รายงานสถานการณ์การค้าในภาพรวมกลุ่มสินค้ายางรถยนต์ (HS Code 401110)

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 30, 2012 15:59 —กรมส่งเสริมการส่งออก

คำนำ

สหรัฐฯ นำเข้ายางรถยนต์ประมาณร้อยละ 90 จากทั่วโลก ผลิตในสหรัฐฯ อีกร้อยละ 10 ตลาดยางรถยนต์สหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตมีการผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพการใช้งานยืนยาว และพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยนิยมซื้อรถใหม่เมื่อถึงระยะเวลาที่รถต้องซ่อม หันมาซ่อมแซมรถยนต์เพื่อเก็บรถเอาไว้ใช้ จึงส่งผลให้ความต้องการยางรถยนต์ของผู้ใช้รถในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น

ยางรถยนต์จำหน่ายในสหรัฐฯ แบ่งเป็น

1. ยางยางรถยนต์ประเภท OE (Original Equipment) คือยางรถยนต์ที่ผลิตขึ้นเฉพาะเพื่อใช้กับรถรถยนต์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นของรถยนต์นั้นโดยตรง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ บริษัทยางรถยนต์รายใหญ่ๆ ในสหรัฐฯ นิยมควบรวมกิจการ (Merge) หรือร่วม (Joint Venture) กับบริษัทรถยนต์เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตยางรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับละรุ่นโดยเฉพาะ ยางรถยนต์ประเภทนี้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้รถยนต์ในสหรัฐฯ อย่างกว้างขวาง

2. ยางรถยนต์ประเภท Aftermarket คือยางรถยนต์ที่ผลิตขึ้นโดยไม่เจาะจงใช้กับรถเฉพาะยี่ห้อใดรุ่นใด

การนำเข้ายางรถยนต์ของสหรัฐฯ
  • สหรัฐฯ นำเข้าสินค้ายางรถยนต์ในปี 2554 มูลค่าประมาณ 6,799 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปี 2553 ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 5,758 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.07
  • ปี 2554 สหรัฐฯ นำเข้ายางรถยนต์มากที่สุด จากประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น แคนาดา จีน และเม็กซิโก โดยประเทศไทย เป็นอันดับที่ 7
  • สหรัฐฯ นำเข้าสินค้ายางรถยนต์ในปี 2555 (ม.ค. — ก.ย.) มูลค่าประมาณ 5,544 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปี 2554 ในช่วงระยะเวลาเดียวกันมีมูลค่าประมาณ 5,067 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.42
  • ช่วงม.ค. — ก.ย. 2555 สหรัฐฯ นำเข้ายางรถยนต์มากที่สุด จากประเทศเกาหลีใต้ จีน แคนาดา ญี่ปุ่น และเม็กซิโก โดยประเทศไทย เป็นอันดับที่ 6
สถานะของประเทศคู่แข่ง (ทั้งโลก)
                                                     ปี 2554
       สินค้า         อันดับของไทย                 อันดับ 1-5                         คู่แข่งขันอันดับใกล้เคียง
ยางรถยนต์ 401110         7         เกาหลีใต้    ญี่ปุ่น    แคนาดา   จีน    เม็กซิโก    อินโดนิเซีย(6)   เยอรมณี (8)
                                                เดือน ม.ค. — ก.ย. 2555
       สินค้า         อันดับของไทย                 อันดับ 1-5                         คู่แข่งขันอันดับใกล้เคียง
ยางรถยนต์ 401110         6         เกาหลีใต้    จีน     แคนาดา   ญี่ปุ่น   เม็กซิโก    เม็กซิโก(5)     อินโดนิเซีย(7)
การนำเข้าสินค้ายางรถยนต์จากประเทศไทย
  • สหรัฐฯ นำเข้าสินค้ายางรถยนต์จากไทยปี 2554 มูลค่า 385 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปี 2553 ซึ่งมีมูลค่า 311 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.88
  • สหรัฐฯ นำเข้าสินค้ายางรถยนต์จากไทยปี 2555 (ม.ค. — ก.ย.) มูลค่า 387 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปี 2554 ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน มีมูลค่า 267 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 44.87
ช่องทางการจำหน่าย

ช่องทางการจำหน่ายยางรถยนต์ในสหรัฐฯ แบ่งเป็น

1. ตัวแทนจำหน่ายอิสระ เช่น Discount Tire Co., Tire Rack, American Tire Distributor

2. ตัวแทนจำหน่ายที่มียางหลากหลายยี่ห้อ เช่น Wal-Mart Store, Sears Auto Center, Pep Boys

3. Whole Seller ที่ต้องเป็นสมาชิก เช่น Sam’s Club, Costco Wholesale, BJ’s Wholesale

4. ตัวแทนจำหน่ายของบริษัทยาง เช่น Goodyear Gemini Outlet, Just Tire, Bridgestone Tire & Service Center, Tire Plus

5. ศูนย์รถยนต์ เช่น Ford Dealer, Mercedes-Benz Dealer, Honda Dealer

6. สถานที่บริการซ่อมรถทั่วไป เช่น Midas, Jiffy Lobe, EZ Lobe

7. ศูนย์ขายอุปกรณ์รถยนต์ เช่น Discount Auto Parts, Auto Zone

พฤติกรรมผู้บริโภค

ผู้บริโภคสินค้ายางรถยนต์สหรัฐฯ มีปัจจัยในการเลือกซื้อยางรถยนต์ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

  • ผู้บริโภคกลุ่มที่เลือกซื้อยางรถยนต์จากปัจจัยด้านราคาเป็นสำคัญ
  • ผู้บริโภคกลุ่มที่นิยมยางรถยนต์ประเภท OE (Original Equipment) เนื่องจากเห็นว่ายางที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะเพื่อรถยนต์แต่ละยี่ห้อในแต่ละรุ่นจะมีความเหมาะสม มีสมรรถนะการใช้งานดีกว่า
  • ผู้บริโภคกลุ่มที่มีความรู้เรื่องรถยนต์อย่างดี (ส่วนน้อย) กลุ่มนี้จะเลือกซื้อยางรถยนต์จากคุณสมบัติที่เหมาะสมกับสมรรถนะในการขับขี่ของรถที่ใช้
  • ผู้บริโภคกลุ่มที่เลือกซื้อแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับด้านคุณภาพในตลาด เช่น Michelin หรือBridgestone

SWOT Analysis

S

  • ยางรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยมีคุณภาพดีได้มาตรฐานการยอมรับในระดับสากล
  • ประเทศไทยมีแหล่งทรัพยากร ไทยปลูกยางส่งออกน้ำยางได้จำนวนมาก ไทยเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก ผลผลิตมีมากเพียงพอสำหรับการส่งออก
  • ราคาสามารถแข่งขันในตลาดได้
  • ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นและอเมริกา ผู้ผลิตไทยมีความเชี่ยวชาญ และมีเทคโนโลยีการผลิตยางรถยนต์ที่ก้าวหน้า ทันสมัย

W

  • ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ๆ ของไทยเป็นผู้รับจ้างผลิตภายใต้แบรนด์ของบริษัทต่างประเทศ (OEM) การผลิตขึ้นกับคำสั่งผลิตสินค้าของบริษัทแม่ในต่างประเทศ
  • โรงงานผู้ผลิตยางรถยนต์ขนาดกลางและเล็กพบปัญหาการเปลี่ยนแปลงของราคายางแผ่น และมักแข่งขันราคากันเอง
  • ผู้ผลิตรายย่อยมีข้อจำกัดในการเติบโต เนื่องจากบริษัทรายใหญ่เป็นผู้ครองส่วนแบ่งในตลาด
  • สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้า (GSP) สินค้ายางรถยนต์นั่งจากไทย ร้อยละ 4
  • สินค้ายางรถยนต์ไทยมีราคาสูงกว่ากว่าสินค้าจีน

O

  • สหรัฐฯ ไม่เก็บภาษีนำเข้ายางแผ่น ผู้ผลิตไทยอาจ พิจารณาตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์ในสหรัฐฯ เพื่อลดต้นทุนการผลิต
  • ตลาดแคริบเบียนเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ และมีความต้องการสินค้ายางรถยนต์อีกมาก
  • ยางเป็นวัตถุจากธรรมชาติ ที่เป็นผลผลิตที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม และแนวโน้มความต้องการสินค้ายางรถยนต์เพิ่มสูงขึ้น

-ตลาดสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกสินค้ายางประเภทยางรถยนต์ใหม่สำหรับรถโดยสารหรือรถบรรทุกผู้ผลิตไทยควรเพิ่มศักยภาพด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

T

  • ระยะทางขนส่งมายังสหรัฐฯ และแคริบเบียนไกล ต้นทุนค่าขนส่งสูง
  • การแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ และแคริบเบียนมีความรุนแรงขึ้นทั้งจากประเทศคู่แข่งสำคัญ เช่น เกาหลีใต้มาเลเซีย และจากการขยายการผลิตของประเทศผู้ผลิตยางรายใหม่ เช่น เวียดนาม และจีน ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น

สรุป

สินค้ายางรถยนต์ไทยมีศักยภาพและโอกาสในตลาดสหรัฐฯ ทั้งนี้ เพื่อครองส่วนแบ่งตลาดและเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาสินค้ายางรถยนต์ให้ได้คุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เร่งปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การฝึกอบรมยกระดับแรงงานและเทคโนโลยีการผลิต รวมทั้งหาแหล่งเงินทุน

สคร.ไมอามี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ