ตลาดค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ของสหรัฐอเมริกาในปี 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 23, 2010 14:20 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ยอดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รวมของร้านค้าปลีกในสหรัฐฯสหรัฐฯ ในปี 2552 มีมูลค่า 51.03 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือลดต่ำกว่าปี 2551 ร้อยละ -9.95 ยอดจำหน่ายของร้านค้าปลีก Chain Store 100 อันดับแรก (Top 100 Furniture Retailers) รายชื่อในตอนท้ายรายงาน คิดเป็นประมาณร้อยละ 55 ของยอดจำหน่ายรวมเฟอร์นิเจอร์ของสหรัฐฯ

ยอดจำหน่ายของร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ระดับใหญ่ 10 อันดับแรกของสหรัฐฯ ได้แก่ Ashley Home Store, IKEA, Room-to-Go, Nebraska Furniture Mart, Ethan Allen และ La-A-Boy เป็นต้น รวมกันมีมูลค่าประมาณ 12.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 25 ของยอดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รวมของสหรัฐฯ ในปี 2553

การปรับตัวดีขึ้นของสถานการณ์เศรษฐกิจของโลกในปี 2553 เป็นผลดีต่อการขยายตัวของตลาดเฟอร์นิเจอร์ ความต้องการของตลาดโลกจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลการการเพิ่มการผลิตในสหรัฐฯ ปัจจัยที่จะส่งผลต่อการขยายตัวตลาดเฟอร์นิเจอร์ของสหรัฐฯ คือ

1. ความมั่นใจของผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจ (Consumer Confidential Index) เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค

2. ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯอ่อนตัวเมื่อเทียบกับเงินสกุลต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งออกสินค้าของสหรัฐฯ รวมไปถึงการส่งออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์ของสหรัฐฯ

3. เงินงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ (Economic Stimulus Package) ส่งผลต่อการเพิ่มการจ้างงานและรายได้ของผู้บริโภค

3. อัตรา Foreclosure ลดลงเป็นลำดับ เนื่องจากแผนการช่วยเหลือของรัฐบาล

4. การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ส่งผลกระทบต่อการลงทุน

5. อุตสาหกรรมก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ (New Housing) เริ่มขยายตัว และรวมไปถึงการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ และ ศูนย์การค้า

6. การปรับปรุงกฎระเบียบทางการค้าเพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าของสหรัฐฯ

นักวิเคราะห์ตลาดค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ของสหรัฐฯ (National Retail Federation)คาดการณ์ว่า ตลาดค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ของสหรัฐฯ ในปี 2553 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ประมาณร้อยละ 2.0 — 3.0 หรือมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 52.30 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ในขณะเดียวกัน คาดว่า สหรัฐฯ จะนำเข้าเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ประมาณร้อยละ 15 ในปี 2553 อนึ่ง การนำเข้า เฟอร์นิเจอร์ของสหรัฐฯ ระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2553 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2552 ร้อยละ 12.6

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ