จากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2552 ไทยส่งออกมายังตลาดโลก 68,207.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจาก ปี 2551 ร้อยละ 23.5 โดยไทยส่งออกมายังตลาดอิตาลี 647.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปี 2551 ร้อยละ 41.4
จากข้อมูลของ ISTAT ได้เปิดเผยว่าในเดือน พ.ค. 2552 อิตาลีมีผลต่างระหว่างการส่งออกและนำเข้า ทั่วโลกเป็นบวก (ได้ดุลย์การค้า) โดยมีกำไร 1,187 พันล้านยูโร อันเนื่องมาจากการส่งออกของอิตาลีมีอัตราลดลง (-27%) และการนำเข้าลดลง (-30.8%) ในช่วงระหว่างเดือน ม.ค. — พ.ค. 2552 การส่งออกมีอัตราลดลง (-24.8%) และการนำเข้าลดลง (-25.6%) เปรียบเทียบระหว่างเดือน ม.ค. — พ.ค. 2551 ในเดือน พ.ค.2551 อิตาลีมีผลต่างติดลบ (เสียดุลย์การค้า) 84 ล้านยูโร
ในภาวะเศรษฐกิจโลกเกิดการถดถอยส่งผลให้ตลาดทั่วโลกได้รับผลกระทบโดยตรง โดยอิตาลีนำเข้าสินค้า หลักลดลงทุกรายการเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2551 ยกเว้นอาหารเลี้ยงสัตว์ที่มีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 4 ล้าน เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ18 ซึ่งสินค้าไทยที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน ได้แก่
1. สินค้าฟุ่มเฟือยที่ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดได้แก่ อัญมญีและเครื่องประดับ ซึ่งถือเป็นสินค้าที่ไท ทำการส่งออกเป็นอันดับหนึ่ง เดือนมกราคม-มิถุนายน 2551 อิตาลีนำเข้ามีมูลค่า 113.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว เพิ่มขึ้นร้อยละ 330 ส่วนเดือนมกราคม-มิถุนายน 2552 อิตาลีนำเข้าลดลงมีมูลค่า 92.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว ลดลงร้อยละ 18.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2551 โดยชาวอิตาเลียนชะลอการบริโภคสินค้าประเภทนี้อัน เนื่องมาจากรายได้ที่ลดลง ต้องการรอดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและยังถือเป็นสินค้าที่อยู่นอกเหนือความจำเป็น
2. สินค้าเกษตรที่ได้รับผลกระทบรองมาได้แก่ ข้าว ซึ่งเป็นสินค้าที่ไทยทำการส่งออกเป็นอันดับต้น ๆ ถึงแม้ว่าอิตาลีเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยเดือนมกราคม-มิถุนายน 2551 มีอัตราการ ขยายตัวการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 315.8 ซึ่งในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2552 มีอัตราการขยายตัวลดลงร้อยละ 48.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2551 สืบเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำส่งผลให้ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในอิตาลี หันมาบริโภคข้าวอิตาเลียนแทนเพราะมีราคาถูกถ้าเปรียบเทียบกับข้าวไทย
3. สินค้าคงทนที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมากในช่วงเวลาดังกล่าวได้แก่ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เดือนมกราคม-มิถุนาย 2552 อิตาลีนำเข้ามีมูลค่า 55 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวลดลงร้อยละ 65.3 เมื่อเทียบกับช่วง เวลาเดียวกันกับปี 2551 เนื่องจากในปี 2551 อิตาลีได้นำเข้ามีมูลค่า 182.4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยยังคงมีสินค้าอยู่ ใน Stock และในปี 2552 เป็นช่วงหน้าหนาวที่มีอากาศหนาวที่ยาวนาน ในอดีตชาวอิตาเลียนไม่นิยมใช้เครื่องปรับอากาศ เพราะมีความเชื่อว่าเครื่องปรับอากาศส่งผลกระทบไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ในปัจจุบันครอบครัวชาวอิตาเลียนและบริษัทต่างๆ หัน มาใช้เครื่องปรับอากาศเพิ่มมากขึ้นอันเนื่องมาจากสภาพโลกร้อนที่เกิดขึ้น
สินค้าส่งออก 20 อันดับแรกของไทยไปยังประเทศอิตาลีเดือนมกราคม-มิถุนายน 2552
อันดับที่ ชื่อสินค้า มูลค่า อัตราการขยายตัว % สัดส่วน %ล้านเหรียญสหรัฐ
2551 2552 2551 2552 2551 2552 1 อัญมณีและเครื่องประดับ 113.8 92.5 332.6 -18.7 10.3 14.3 2 เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 158.3 55.0 15.6 -65.3 14.3 8.5 3 ปลาหมึกสดแช่เย็น แช่แข็ง 59.8 49.9 9.1 -16.5 5.4 7.7 4 อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 31.5 27.9 35.0 -11.5 2.8 4.3 5 ผลิตภัณฑ์ยาง 32.4 26.3 25.8 -18.7 2.9 4.1 6 อาหารสัตว์เลี้ยง 22.2 26.2 21.0 17.9 2.0 4.0 7 รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 49.1 24.3 -52.5 -50.6 4.4 3.7 8 เสื้อผ้าสำเร็จรูป 31.5 23.7 15.4 -24.6 2.8 3.7 9 เคมีภัณฑ์ 54.6 23.1 70.7 -57.8 4.9 3.6 10 ยางพารา 80.8 19.8 20.5 -75.5 7.3 3.0 11 เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 25.3 19.6 -9.7 -22.3 2.3 3.0 อันดับที่ ชื่อสินค้า มูลค่า อัตราการขยายตัว % สัดส่วน %ล้านเหรียญสหรัฐ
2551 2552 2551 2552 2551 2552 12 เลนซ์ 17.4 16.6 3.6 -4.6 1.6 2.6 13 เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 52.9 16.3 -27.1 -69.3 4.8 2.5 14 เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ 18.8 12.4 67.1 -34.3 1.7 1.9 15 ข้าว 23.4 12.1 315.8 -48.3 2.1 1.9 16 เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน 17.6 11.2 11.7 -36.5 1.6 1.7 17 เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักร 20.8 10.9 -5.6 -47.5 1.9 1.7 18 ผลไม้กระป๋องและแปรรูป 16.7 10.8 58.3 -35.7 1.5 1.7 19 ผ้าผืน 15.5 10.5 -11.0 -31.9 1.4 1.6 20 เม็ดพลาสติก 26.6 9.3 14.9 -16.1 2.4 1.4 รวม 20 รายการ 869.0 498.2 17.67 -42.7 78.7 77.0 อื่น ๆ 234.9 148.9 -10.4 -36.6 21.3 23.0 รวมทั้งสิ้น 1,103.9 647.1 10.3 -41.4 100.0 100.0 ที่มา http://www2.ops3.moc.go.th/ เหตุผลการส่งออกไทยลดลงในปี 2552 ปัจจัยที่ส่งผลให้ไทยส่งออกมายังอิตาลีลดลง โดยมีผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงลดลง ของตลาดอิตาลี โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้
1. ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศอิตาลี (GDP) ไตรมาสที่ 2 ลดลง (-6%) โดยมีผลต่าง GDP (-0.5%) เปรียบเทียบจากไตรมาสที่ 1 นอกจากนี้ ISTATยังได้คาดการณ์สถานการณ์ GDP ของอิตาลี ในส่วนไตรมาสที่เหลือของ ปี 2552 ถ้า GDP ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลให้ในปี 2552 GDP ของอิตาลีจะลดลง (-5.1%)
2. การผลิตที่ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2552 การผลิตลดลง (-21.5%) เปรียบเทียบจากช่วง เวลาเดียวกันในปี 2551
3. ในปี 2552 จำนวนของผู้ว่างงานในอิตาลีอาจมีจำนวนถึง 300,000 คน ถึงแม้ในปี 2553 มีการคาด การณ์แนวโน้มของอัตราการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น 9.3%
4. การบริโภคสินค้าของชาวอิตาเลียนในปี 2551 ลดลงร้อยละ 1 เปรียบเทียบจากปี 2550
ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจของอิตาลีจะตกอยู่ในภาวะที่ตกต่ำ แต่ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางองค์การ บริหารและพัฒนาเศรษฐกิจ L’OCSE (Organizzazione per la Cooperazione e lo Sviluppo Economico) ได้มีการเปิดเผยถึงภาคอุตสาหกรรมของประเทศอิตาลีมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้เร็วกว่าประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป โดย มีดัชนีของตัวเลข (+2.2 จุด)
สำหรับแนวทางในการเตรียมการรับมือของผู้ส่งออกไทยและผู้ที่สนใจทำการส่งออกมายังตลาดอิตาลี โดยผู้ ส่งออกไทยควรเน้นส่งออกสินค้าที่ชาวอิตาเลียนมีการบริโภคเพิ่มขึ้น เช่น อุปกรณ์โทรศัพท์และโทรศัพท์มือถือ ปี 2551 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 189) อุปกรณ์/เครื่องมือในการทำบ้านและเครื่องมือในการทำสวน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.3) เป็นต้น
ในส่วนของการบริโภคสินค้าที่ลดลงของชาวอิตาเลียน ทางผู้ส่งออกเองก็ควรที่จะเตรียมรับมือกับสภาวะ ดังกล่าว โดยอาจจะมีการยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจให้กับอิตาลีหรืออาจมองหาตลาดส่งออกรายใหม่ที่มีความต้องการนำเข้า สินค้าไทย นอกจากนี้ ผู้ส่งออกไทยควรศึกษาหาข้อมูลในการพัฒนาตัวสินค้าให้มีประสิทธิภาพ โดยเน้นในเรื่องคุณภาพและ ราคาที่เหมาะสม อันเนื่องจากไทยมีคู่แข่งประเทศที่สำคัญ ได้แก่ จีน อินเดีย เป็นต้น
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน
ที่มา: http://www.depthai.go.th