ภายหลังจากที่ Forbes ได้จัดอันดับเศรษฐีระดับโลก ซึ่งมีเศรษฐีชาวจีนแผ่นดินใหญ่ติดอันดับ 64 คน Mr.Peter Bisson ประธานบริษัท Mckinsey&Co., ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ ได้แสดงทัศนะว่าเป็นการส่งสัญญานถึงการเริ่มเปลี่ยนขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจโลกจากประเทศตะวันตกสู่ประเทศในเอเชีย และมีผลต่อเศรษฐกิจการค้าโลก ดังนี้
- การจัดระเบียบของเศรษฐกิจโลก (Global Economy): วิกฤติทางด้านการเงินของโลกที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้เป็นแรงสั่นสะเทือนที่ก่อให้เกิดการจัดระเบียบโครงสร้างทางเศรษฐกิจในระยะยาว ทำให้ทุกคนเริ่มถกเถียงเกี่ยวกับประเด็น “new normal” ทั้งๆที่ไม่มี “new normal” เกิดขึ้น เนื่องจาก ในความเป็นจริงได้มีแนวโน้มที่จะปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจมาเป็นเวลา 40 ปีแล้ว โดยจะเห็นได้จากกระบวนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจโลกภายใต้ระบบเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน การสร้างความสมดุลแห่งอำนาจทางเศรษฐกิจภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์ และการเกิดผู้นำธุรกิจใหม่ๆ ตลอดเวลา
- การเกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ(Crucibles of Innovation): ผลจากการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ (the Great Rebalancing) เป็นครั้งแรกในรอบร้อยๆ ปี โดยตลาดเกิดใหม่ (emerging market)มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว ทำให้มีผู้บริโภคที่เป็นคนชั้นกลางเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าตัวเป็นจำนวนมากกว่าพันล้านคน ก่อให้เกิดสินค้าและบริการใหม่ ๆ ที่เน้นการสร้างคุณค่า (value-based products and services) ให้กับผู้บริโภค ซึ่งต้องตอบสนองผู้บริโภคทั้งในด้านความต้องการใช้และราคาสินค้าและบริการ (tailored to the needs and price)
- การปรับตัวของธุรกิจในประเทศตะวันตก: จากแนวคิดของ Prof. Clay Christensen กูรูจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่ว่า ธุรกิจที่เริ่มต้นที่ตลาดล่าง (lower end of the market) จะประสบปัญหามาก และการครองส่วนแบ่งตลาดจะมี 2 รูปแบบ ได้แก่ ครองส่วนแบ่งตลาดในรูปรายได้กับครองส่วนแบ่งตลาดในรูปปริมาณสินค้า โดยบริษัทของเอเชียส่วนใหญ่จะครองส่วนแบ่งตลาดในรูปปริมาณสินค้า (unit-share leadership) ดูได้จากตลาดสินค้าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างของโลก จะเห็นว่าบริษัทของประเทศตะวันตกจะครองส่วนแบ่งตลาดในรูปรายได้และบริษัทของจีนจะครองส่วนแบ่งตลาดในรูปของปริมาณสินค้า โดยบริษัทของจีนเหล่านี้เป็นบริษัทที่ไม่มี
- การใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงเครือข่าย Global Grid: ตลาดทุน ตลาดการค้า และข้อมูลข่าวสารที่เชื่อมโยงกันทั้งโลก (Global capital market , trade market and flow of information) มีส่วนสนับสนุน just-intime supply chain ดังนั้นบริษัทธุรกิจการค้าจะต้องสร้างเครือข่ายเพื่อเชื่อมโยงกับตลาดทุน ตลาดการค้าและข้อมูลข่าวสารดังกล่าวให้ได้ กล่าวคือบริษัทอาจจำหน่ายสินค้าในตลาดสหรัฐอเมริกา โดยสินค้านั้นผลิตหรือใช้ทรัพยากร(sourcing) ในประเทศจีนและใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของอิสราเอล ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมทางการค้าที่มีการสร้างมูลค่าจาก global grid ดังกล่าว
ค่าเงินแคนาดาแข็งขึ้นเกือบเท่าค่าเงินของสหรัฐ โดยณ วันที่ 19 มีนาคม 2553 เงิน 1 เหรียญแคนาดาสามารถแลกเงินเหรียญสหรัฐฯ ได้ 98.39 เซ็นต์ จากเดิมที่ในปี 2551 เงินเหรียญแคนาดา 1.40 เหรียญแคนาดาจะแลกเงินเหรียญสหรัฐได้ 1 เหรียญ และปี 2552 เงินเหรียญแคนาดา 1.14 เหรียญจะแลกเงิน เหรียญสหรัฐฯ ได้ 1 เหรียญ ทำให้มีการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกามากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจผู้ผลิตสินค้าในประเทศแคนาดาอย่างมาก
กรมศุลกากรแคนาดา (Canada Border Services Agency) ได้ประกาศเรียกเก็บภาษี Anti-Dumping สินค้าเหล็กจากจีนร้อยละ 166.9 เนื่องจากพบว่า มีการทุ่มตลาดจริงซึ่งสร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมเหล็กของแคนาดา
ขณะนี้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในแคนาดาปรับเพิ่มสูงขึ้น เช่น หมวดอาหาร ผัก ผลไม้ อาหารกระป๋อง เพิ่มสูงขึ้น 12.6% น้ำตาลและขนมปังและขนมขบเขี้ยว 8.6% อาหารสัตว์เลี้ยง 8.5% ค่าโดยสารรถยนต์ รถเมล์ ค่าทางด่วน 9.3% ค่าเล่าเรียน 4.1% ค่าประกันภัยทุกประเภทค่าธรรมเนียมธนาคาร ค่านิตยสารและค่าเสื้อผ้า 10-15% ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในแคนาดาเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่ธนาคารชาติแคนาดา (Bank of Canada) กำหนดไว้ในปี 2553 ที่อัตราร้อยละ 2
สคร.โตรอนโต
ที่มา: http://www.depthai.go.th