1. หลังจากที่ธนาคาร Hypo Group Alpe Adria ของออสเตรีย ที่ธนาคารแห่งแคว้นบาวาเรีย (BayernLB) ได้เข้าถือหุ้นจำนวน 67 % ในปี 2550 เป็นมูลค่า 1,700 ล้านยูโร เริ่มมีปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินจากธุรกิจที่ทำในยุโรปกลางและยุโรปตอนใต้ ทำให้ BayernLB ต้องเพิ่มทุนให้อีก 2 ครั้งๆ ละ 1,100 ล้านยูโรในปีต่อๆ มา แต่ก็ไม่สามารถคลี่คลายปัญหาได้ สุดท้ายต้องขายหุ้นคืนกลับให้ธนาคาร Hypo Group Alpe Adria ในราคา 1 ยูโร รวมทั้งยอมสละหนี้สินมูลค่า 825 ล้านยูโรอีกด้วย รวมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ BayernLB เป็นวงเงินทั้งสิ้น 3,700 ล้านยูโร ประธานคณะบริหารของธนาคาร BayernLB จึงได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมานี้
2. มาตรการด้านภาษีและการเงินของรัฐบาลชุดเก่าเพื่อแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ ได้มีการดำเนินการต่อโดยรัฐบาลชุดใหม่ โดยรัฐบาลชุดใหม่ได้พิจารณาออกกฏหมายเพื่อเอื้อคนทำงานและผู้ประกอบการ ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เสียภาษีน้อยลง เช่น การเพิ่มเงินช่วยบุตรคนละ 10 ยูโรเป็น 164 ยูโร/เดือน/คน การลดภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับค่าโรงแรมที่พักจาก 19 เป็น 7 % การชดเชยเงินสวัสดิการของคนงานแทนนายจ้าง ตลอดจนการตั้งงบส่งเสริมการศึกษา การค้นคว้าวิจัย การพัฒนาท้องถิ่น เป็นต้น โดยปี 2553 จะตั้งงบประมาณเป็นวงเงิน 325,400 ล้านยูโร ในจำนวนนี้เป็นเงินกู้ประมาณ 86,100 ล้านยูโร เพื่อกิจการเหล่านี้จะออกกฏหมายใหม่ที่สภาล่างลงมติเห็นชอบแล้ว รอให้สภาสูงที่ประกอบด้วยตัวแทนของแคว้นต่างๆ ลงมติเห็นชอบก่อนจึงจะมีผลใช้บังคับได้ อนึ่ง การใช้กฏหมายฉบับนี้จะทำให้เยอรมนีมีภาระผูกพันในวงเงินประมาณ 8,000 ล้านยูโร โดยส่วนกลางจะรับผิดชอบครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือแต่ละแคว้นจะต้องช่วยกันรับผิดชอบ จึงอาจมีผลทำให้ร่างกฏหมายฉบับนี้ไม่ได้รับการเห็นชอบจากสภาสูงที่จะลงคะแนนเสียงกันในวันที่ 18 ธันวาคม 2552 นี้
3. ในแต่ละปีการค้าปลีกของเยอรมนีจะมีมูลค่าประมาณปีละ 400,000 ล้านยูโร โดยในช่วงปลายปีจะมียอดการซื้อขายสินค้าคิดเป็นส่วนแบ่งราวร้อยละ 20 — 25 ของการค้าตลอดทั้งปี ซึ่งร้านค้าปลีกต่างหวังว่า ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายจะมีการจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น ทำให้ตลอดทั้งปียอดมูลค่ารวมของการค้าปลีกจะลดลงเล็กน้อยประมาณร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับปี 2551 อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายโดยรวมยังคงน้อยกว่าปีก่อนมาก เนื่องจากความไม่แน่นอนของตลาดแรงงาน ที่ยังมีการปลดคนงาน กิจการล้มละลายกันอยู่มาก โดยตลอดทั้งปี 2552 นี้คาดว่าจะมีกิจการล้มละลายเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 16 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 34,300 ราย สินค้าสำคัญๆ ที่จำหน่ายได้มากในช่วงนี้จะเป็นของเล่นเด็ก
4. สำหรับการระบาดของไข้หวัดหมูนั้น ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2552 สถาบัน Robert Koch ได้รายงานว่า มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อ H1N1 ในเยอรมนีจำนวนทั้งสิ้น 192,348 คน และได้เสียชีวิตแล้ว 92 คน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีโรคเรื้อรังและเด็กเล็ก โดยทั่วโลกมีจำนวนผู้เสียชีวิตประมาณ 11,000 คน เป็นตัวเลขที่ทำให้ ในเยอรมนีมีผู้สนใจน้อยที่จะไปรับการฉัดวัคซีนป้องกัน
5. การขอยืดเวลาการชำระหนี้สินของดูไบ ได้รับการช่วยเหลือจาก Abu Dhabi ในนาทีสุดท้ายเป็นจำนวน 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แล้ว จากหนี้สินรวม 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ปัญหาของดูไบยังคงไม่มีผลกระทบรุนแรงใดๆ ต่อตลาดในเยอรมนี เพราะนอกเหนือจาก Benz และ Hochtief แล้วกิจการของเยอรมันอื่นๆ ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ นอกจากนี้ ที่ผ่านมาได้มีการคาดการณ์แล้วว่าประเทศอื่นๆ ในเครือจะต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลืออย่างแน่นอน
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศฯ กรุงเบอร์ลิน
ที่มา: http://www.depthai.go.th