ทำธุรกิจขายสินค้าสำหรับตลาด groceries และเป็นเจ้าของข้าวเครื่องหมายการค้าDouble Dove
3.Well Luck Co., Inc., 104 Harbor Drive, # 1, Jersey City, NJ 07305-4500, Tel: 201 434-1177, Fax: 201 434-2540 เป็นบริษัทเอกชนทำธุรกิจกระจายสินค้าเอเซียสำหรับตลาด groceries ทั่วสหรัฐฯ นำเข้าข้าวยี่ห้อ Green Elephant
ในปี 2011 ประเทศเวียดนามมีส่วนแบ่งในตลาดนำเข้าข้าวของสหรัฐฯร้อยละ 1.78 เป็นแหล่งอุปทานข้าวอันดับที่ 7 ของสหรัฐฯรองจากไทย อินเดีย ปากีสถาน บราซิล อิตาลี และ อุรุกวัย สหรัฐฯนำเข้าข้าวจากเวียดนามในมูลค่านำเข้ารวมทั้งสิ้น 11.20 ล้านเหรียญฯ ปริมาณนำเข้า 17,210,932 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.57 และร้อยละ 30.92 ตามลำดับ ปริมาณและมูลค่าการนำเข้าสหรัฐฯข้าวจากเวียดนามยังห่างไกลจากปริมาณการนำเข้าจากประเทศไทยเป็นอย่างมาก ในปี 2011 ประเทศไทยถือครองส่วนแบ่งตลาดนำเข้าข้าวของสหรัฐฯไว้ร้อยละ 65.19 ปริมาณนำเข้าจากประเทศไทย 388,777,289 กิโลกรัมคิดเป็นมูลค่านำเข้าประมาณ 411 ล้านเหรียญฯ
ราคานำเข้าข้าวเวียดนามโดยรวมเฉลี่ยประมาณ 65 เซ็นต์ต่อหนึ่งกิโลกรัม ต่ำกว่าราคานำเข้าเฉลี่ยข้าวจากประเทศไทย 41 เซ็นต์ ราคานำเข้าเฉลี่ยข้าวหอมเวียดนาม 72 เซ็นต์ต่อกิโลกรัมต่ำกว่าราคานำเข้าเฉลี่ยข้าวหอมมะลิไทย 43 เซ็นต์
ส่วนใหญ่ของข้าวนำเข้าจากเวียดนามเป็นข้าวเมล็ดยาวที่เป็นข้าวหอมที่สามารถพบเห็นได้ในตลาดค้าปลีกในเขตนครลอสอนเจลิส รองลงมาเป็นข้าวเมล็ดกลาง และข้าวหัก ตลาดหลักของข้าวเวียดนามอยู่บนฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ประมาณร้อยละ 72.50 ของข้าวเวียดนามขนถ่ายผ่านขึ้นที่ด่านนำเข้าบนฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯโดยเฉพาะอย่างยิ่งด่านศุลกากรนครลอสแอนเจลิส ซานฟรานซิสโก และซีแอตเติล ร้อยละ 18.65 ผ่านขึ้นที่ด่านนำเข้าบนฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ (ด่านศุลกากรนครนิวยอร์ค บัลติมอร์ บอสตัน และนอร์ฟอร์ค) ร้อยละ 4.65 ผ่านขึ้นที่ด่านนำเข้าทางภาคใต้ของสหรัฐฯ (ด่านศุลกากรซาวาน่า ไมอามี่ เทมป้า ฮิวส์ตัน/กัลเวสตัน และชารล์สตัน)
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นครลอสแอนเจลิส
15 มีนาคม 2555