ค่าสัมประสิทธิ์จีนี (Gini Coefficient) ของประเทศจีนได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2549 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 0.473 สะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางรายได้รุนแรงขึ้น สถาบันวิจัยทรัพยากรมนุษย์และระบบประกันสังคม เปิดเผยข้อมูลสำรวจความแตกต่างทางรายได้ระหว่างเมืองและชนบทพบมีมากถึง 3.3 เท่า ความแตกต่างของเงินเดือนในอาชีพต่างๆมีมากถึง 18-128 เท่า ล่าสุดมีการแบ่งกลุ่มรายได้เป็น 5 สี คือ ขาว ดำ เทา ทอง และแดงเลือด
การแบ่งกลุ่มสีตามรายได้ เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปในสังคมจีนปัจจุบัน กล่าวคือ กลุ่มรายได้สีขาว เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มผู้มีรายได้และสวัสดิการบริสุทธิ์ ถูกต้องตามกฎหมาย มีลักษณะเฉพาะคือสามารถคิดคำนวณรายได้ว่าอนาคตจะมีเงินเก็บออมเท่าไหร่ กลุ่มรายได้สีดำ เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้จากการประพฤติผิดกฎหมาย เช่นการคอรัปชั่น การขโมย การหลอกลวงต้มตุ๋น เป็นต้น กลุ่มรายได้สีเทา เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้มาจากพฤติกรรมก้ำกึ่งระหว่างการถูกและผิดกฎหมาย พบได้ทั่วไปในสังคมปัจจุบัน กลุ่มรายได้สีทอง กลุ่มคนที่มีรายได้จากการใช้ทุนต่อทุน เช่นทองคำ หุ้น การซื้อขายล่วงหน้า ให้ได้มาซึ่งรายได้ และกลุ่มรายได้สีแดงเลือด เป็นกลุ่มคนที่ประพฤติออกจากกรอบมนุษยธรรม ใช้เลือดเนื้อ และชีวิตคนแลกมาซึ่งรายได้
นายซู ไห่หนาน ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทรัพยากรมนุษย์และระบบประกันสังคม กล่าวว่า จากข้อมูลดังกล่าว รัฐบาลควรสนับสนุนกลุ่มรายได้สีขาวให้เป็นกระแสหลักของสังคมโดยการเพิ่มความมั่นคงทางรายได้ สวัสดิการ และระบบประกันสังคมให้กลุ่มสีนี้ มีมาตรการจัดการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มรายได้สีดำ และสีแดงเลือด ส่วนกลุ่มรายได้สีทอง เป็นกลุ่มที่รัฐบาลต้องสนับสนุน แต่ต้องควบคุมและชี้นำไปในทิศทางที่เกิดประโยชน์ต่อสังคม และกลุ่มรายได้สีเทา เป็นกลุ่มที่ขณะนี้มีแทรกซึมไปทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ เงินขอบคุณ เงินแป๊ะเจี๊ยะ ซึ่งคาดว่ามีมูลค่ามากถึง 4.8 ล้านล้านหยวน และกระจุกอยู่แต่ในเพียงกลุ่มคนรายได้สูงจำนวนร้อยละ 10
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
ที่มา: http://www.depthai.go.th