กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ผนึกกำลังอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ อวดศักยภาพสินค้าแฟชั่นของไทยและประเทศอาเซียน ในงานแสดงสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนัง BIFF & BIL 2009 และ ASEAN Fashion Plus ภายใต้แนวคิด Fashion Full Stop เพื่อสนับสนุนสินค้าแฟชั่นของไทยและประเทศอาเซียนให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก รวมถึงแสดงความพร้อมในบทบาทความเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมแฟชั่นอาเซียนและไทยในระดับภูมิภาคอย่างเต็มภาคภูมิ คาดเม็ดเงินสะพัดกว่า 8.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานการประชุมพร้อมด้วย นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ได้นำ รมต.เศรษฐกิจอาเซียน 10 ชาติ และคู่เจรจาอีก 6 ชาติ ร่วมกันเปิดงานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง 2552 และการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ “อาเซียน แฟชั่น พลัส” หรือ บิฟฟ์ แอนด์ บิล 2009 แอนด์ อาเซียน แฟชั่น พลัส เพื่อเป็นการแสดงพลังของอาเซียนที่มีประชากรกว่า 570 ล้านคนให้ทั่วโลกได้รู้ถึงศักยภาพ โดยมีเป้าหมายผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางแฟชั่น-สิ่งทอ ซึ่งจะสามารถสนับสนุนอุตสาหกรรมส่งออกสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังของไทยได้เป็นอย่างดี
ประเทศไทยมีการค้าในอุตสาหกรรมสิ่งทอกับอาเซียนมากถึง 30,000 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 10% ของการส่งออกของไทยในตลาดอาเซียน ความร่วมมือของกลุ่มประเทศอาเซียน จะทำให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางการค้าสินค้าสิ่งทอของโลก โดยประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากการขยายฐานการผลิตของอุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มไปยังประเทศที่ค่าแรงงานถูก เช่น กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม เป็นต้น นอกจากนี้จะทำให้อาเซียนจะมีมูลค่าการค้าในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกว่า 8.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
"ไทยมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางด้านแฟชั่นและผ้าไหมทอมือในภูมิภาคเอเชีย จึงได้จัดงานอาเซียนแฟชั่นพลัสขึ้น โดยได้เชิญรัฐมนตรีเศรษฐกิจจากทุกประเทศเข้าร่วมงาน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประเทศสมาชิกให้เกียรตินำเสนอชุดแต่งกายประจำชาติของแต่ละประเทศด้วย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเชื่อมโยงตลาด และฐานการผลิตสินค้าแฟชั่นในอาเซียนด้วย " นางพรธิวากล่าว
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนครั้งนี้ไทยจะนำเสนอแนวคิดไทยครีเอทีฟอาเซียน เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ภายในอาเซียน ให้เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อให้การส่งออกสินค้าของประเทศไทยในอาเซียนขยายตัวได้มากขึ้นด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมระหว่างรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนกับภาคเอกชนอาเซียน หัวข้อ " การพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ" ปรากฎว่าภาคเอกชนในกลุ่มประเทศอาเซียนเสนอให้รัฐมนตรีอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ เร่งปรับปรุงประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมสิ่งทอในภูมิภาค โดยเสนอ 3 ประเด็นหลัก คือ 1.จัดตั้งกองทุน โดยขอเงินสนับสนุน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจ้างผู้เชี่ยวชาญและฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรในกลุ่มอาเซียนด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอ 2.การสร้างมาตรฐานฝีมือแรงงานของอุตสาหกรรมสิ่งทอภายในกลุ่มอาเซียนให้เข้มแข็ง และ 3.เปิดเว็บไซต์เพื่อให้ทั่วโลกรับทราบการพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทออาเซียน เพื่อสร้างความเข้มแข็งที่จะแข่งขันกับจีน
ที่มา: http://www.depthai.go.th