ภาวะการค้าไทย-ฮ่องกง เดือนม.ค.2553

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 5, 2010 14:21 —กรมส่งเสริมการส่งออก

มูลค่าการค้ารวม 931.48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 29.46 เมื่อเทียบกับ ม.ค. 52 (-29.82%)

  • ไทยส่งออก มูลค่า 817.37 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 34.02 (ปี 52-31.57%)
  • ไทยนำเข้า มูลค่า 114.11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.12 (ปี 52 -18-16%)

ไทยเป็นฝ่านได้ดุลการค้าเป็นมูลค่า 703.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สินค้าที่มีศักยภาพดีได้แก่ หนังสือและสิ่งพิมพ์ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เม็ดพลาสติก เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ยาง หนังและส่วนประกอบ

ฮ่องกงถือเป็นตลาดสำคัญของสินค้าส่งออกไทย มีสัดส่วนร้อยละ 5.96 ของการส่งออกทั้งหมดของไทย

1. ตัวเลขในช่วงไตรมาสของปีนี้น่าจะมีแนวโน้มเป็นบวกต่อเนื่อง เพราะปีที่แล้วตกต่ำลงมากทำให้ฐานคำนวนไม่สูง ประกอบกับเศรฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะจีนมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง

2. สินค้าที่มีศักยภาพ ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่มีเป็นวัตถุดิบทั้งขั้นปฐมภูมิและทุติยภูมิเพื่อไปผลิตต่อสำหรับใช้บริโภคภายในจีน หรือส่งต่อไปประเทศอื่น

3. สินค้าที่บริโภคในฮ่องกง และไทยที่มีศักยภาพ ได้แก่ สินค้าอาหาร ข้าว ผลไม้สดและแปรรูป แต่ปัจจุบันเริ่มสูญเสียความสามารถในการแข่งขันเป็นลำดับ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ แม้ว่าไทยจะมีส่วนแบ่งตลาดเกือบร้อยละ 80 แต่ส่วนแบ่งดังกล่าวเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องให้ข้าวจากเวียดนามเนื่องจากมีราคาถูกว่า และคุณภาพใกล้เคียงข้าวไทยมากกว่าข้างจีน นอกจากนั้นเป็นที่น่าสังเกตว่าตั้งแต่ข้อตกลงการค้าเสรี ASEAN plus3 มีผลบังคับใช้เมื่อ ม.ค.2553 พ่อค้าฮ่องกงได้แจ้งว่าคุณภาพข้าวแบรนด์ไทยลดลง อาจมีการนำข้าวจากประเทศอาเซียนอื่นเข้ามาปลอมปนเพื่อลดต้นทุน ซึ่งในระยะยาวอาจกระทบภาพลักษณ์ที่ดีของข้างไทยต่อไป

4. เวียดนามถือเป็นคู่แข่งที่สำคัญในตลาดฮ่องกง ปัจจุบัน ทั้งสินค้าที่นำเข้าเพื่อส่งต่อไปประเทศอื่น (reexport) เช่น คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ อุปกรณ์โทรคมนาคม ผ้าผืน และสินค้าบริโภคภายในฮ่องกง เช่น อาหาร ข้าว และผลไม้ ได้ขยายเข้ามาตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้นเป็นลำดับดังจะเห็นสถิติการนำเข้าสินค้าจกาเวียดนามในปี 2552 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 27.3 ในขณะที่นำเข้าจากไทยลดลงร้อยละ 31.57 โดยรายการสินค้ามีความใกล้เคียงกับไทยมาก แม้ว่ามูลค่าส่งออกจะน้อยกว่าไทยก็ตาม โดยในปี 2552 ไทยส่งออกมาฮ่องกงเป็นมูลค่า 9,498.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เวียดนามส่งออกเป็นมูลค่า 1,269.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

5. ดังนั้นนอกเหนือจากการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ความเป็นมืออาชีพในการดำเนินการค้าต่างประเทศการแสงหาช่องทางการตลาดใหม่ๆ การสร้างแบรนด์ ฯลฯ สิ่งสำคัญที่ยังมีผลต่อการตัดสินใจซื้อโดยเฉพาะสินค้าขั้นต้น คือ ราคา การที่เวียดนามลดค่าเงินด่อง ถึง 2 ครั้งภายในเวลาใกล้ๆ กัน ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้สินค้าไทยมีราคาแพงกว่าเวียดนามถึงร้อยละ 15 ดังนั้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข็งขันของสินค้าไทย จึงต้องพยายามเร่งสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าพร้อมๆ ไปกับการหาประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ การส่งเสริมให้เอกชนไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศที่อยู่ใกล้วัตถุดิบใกล้ตลาดอาจเป็นทางออกอีกทางหนึ่ง

สคร.ฮ่องกง

ที่มา: http://www.depthai.go.th


แท็ก ฮ่องกง   สหรัฐ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ