เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา สครบูดาเปสต์ได้เยี่ยมชมงานแสดงสินค้า Industria ซึ่งจัดที่ Hungexpo, ระหว่างวันที่ 4-7 พฤษภาคม 2553 เพื่อเป็นการสำรวจแนวโน้มผลิตภัณฑ์ สินค้าประเภทเครื่องกล และส่วนประกอบ และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์รักษาความปลอดภัย อุปกรณ์สลักเหล็ก อุปกรณ์กักเก็บพลังงาน เป็นต้น ซุ้มการแสดงสินค้าและนวัตกรรมในงานนี้ แบ่งเป็น 5 บริเวณได้แก่
1. บริเวณการแสดงสินค้าอุตสาหกรรม หรือ Industria ครอบคลุมพื้นที่กว่า 8,000 ตารางเมตร มีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 380 ราย บริเวณการแสดงสินค้าอุตสาหกรรมนี้ ได้จัดให้มีการรวบรวมสินค้าด้านเทคโนโลยีการผลิตและการใช้พลังงาน ภายใต้ชื่อ ENERGEXPO, เทคโนโลยี Hydrocarbon Processing ซึ่งรวมอยู่ภายใต้ชื่อ FLUIDTECH, SUBCONS + และเทคโนโลยีด้านโลจิสติกส์ หรือ LOGEXPO สินค้าที่นำมาแสดงดังกล่าวนี้ต่างก็สร้างความตื่นเต้นให้ผู้เข้าชมอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการแสดงสินค้าประเภทเครื่องจักรกล นวัตกรรมสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม เช่น นวัตกรรมMBN หรือ Multistage Ring Section Pumps และนวัตกรรมสำหรับเครื่องใช้ในสำนักงาน เช่นเครื่องสแกนเอกสารระบบ 3 มิติ เป็นต้น
2. บริเวณแสดงเทคโนโลยีไฟฟ้า หรือ Electrosalon ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร มีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 115 ราย ซึ่งต่างมาแสดงศักยภาพการพัฒนาและวิจัยเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมการไฟฟ้าของฮังการี ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีการผลิตและการจัดตั้งระบบไฟฟ้าในโรงงาน การกักเก็บพลังงาน เทคโนโลยีการใช้เครื่องจักรกล เทคโนโลยีการฉายแสง และรังสี เป็นต้น ในบริเวณการสาธิตเทคโนโลยีไฟฟ้านี้ จะมีการแสดงลำดับการพัฒนาไฟฟ้าในฮังการีตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน และมีการจัดตั้งซุ้มของพิพิธภัณฑ์วิศวกรรมการไฟฟ้าอีกด้วย
3. บริเวณการแสดงสินค้าเคมีภัณฑ์ หรือ Chemexpo ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,500 ตารางเมตร มีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 110 ราย แสดงศักยภาพการพัฒนาสินค้าเคมีภัณฑ์และพลาสติกทั้งจากฮังการี และจากต่างประเทศ ผู้ร่วมการแสดงสินค้าที่สำคัญในประเภทนี้ ได้แก่ สมาคมอุตสาหกรรมยางฮังการี และ สมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกฮังการี สองหน่วยงานนี้เป็นหน่วยงานหลักที่รับรองมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ยางและสินค้าพลาสติกในฮังการี
4. บริเวณการแสดงอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยในโรงงาน หรือ Securex ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,500 ตารางเมตร มีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 1.300 ราย หัวข้อความปลอดภัยในโรงงานนี้เป็นหัวข้อหนึ่งที่ผู้เข้าชมต่างมีความสนใจเป็นอย่างยิ่ง และเป็นหัวข้อหลักของวันที่3 ในการนิทรรศการการแสดงสินค้าครั้งนี้ ซึ่งเปิดโอกาสให้บริษัทไม่ว่าจะเป็นSME หรือบริษัทใหญ่ๆที่มีเครือข่ายระหว่างต่างประเทศได้แสดงสินค้าประเภทความปลอดภัย อาทิเช่น เสื้อผ้าป้องกันไฟของผู้ทำงานในโรงงาน อุปกรณ์สัญญาณเตือนภัย เป็นต้น นอกจากนี้ ทางผู้จัดนิทรรศการยังได้จัดให้มีการพบปะ และการ ปราศรัยบนเวทีเกี่ยวกับความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรมอีกด้วย การปราศรัยที่เรียกความสนใจให้ผู้มาชมงานเป็นอย่างมาก ได้แก่เรื่องการควบคุมหายนะที่เกิดขึ้นในโรงงาน ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการการควบคุมภัยพิบัติแห่งชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงมหาดไทยของฮังการี และการปราศรัยหัวข้อ "Protective Clothing as a priority Development in the EU" ซึ่งจัดโดย National Industrial Safety Forum Vegyiprop Kft
5. บริเวณการปราศรัย ในงานแสดงสินค้านี้ มีการจัดการบรรยาย เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมทุกวัน ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย การบรรยายนี้ แบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับหัวข้อการแสดงสินค้าประเภทต่างๆ สำหรับหัวข้อ Industria ก็จะมีการบรรยายเกี่ยวกับเทคโนโลยีการใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานแหล่งใหม่ๆ, นวัตกรรมด้านโลจิสติกส์และการขนส่งวัสดุ หรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตราย เป็นต้น สำหรับ ElectroSalon ก็มีการบรรยายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ ซึ่งผู้บรรยายได้สรุปเป็นประเด็นต่างๆได้อย่างน่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีหัวข้อเกี่ยวกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์ (Extending the working time of Paks Nuclear Power Station) และสำหรับ Chemexpo ก็มีการบรรยายหัวข้อต่างๆในอุตสากรรมยางและอุตสาหกรรมพลาสติก และนวัตกรรมต่างๆ เช่น ระบบ Injection molding สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น
ผู้ที่มาแสดงสินค้าในนิทรรศการการสินค้าสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมนี้มาจาก 24 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ออสเตรีย สาธารณรัฐเช็ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส ฟิลิปปินส์ เนเธอร์แลนด์ โครเอเชีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน โปแลนด์ สหราชอาณาจักร เยอรมนี อิตาลี โรมาเนีย สเปน สวิสเซอร์แลนด์ สวีเดน เซอร์เบีย สโลวาเกีย ลโลวาเนีย ยูเครน เวียดนาม และ ฮังการี
จากการสังเกตการณ์ของ สคร บูดาเปสต์ เทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งจากผู้เข้าชม และเป็นจุดดึงดูดของงานได้แก่ เทคโนโลยีที่ทำให้การใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เป็นไปอย่างยั่งยืน เช่น การปั๊มน้ำและการบำบัดน้ำเสียโดยระบบ Reverse Osmosis, และเทคโนโลยีด้านพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์โดยระบบ Photovoltaic ระบบการประหยัดพลังงานการให้แสงด้วย Automatic System Lights ด้วย LED-all-round decorative light และระบบ Twilight-dependent light switching with the photo electric switch CdS-SM เป็นต้น
ผู้ผลิตในยุโรปหลายรายต่างให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการลงทุนการวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยี ที่ทำให้การใช้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นไปอย่างยั่งยืน ซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดที่นำมาแข่งขันกับสินค้าที่มาจากจีนซึ่งมีราคาต่ำกว่า และเป็นที่คาดการณ์กันว่า เทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อการพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมนั้นจะเป็นจุดขายที่สำคัญในอนาคต
สคร.ณ กรุงบูดาเปสต์
ที่มา: http://www.depthai.go.th