ยอดขายรถยนต์นั่งและรถบรรทุกรวม 1.04 ล้านคันในเดือนมกราคม 2556 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกัน ของปี 2555 ร้อยละ 14 นับว่าเกินความคาดหมายของอุตสาหกรรมนี้ และคาดว่าการที่ยอดขายรถบรรทุกเพิ่มขึ้นมากเป็นสัญญาณว่ากลุ่มธุรกิจก่อสร้างเริ่มจะมองเศรษฐกิจในแง่ดี
ในปี 2555 ที่ผ่านมา เป็นปีที่ดีที่สุดใน 5 ปีที่ผ่านมาของการขายรถยนต์ โดยมียอดรวม 14.5 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ร้อยละ 13 และผู้อยู่ในวงการคาดว่าปี 2556 จะมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 15.5 ล้านคัน ส่วนหนึ่ง เพราะผู้บริโภคมีความต้องการซื้อเพื่อทดแทนรถเก่า ซึ่งทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2555 และอีก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัว
อัตราการเพิ่มของยอดขายของ Toyota ดีที่สุด ในขณะที่ GM ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดสามารถทำยอด ขายในเดือนมกราคม 2556 ได้ถึง 194,700 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ส่วนอีก 4 ค่ายรถของเอมริกัน Chevrolet, Cadillac, GMC และ Buick ล้วนมีอัตราการขายเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลัก
GM ทำยอดขายจากรถปิกอัฟซึ่งเป็นธุรกิจหลักได้อย่างสวยงาม โดยรถปิกอัฟ Chevrolet Silverado ยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 32 และ GMC Sierra ยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 35
Ford Motor ค่ายรถใหญ่อันดับสองของเอมริกามียอดขายในเดือนมกราคม 2556 จำนวน 166,500 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 และยอดขายของ Ford Fusion ที่ดีไซน์ใหม่หลังจากต้องเรียกรถคืนเนื่องจากปัญหาความปลอดภัย เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 64.5
Chrysler ค่ายรถที่เล็กที่สุดของดีทรอยต์ มียอดขาย 117,700 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16
Toyota ค่ายรถญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา มียอดขาย 157,700 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.6 โดย Toyota Corolla compact sedan เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.4 และ Toyota Prius Hybrid เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.5
Honda มียอดขาย 93,600 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 และNissanมียอดขาย 80,900 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2
ค่ายรถดังจากเยอรมนี Volkswagen และ Audi ซึ่งทำยอดขายได้ดีในปีที่แล้ว รวมกันแล้วเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 กลับแผ่วลงในเดือนมกราคม 2556 โดยยอดขายเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 7.1
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก
แหล่งที่มา : The New York Times, February 2, 2013