หนี้สาธารณะของเยอรมนี

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 21, 2010 15:23 —กรมส่งเสริมการส่งออก

เยอรมนีเป็นประเทศที่ประกอบด้วยแคว้น (Laender) หรือรัฐต่างๆ รวม 16 แคว้นที่ต่างมีการแบ่งแยก การบริหารเป็นอิสระ นอกจากนี้ แต่ละแคว้นยังมีการแบ่งส่วนออกเป็นท้องที่ (Kommun/Gemeinde)ที่มีอิสระในการบริหารเช่นกัน หากพิจารณาประเทศเยอรมนีตามพื้นที่ที่มีการบริหารตนเองเป็นอิสระเยอรมนีจะประกอบเขตปกครองดูแลตนเองกว่า 11,000 ท้องที่ อย่างไรก็ตาม ด้านการออกกฏหมายระเบียบข้อบังคับต่างๆ ของท้องที่เหล่านี้ จะต้องไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญกลางของประเทศเยอรมนี

เกี่ยวกับหนี้สินของแต่ละท้องที่ยังไม่มีหน่วยงานใดทำการแยกยอดหนี้สินของแต่ละท้องที่อย่างละเอียด จะมีแต่เพียงยอดรวมของประเทศและของแต่ละแคว้น ที่มีมูลค่า ณ เดือนพฤษภาคม 2553 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 1.707 ล้านล้านยูโร ในจำนวนนี้ประกอบด้วยหนี้สินของประเทศร้อยละ 61 ของแคว้นร้อยละ 33 ที่เหลือเป็นของเทศบาลท้องถิ่นและสำนักประกันสังคมต่างๆ หรือคิดเป็นหนี้สินต่อประชากร 1 คนจำนวน 20,890 ยูโร

ตามรายงานของกระทรวงการคลังของแต่ละแคว้นมียอดหนี้สินและโครงการที่จะกู้ยืมเงินเพื่อใช้ในปีงบประมาณ 2553 ดังนี้

แคว้น หนี้รวม (ปี 2553) หนี้ต่อคน หนี้ใหม่ปี 2553 (ล้านยูโร) (ยูโร) (ล้านยูโร) Nordrhein-Westfalen 122,686.6 6,860.0 9,000.0 Berlin 58,898.0 17,126.0 2,809.0 Niedersachsen 51,408.2 6,478.0 3,300.0 Baden-Wuerttemberg 42,203.0 3,926.0 2,646.0 Hessen 33,294.3 5,491.0 3,375.7 Bayern 27,544.6 2,203.0 0.0 Rheinland-Pfalz 27,140.5 6,758.0 2,664.0 Schleswig-Holstein 24,196.5 8,544.0 1,582.0 Hamburg 23,414.7 13,135.0 1,804.0 Sachsen-Anhalt 19,935.0 8,443.0 739.0 Brandenburg 16,806.0 6,683.0 651.0 Bremen 16,325.0 24,713.0 1,040.0 Thueringen 16,055.2 7,127.0 821.0 Saarland 11,151.4 10,886.0 1,197.0 Mecklenburg-Vorpommern 10,055.2 6,080.0 0.0 Sachsen 6,522.5 1,563.0 0.0 รวมทั้งสิ้น 507,636.7 136,016.0 31,628.7 ที่มา สำนักงานสถิติแห่งชาติ เยอรมนี เกี่ยวกับยอดหนี้สินมูลค่าล่าสุด ที่โฮมเพจ http://www.staatsverschuldung.de/schuldenuhr.htm จะมีการแสดงยอดหนี้สินปัจจุบัน เป็นจำนวน 1762 ล้านล้านยูโร (ก.ค. 2553) ตามข้อตกลงมาสตริช มีข้อกำหนดด้านการคลังของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป อนุญาตให้มีหนี้สินรวมทั้งสิ้นไม่เกินร้อยละ 60 ของ GDP และมีการขาดดุลงบประมาณได้ไม่เกินร้อยละ 3 ของ GDP สำหรับเยอรมนีปัจจุบันหนี้สาธารณะคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 71 ของGDP และมีการขาดงบประมาณร้อยละ 3.3 ของ GDP จากการที่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปต่างบอบช้ำจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา และต่อมาในประเทศทางตอนใต้ของยุโรป โดยเฉพาะกรีซ สเปนและปอร์ตุเกส ทางการของสหภาพยุโรปจึงได้กำหนดให้สมาชิกพยายามลดยอดหนี้สินต่างๆ และห้ามมิให้มีอัตราเกินร้อยละ 3 ภายในปี 2556 ในส่วนของเยอรมนี เมื่อปีก่อนหน้านี้ (2553) ได้มีการกำหนดไว้ในกฏหมายรัฐธรรมนูญให้รัฐบาลหาวิธีการ ดำเนินการต่างๆ ในช่วง 4 ปี ข้างหน้านี้ (พ.ศ.2554 - 2557) เพื่อลดหนี้สินให้ได้ปีละประมาณ 10,000 ล้านยูโร โดยในปี 2554 รัฐบาลชุดปัจจุบันได้ประกาศว่าจะลดหนี้สาธารณะเป็นจำนวน 11,000 ล้านยูโร งบประมาณของรัฐบาลเยอรมันที่ขาดดุล ทำให้มีหนี้สินเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งเกิดจากค่าใช้ด้านสวัสดิการสังคมที่เพิ่มสูงขึ้นมาโดยตลอด โดยเฉพาะด้านการประกันสุขภาพมียอดภาระค่าใช้จ่ายประมาณร้อยละ 11 ของ GDP หรือกว่าร้อยละ 30 ของงบประมาณของประเทศ ปัจจุบันผู้ประกอบอาชีพในเยอรมนีจะมีภาระค่าใช้จ่ายด้านภาษี สวัสดิการสังคม เบี้ยประกันในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการงานเป็นยอดรวมทั้งสิ้นประมาณร้อยละ 52 ของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายใดๆ จากการที่จำนวนคนชรา คนงานที่เกษียณอายุ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในขณะที่ผู้ประกอบอาชีพมีจำนวนคงที่หรือเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยทำให้รายได้ของรัฐบาลมีจำนวนลดลง จึงมีการปรับภาษี เบี้ยประกันโดยเฉพาะเบี้ยประกันสุขภาพเป็นอัตราที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ จากการประชุมตกลงครั้งล่าสุดของรัฐบาล ได้มีมติให้สำนักประกันสุขภาพเรียกเก็บเบี้ยประกันสุขภาพเป็นพิเศษได้ทุกเดือน โดยให้เพิ่มขึ้นอีกได้ร้อยละ 2 ของเบี้ยประกันต่อเดือน สูงสุดไม่เกิน 75 ยูโร อนึ่งในปี 2552 ที่ผ่านมา ยอดค่าใช้จ่ายสำหรับคนทำงานที่เกษียณอายุแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 79,200 ล้านยูโร หรือประมาณร้อยละ 28 ของงบรายจ่ายรัฐบาล ในขณะที่เมื่อ 25 ปีที่แล้ว มีจำนวน 16,800 ล้านยูโร หรือประมาณร้อยละ 13 ของงบรายจ่ายรัฐบาล ถึงแม้ว่า เยอรมนีจะมีภาระหนี้สาธารณะเป็นมูลค่าที่สูงมากก็ตาม แต่ในขณะเดียวกันเยอรมนีก็เป็นเจ้าหนี้ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกโดยมีวงเงินสูงกว่า 1 ล้านล้านยูโร นอกจากนี้ในฐานะที่เป็นประเทศอุตสาหกรรม มีรายได้สูงจากการส่งออกที่มีการเกินดุลมาโดยตลอด ทำให้ภาระหนี้สาธารณะไม่เป็นปัญหาที่ใหญ่เกินไปสำหรับประเทศ แต่การเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา วิกฤติในกรีซมาตรการปกป้องเงินสกุลยูโร เหล่านี้ทำให้เยอรมนีมีภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาล จึงจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ ออกมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นเพิ่มเติมเพื่อลดค่าใช้จ่ายของประเทศ การตัดงบประมาณรายจ่ายและเพิ่มรายรับด้วยการเก็บค่าธรรมเนียม เบี้ยประกันและภาษีต่างๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งหลายฝ่ายเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ลำเอียง มีการเรียกเก็บเงินเพิ่มจากผู้ที่ขัดขืนไม่ได้ นายทุนรวมทั้งผู้ประกอบการธนาคารที่"ป็นตัวการสำคัญของการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจได้รับผลกระทบน้อย ในขณะที่ผู้มีรายได้ระดับกลาง ผู้มีรายได้น้อยต้องแบกรับภาระเพิ่มมากขึ้น สคร. เบอร์ลิน ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ