1. รายได้ของภาคธุรกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้น ตามความต้องการจากประเทศเอเชียที่เศรษฐกิจขยายตัวเร็ว ทำให้รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นมั่นใจว่าจะไม่เกิด double-dip recession รวมทั้งนักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่า GDP ญี่ปุ่นตั้งแต่ไตรมาส 1 ของปี 2553 สามารถคงอัตราการเจริญที่ระดับ 1-2% ต่อปี เศรษฐกิจฟื้นตัวไม่เต็มที่นัก เนื่องจากมีแรงกดดัน เช่น ภาวะเงินฝืด บริษัทยังมีกำลังการผลิต และกำลังแรงงานส่วนเกิน โดยการส่งออกและการผลิตขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 80 % ของระดับสูงสุด ขณะที่กำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ประมาณ 40% จึงมีโอกาสน้อยที่การลงทุนและการจ้างงานจะขยายตัวสูง
2. อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นเมื่อปรับฤดูกาลแล้ว เดือนกุมภาพันธ์ 2553 มีอัตรา เท่ากับเดือนมกราคมคือ 4.9 %
3. ผลการสำรวจของ Nikkei Inc. ซึ่งสอบถามบริษัทเกี่ยวกับอาหารและสินค้าประจำวันในญี่ปุ่น 40 รายเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม 2553 พบว่า 40 % หรือจำนวน 17 บริษัทมีแผนที่จะลดราคาสินค้าลงตามแรงกดดันจากผู้ค้าปลีก
นอกจากนี้ 38% หรือจำนวน 15 รายจะนำผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่วางตลาดเพื่อรับมือกับ สินค้า private label ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก
4. กระทรวงเกษตร ฯ ญี่ปุ่นกำหนดเป้าหมายอัตราการพึ่งพาตนเองด้านอาหารในปี 2020 ไว้ในรายงานด้านการเกษตรสำหรับทศวรรษหน้า ในอัตรา 50% ปรับขึ้นจากเดิมที่กำหนดไว้ 45 %
รายงานดังกล่าวเสนอแนะให้ขยายความช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้ผลิต ข้าว-สาลี ถั่วเหลือง นม และปศุสัตว์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ญี่ปุ่นพึ่งพาการนำเข้าในอัตราสูง
ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตราการพึ่งพาตนเองด้านอาหารของญี่ปุ่นอยู่ที่ 41% เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวจำเป็นต้องเพิ่มการพึ่งพาอาหารที่ผลิตภายในประเทศมากขึ้นเฉลี่ยปีละ 1%
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: http://www.depthai.go.th