สถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะการค้าในอิตาลี ระหว่างวันที่ 1 — 15 พฤษภาคม 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 26, 2009 16:46 —กรมส่งเสริมการส่งออก

สถานการณ์เศรษฐกิจ

1. ภาพรวมสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วง 2 สัปดาห์แรกของ พ.ค. 52 เริ่มกระเตื้องขึ้น ทั้งนี้ ภาครัฐและสมาพันธ์ผู้จำหน่าย(Association confcommercio) ได้ออกมากล่าวว่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 52 นับเป็นช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจของประเทศถดถอยมากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาโดยมี GDP ลดลงถึง 5.9 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าภาวะเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ สมาพันธ์ฯเห็นว่าเริ่มมีสัญญานของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจบ้างแล้วอันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของความเชื่อมั่นและการบริโภคของภาค ประชาชน

2. รัฐบาลอิตาลีอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน(Social Card )ให้แก่ประชาชนจากเดิมให้เงิน 40 ยูโรต่อเดือนสำหรับผู้ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 6,000 ยูโรเพื่อซื้ออาหารและให้ส่วนลดพิเศษค่าไฟค่าแก๊สให้ครอบคลุมไปถึงประชาชนที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 8,000 ยูโรที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปหรือครอบครัวที่มีเด็กอายุไม่เกิน 3 ขวบ โดยมีจำนวนประชากรเป้าหมาย 1 ล้านคน

3. นอกจากนี้เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 52 รัฐบาลโดยกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจได้ลงนาม ‘contract for the South’ ที่เมืองปาเลโม่ทางตอนใต้ของอิตาลีให้งบประมาณ 40,000 ล้านยูโร ในการพัฒนาพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศโดย 18,000 ล้านยูโรเป็นการให้เฉพาะเกาะซิซิลีเพื่อพัฒนาและฟื้นฟูด้านอินฟราสตรัคเจอร์ต่างๆ

4. หน่วยงาน ISTAT ได้รายงานว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอิตาลีในเดือนมีนาคม 52 ได้ลดลงเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมา คือลดลง -4.6 % เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ในเดือนมีนาคม 52 การผลิตได้ลดลงถึง — 35.1% และช่วงใน 3 เดือนแรกของปี 52 ลดลง -40.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน

5. ธนาคารชาติอิตาลีได้รายงานว่าหนี้สาธารณะของอิตาลีได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,741 ล้านยูโร จากเดือน ก.พ. 52 ที่เท่ากับ 1,707 ล้านยูโรทั้งนี้ รายได้ของรัฐเท่ากับ 35,545 พันล้านยูโร ในขณะที่รายจ่ายของรัฐจะเท่ากับ 50,162 พันล้านยูโร

6. ดัชนีเศรษฐกิจของอิตาลี

6.1 GDP growth ปี 52 = -4.2% ,ปี 53 = +0.3% (คาดการณ์โดยรัฐบาลอิตาลี)

6.2 ภาวะเงินเฟ้อ

  • เดือนเม.ย. 52 + 0.3 % เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าและ +1.3% เมื่อเทียบกันช่วงเดียวกันของปี 51
  • รัฐบาลอิตาลีคาดการณ์ว่าทั้งปี 52 จะ = +1% (ปี 51 =3.3%)

6.3 การบริโภค

  • จากข้อมูล CONFCOMMERCIO ณ เดือนมี.ค.52 การบริโภคลดลง - 1% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน

6.4 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค(ข้อมูลจาก ISAE)

  • ณ เดือนเม.ย. 52 เพิ่มขึ้นจาก 99.8 เป็น 104.9% ซึ่งนับว่าดีที่สุดจากเดือนธ.ค. 51

6.5 การว่างงาน

  • CONFINDRUSTRIA และ UNIONCAMERE ได้คาดการณ์ว่าในปี 52 จะมีคนตกงานมากกว่า 650,000 คน (ปี 51 ยอดคนตกงานเท่ากับ 240,000 คน) โดยจะเป็นแรงงานภาคอุตสาหกรรมมากกว่าภาคธุรกิจบริการ
ภาวะสินค้าในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนพ.ค. 52
สินค้าอาหาร

เป็นสินค้าที่ยังคงไปได้ดี โดยในช่วงเดือน มี.ค. —เม.ย. 52 การบริโภคธัญญาพืชค่อนข้างทรงตัว ขณะที่ขนมปังการบริโภคลดลง(-2.65%) การบริโภคเนื้อสัตว์ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น (เนื้อวัว -1.2%, เนื้อหมู +0.1%, ไก่ +3.5%) ปลาแช่แข็ง (+0.5%) ผัก(+0.8%) ผลไม้(-4.9%) เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์(+1.2%)ไวน์และแอลกอฮอล์(-0.4%)ทั้งนี้ แนวโน้มตลาดอาหารทะเลแช่แข็งของไทยยังคงดีอยู่และไม่มีแนวโน้มที่จะลดลงเนื่องจากผู้บริโภคอิตาลีเชื่อมั่นในด้านคุณภาพสินค้าไทยอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าจากประเทศคู่แข่งอื่นๆ โดยเฉพาะจีน

สินค้าจิวเวลรี่

ตลาดยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจอย่างมากและความต้องการยังคงลดลงไม่เฉพาะตลาดอิตาลีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ(-12%) ผู้นำเข้าอิตาลียังคงต้องประคองตัวในการดำเนินธุรกิจ โดยการลดการซื้อสินค้าเข้าสต๊อคและคาดว่าตลาดจะฟื้นตัวได้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2552

สินค้าชิ้นส่วนรถยนต์

แม้รัฐบาลจะได้ออกมาตรการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมรถยนต์โดยให้เงินช่วยเหลือแก่ผู้ซื้อรถระหว่าง 300-7,000 ยูโร แล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ส่งผลในการกระตุ้นยอดการซื้อรถได้มากนัก ส่งผลให้อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้และยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือโดยตรงเพิ่มเติมโดยเฉพาะวงเงินเพื่อช่วยในด้านการจ่ายและพัฒนาสินค้าเพื่อให้สามารถแข่งขันได้

สินค้าแฟชั่น

เป็นสินค้าหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ โดยในช่วงไตรมาสแรกปี 2552 ภาวะการค้าลดลงค่อนข้างชัดเจน(การผลิต -17.5%,มูลค่าขาย -15.1% , ยอดการซื้อ -12.4% ) ปัญหาสำคัญคือมีผู้ประกอบการรายย่อยค่อนข้างมากและไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ นอกจากนี้ยังไม่สามารถขายแข่งขันกับสินค้าจากจีนและยุโรปตะวันออกได้

ทั้งนี้ ภาวะตลาดสินค้าสิ่งทอค่อนข้างแย่โดยในไตรมาสแรกของปี 52 มูลค่าการค้าลดลง — 27.7% ในขณะที่ตลาดเสื้อผ้าเด็กยังคงมีโอกาสดีกว่า

สินค้าสปาและความงาม

ตลาดยังคงไปได้ดีประชาชนร้อยละ 55% ยังคงใช้บริการสปาและเสริมความงามมีเพียง 12% ที่ลดการใช้จ่ายลงทั้งนี้ ยอดการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อการนี้เฉลี่ยหัวละ 700 ยูโร/ปี ผู้บริโภค 8 ล้านคน มูลค่าการค้า 5,500 ล้านยูโร (1,800 ล้านยูโรสำหรับสปา, 1,500 ล้านยูโรสำหรับเครื่องสำอางค์ และ 2,200 ล้านยูโรสำหรับฟิตเนสเซนเตอร์ต่างๆ)

สินค้าเฟอร์นิเจอร์

ช่วงไตรมาสแรกของปี 52 ภาวะตลาดยังคงไม่กระเตื้องขึ้นการผลิตลดลง -14.9% มูลค่าขาย -14% ยอดสั่งซื้อ -14.3% อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการอิตาลีคาดว่าภาวะการณ์ค้าจะดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2552 เนื่องจากการจัดงาน International Furniture Fair ที่มิลานเมื่อเดือนเม.ย. 52 นี้ โดยอิตาลียังต้องการรักษาการเป็นผู้นำในการผลิตสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์และคุณภาพชั้นนำของโลกให้ได้ต่อไปแม้ว่าความต้องการซื้อทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศในปี 2552 จะยังคงไม่เพิ่มขึ้นก็ตาม

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโรม

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ