วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 นี้ เป็นวันครบรอบหนื่งปีที่เมืองมุมไบถูกโจมตีจากผู้ก่อการร้าย ตามจุดสำคัญๆของเมือง คือ โรงแรมห้าดาว 3 แห่ง สถานีรถไฟหลัก และที่อื่นๆอีก มีชาวอินเดียและชาวต่างชาติเสียชีวิตรวมกัน 160 คน แต่ ณ วันนี้เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2007 และ 2008 เศรษฐกิจของอินเดียยังเติบโตในทางบวก จึงเป็นตลาดที่นักธุรกิจไทยควรรุกและบุก เพราะกำลังซื้อ 350 ล้านคน ยังรอสินค้าไทยเข้าตลาด
Indian Economy Update
1. India's GDP 2008 2009 2010 (Estimated) US$ 1139 Billion US$ 1322 Billion US$ 1512 BillionThe Economic Indicator of India
Year 2007 2008 2009 2010Estimated
GDP (Growth Real) 9.2 8.5 9.0 6.2 Inflation Rate 6.4 6.5 7.2 4.4 (Fluctuates) Export Growth (%) 22.8 23.0 26.0 18.6 Export (US$ Billion) 163.0 220.0 261.0 289.0 Import Growth (%) 25.0 29.0 36.0 31.0 Import (US$ Billion) 384 452 672 721 Source:o Reserve Bank of India
o http://www.indexmundi.com/india/gdp_real_growth_rate.html
o http://in.biz.yahoo.com/091119/137/baum5a.html
o http://en.wikipedia.org/wiki/Economy_of_India
o World Trade Atlas
หลังวิกฤติการก่อการร้ายและการถดถอยของเศรษฐกิจโลก กลุ่มนักธุรกิจไทยเริ่มหันมามองตลาดอินเดียมากขึ้น สมาคมต่างๆเดินทางเข้าตลาดอินเดีย เช่น สมาคมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สมาคมของเล่นและของใช้เด็ก สมาคมเฟอร์นิเจอร์ สมาคมนักการตลาด สมาคมอัญมณีและเครื่องประดับ สมาคมผู้ผลิตผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ เป็นต้น และคาดว่าในปีหน้าจะมีอีกหลายสมาคมที่หันมาหาตลาดอินเดีย เพราะตัวชี้วัดข้างต้น
จิราภรณ์ ตุลยานนท์
ผอ.อาวุโส / กงสุล ฝ่ายการพาณิชย์ สคต.มุมไบ
ที่มา: http://www.depthai.go.th