ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และหุ้น ช่วยสร้างคนร่ำรวยในเมืองจีนให้มีมากขึ้น

รายงานจัดอันดับความร่ำรวยปี2010 ของศูนย์วิจัยหูยุ่นประเทศจีน เปิดเผยข้อมูลเศรษฐีจีน(ระดับสิบล้านหยวนขึ้นไป)ปี 2009 มีจำนวน 875,000คน มากกว่าปีที่แล้วซึ่งมีจำนวน 825,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 ส่วนมหาเศรษฐี(ระดับร้อยล้านขึ้น)มีจำนวน 55,000คนเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 4,000 คน

รายงานเป็นผลสำรวจจนถึงปลายปี 2009 ในขอบเขต 31 มณฑลไม่รวมฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน สามอันดับแรกมณฑลที่มีเศรษฐีมากที่สุดได้แก่ ปักกิ่ง กวางตุ้ง และเซี่ยงไฮ้ รวม 418,000 คน คิดเป็นร้อยละ 47.77 ส่วนลำดับที่ 4 ถึง 8 ก็ยังคงอยู่ในแถบมณฑลชายฝั่งคือ เจ้อเจียง เจียงซู ฟูเจี้ยน ซานตง เหลียวหนิง ส่วนมณฑลแผ่นดินตอนใน เศรษฐีมณฑลเสฉวนจัดอยู่ลำดับที่ 9 คือมีจำนวน 22,100 คนเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 21,200 หมื่นคน นอกจากนี้จำนวนมหาเศรษฐีมีถึง 1,520 คน และมีลักษณะกระจุกอยู่ในเขตเมืองเฉิงตู กล่าวคือเมืองเฉิงตูมีเศรษฐีจำนวน 13,500 คน และมหาเศรษฐีจำนวน 730 คน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 61 และ 48 ตามลำดับ

ความร่ำรวยมีปัจจัยสืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจจีนปี 2009 เติบโตสูงถึงร้อยละ 8.7 และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เศรษฐีส่วนใหญ่อายุเฉลี่ย 39 ปีแบ่งเป็น 4 กลุ่มคือ นักธุรกิจ ผู้มีรายได้สูง นักปั่นราคาอสังหาริมทรัพย์ และนักเล่นหุ้น ในส่วนมหาเศรษฐีอายุเฉลี่ย 43 ปีขึ้นไป เพศชายคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 82 รายได้ส่วนใหญ่มาจากการสร้างธุรกิจเอง รวมถึงรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ และการเล่นหุ้นเป็นต้น รายงานยังเผยอีกว่าได้สำรวจความสนใจของมหาเศรษฐีในเรื่องการซื้อเครื่องบิน และเรือสำราญส่วนตัว พบว่าจำนวน 1 ใน 6 มีความต้องการซื้อและมีศักยภาพที่จะซื้อ ซึ่งถือเป็นโอกาสของธุรกิจประเภทนี้ ซึ่งสำนักวิจัยยอมรับว่าการสำรวจยังไม่ครอบคลุมสมบูรณ์เนื่องจากยังมีคนร่ำรวยอีกมากที่ยังไม่ได้บันทึกเข้าสู่สารบบ

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทส ณ นครเฉิงตู

ที่มา: http://www.depthai.go.th